เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ&nbsp นายธงชัย ชาสวัสดิ์ อธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แถลงภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างกรมการกงสุล กระทรวงแรงงาน กองทัพเรือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสมาคมการประมงนอกน่านน้ำไทย เพื่อหาวิธีการช่วยเหลือลูกเรือประมงชาวไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในประเทศ อินโดนีเซีย เดินทางกลับประเทศไทย ว่า ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่ามีความจำเป็นต้องบูรณาการการจ้างงานทำประมงนอกน่าน น้ำในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งวิธีการดูแลและเรื่องของกฎระเบียบ ทั้งนี้จะมีการเพิ่มทางเลือกให้ลูกเรือที่ตกทุกข์ได้ยาก สามารถเดินทางกลับเมืองไทยได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้วยวิธีการโดยสารกลับทางเรือแทนเครื่องบิน ซึ่งลูกเรือจะมีค่าใช้จ่ายด้วยการรับสภาพหนี้กับรัฐในการช่วยเหลือเป็นเงิน 30,000 บาท ยกเว้นลูกเรือที่ได้รับการตรวจสอบแล้วพบแน่ชัดว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จะถูกพากลับด้วยการเดินทางด้วยเครื่องบินเพื่อให้กลับประเทศได้อย่างปลอดภัย โดยไม่เสียเงิน ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ให้การคุ้มครองดูแลจนถึงการขึ้นเครื่องบิน
นายธงชัย กล่าวอีกว่า ลูกเรือที่ตกทุกข์ได้ยากจะต้องแจ้งขอความช่วยเหลือในการขอเดินทางกลับประเทศ ไทย ผ่านทางเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) อินโดนีเซียที่ประจำในท้องถิ่นนั้น ๆ ที่ลูกเรืออาศัยอยู่ เพื่อให้แจ้งมายังสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อที่ทางการไทยจะได้ประสานให้ความช่วยเหลือในทันที จากนั้นลูกเรือจะต้องผ่านการตรวจพิสูจน์เบื้องต้นว่ามีสัญชาติไทยจริงหรือ ไม่ และเป็นแรงงานที่ถูกหลอกลวงเท่านั้น สำหรับการประเมินเบื้องต้น ขณะนี้เราได้ช่วยเหลือลูกเรือไทยกลับมาประเทศไทยแล้ว จำนวน 6 คน และมีผู้ที่อยู่ในกระบวนการเตรียมส่งกลับ อีก 4 คน รวมถึงมีผู้ที่ทราบชื่อแล้วและอยู่ระหว่างการตรวจสอบความสมัครใจเดินทางกลับ ประเทศ 11 คน อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ายังคงมีลูกเรือที่ตกทุกข์ได้ยากในอินโดนีเซีย ประมาณ 35 คน ส่วนจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น เราต้องรอการประเมินและตรวจสอบรายละเอียดโดยสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ และกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ก่อนจะมีการสรุปตัวเลขที่ชัดเจนต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น