วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จนมุมแล้ว 4 โจรปล้นสถานีไฟฟ้าชนแดน

EyWwB5WU57MYnKOuFZkbwBxpkTIKNJJJL8jtsprKslYu72nAM2GKdA

 

ตามล่าตัวได้แล้ว 4 โจรก่อเหตุสุดอุกอาจ บุกจี้รปภ. สถานีไฟฟ้าชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เข้าไปตัดสายไฟฟ้า สายทองแดงขนขึ้นรถบรรทุกปฏิบัติการปล้นเย้ยกฎหมายนานถึง 3 ชั่วโมงสุดท้ายจนมุม เพราะหลักฐานที่เจอในร้านรับซื้อของเก่าที่นำไปขาย...กล้องวงจรปิด


เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 18 ก.ค. พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบช.ภ.6. พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.สุกิจ สมณะ ผบก.ภ.เพชรบูรณ์ พ.ต.อ.ปริญญา วิศิษฐ์ฎากุล พ.ต.อ.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน พ.ต.อ.ชูชาติ น้อยคนดี พ.ต.อ.อำนวย อยู่คง พ.ต.อ.อารักษ์ อ่อนแย้ม และ พ.ต.อ.สุทัศน์ มณสวัสดิ์ รอง ผบก.ฯ ร่วมกันสอบสวนและนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากยอมรับว่าก่อเหตุปล้นทรัพย์ที่สถานีไฟฟ้าชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์


ผู้ต้องหา 4 คน มี 1. นายธเนส หรือ เนส เกษทองมา อายุ 35 ปี หัวหน้าแก๊ง อยู่บ้านเลขที่ 47 ม. ต.เวียงสะอาด อ.พยัฆคภูมิพิสัย จ. มหาสารคาม 2. นายมนตรี หรือ ตรี เกษทองมา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 213 ม. 7 ต.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ 3. นายพนม หรือ นม จันทะรัตน์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212 ม. 7 ต.ท่าแดง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ และนายเด่นชัย หรือ หนึ่ง ละวิลด อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 212 ม. 7 ต.ท่าแดง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ (อายัดตัวคดีเสพยาเสพติดให้โทษ สภ.โนนแดง จ.นครราชสีมา)


ของกลางมี 1. ปลอกสายไฟฟ้าที่ปล้นจากสถานีไฟฟ้าชนแดน โดยยึดจากร้านพูลทรัพย์ฯ 2. รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน บพ 807 มหาสารคาม (ที่ใช้ก่อเหตุ) 3. แผ่นป้ายทะเบียน บพ 1263 กรุงเทพฯ (แผ่นป้ายทะเบียนปลอม) โดยกล่าวหาว่า ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ


ทั้งนี้ จากกรณี เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.57 เวลา 02.00 น. มีคนร้ายเป็นชาย 4 คนใช้เสื้อคลุมศีรษะปิดใบหน้า บุกใช้ปืนพกสั้นจี้บังคับ จับมัดมือมัดเท้านายไฉน ดิษฐ์ทอง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 บ้านเขาคณฑา ต.บ้านกล้วย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ เป็นรปภ.อยู่สถานีไฟฟ้าชนแดน หมู่ 4 ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ลากตัวเข้าไปด้านหลังสถานีไฟฟ้า แล้วลงมือตัดสายเคเบิล สายทองแดง เครื่องไฟฟ้าภายในสถานีฯ ใช้เวลาก่อเหตุร่วม 3 ชั่วโมง ก่อนที่คนร้ายจะนำรถบรรทุกเข้ามาขนสายเคเบิลมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทออกไป


เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบช.ภ.6. จึงสั่งการตามลำดับชั้นให้นำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.จว.เพชรบูรณ์ ภายใต้การนำของ พล.ต.ต.สุกิจ สมณะ ผบก.ภ.เพชรบูรณ์ และ พ.ต.อ.จารุพัฒน์ อรุณสวัสดิ์ ผกก.สภ.ชนแดน กก.สส.สระบุรี และสภ.หนองแค ได้ร่วมกันตรวจค้น ร้านพูลทรัพย์ (ร้านรับซื้อของเก่า) ตั้งอยู่ตรงข้าม อบต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีนายกิติชัย แซ่จ๋าว อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของ จากการตรวจค้นพบปลอกสายไฟฟ้าที่ถูกปอกแล้วจำนวนมาก ซึ่งวิศวกรของสถานีไฟฟ้าชนแดน ยืนยันว่าเป็นของโรงไฟฟ้าชนแดนที่ถูกปล้นไปจริง และนายกิติชัยได้ยืนยันตัวบุคคลที่นำสายไฟฟ้ามาขายให้ ทางพนักงานสอบสวน สภ.ชนแดน จึงได้รวบรวมหลักฐาน เสนอขอหมายจับจากศาลจังหวัดเพชรบูรณ์ เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว


อ้างอิงจาก:thairath.co.th


 

 

Source: จนมุมแล้ว 4 โจรปล้นสถานีไฟฟ้าชนแดน

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

โปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)

32ewfe(22 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุม คสช. ครั้งที่ 7/2557 โดยมีรองหัวหน้า คสช. เลขาธิการ คสช. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมกันโดยพร้อมเพรียง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดประชุมว่า ในวันนี้มีภารกิจสำคัญต้องเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับพระราชทานรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว

จากนั้นเวลา 16.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว

อ้างอิง:sanook.com

Source: โปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว)

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พ่อบุกขึ้นโรงพัก! ร้องหลวงตาข่มขืนลูกสาว 9 ขวบ

news03-1เมื่อวานนี้ (28 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จาก นายศร (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ซึ่งพาลูกสาววัย 12 ปี เข้ามาร้องทุกข์ด้วย โดยระบุว่าลูกสาวถูกพระลูกวัดแห่งหนึ่งในหมู่บ้านข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมกับข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร จนเกิดกระทบกระทั่งกับผู้เป็นพ่อ เมื่อทราบความจากลูกและบุกไปเอาเรื่องถึงในวัด

จากการสอบถาม นายศร ให้การว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทกล้องวงจรปิด ตนสังเกตเห็นว่าลูกสาว ด.ญ.ขวัญ (นามสมมติ) มีการซึมเศร้าและไม่ร่าเริงอย่างผิดปกติ จึงได้เค้นสอบถามกับลูกว่าเกิดอะไรขึ้น จนยอมเล่าให้ฟังว่า หลวงตาที่เป็นพระลูกวัดในหมู่บ้าน อายุประมาณ 65 ปี ทำการข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง แลกกับขนมและเงินจำนวหนึ่ง พร้อมกับขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร

นายศร ยังเล่าต่ออีกว่า เมื่อตนทราบเรื่องว่าลูกสาวถูกข่มขืน จึงได้เดินทางไปสอบถามถึงที่กุฏิวัด แต่ปรากฏว่าหลวงตารูปดังกล่าวได้ปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้ล่วงละเมิดลูกสาวแต่อย่างใด ทำให้ตนรู้สึกโมโหจัดจึงกำหมัดชกใส่หน้าหลวงตาไป ก่อนจะมีลูกศิษย์วัดเข้ามาห้าม

ต่อมาหลวงตารูปดังกล่าวจึงได้ส่งผู้ใหญ่บ้านมาเจรจากับตน ยืนยันว่าหลวงตาไม่ได้ข่มขืนลูกสาวตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับเสนอเงินให้จำนวนหนึ่ง เพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบลงแต่โดยดี ตนจึงไม่ยินยอมรับเงินและเดินทางมาแจ้งความเอาเพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเคยทราบว่าพระรูปนี้มีประวัติลวนลามสีกาบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัว ด.ญ.ขวัญ ไปตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืนกระทำชำเราและนำมาเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี พร้อมกับเตรียมสอบปากคำ ด.ญ.ขวัญ กับผู้ปกครองอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

อ้างอิงจาก:sanook.com

Source: พ่อบุกขึ้นโรงพัก! ร้องหลวงตาข่มขืนลูกสาว 9 ขวบ

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คดีพลทหารถูกรุมทำร้ายดับในค่ายทหาร

news08-1

"อยากให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับลูกชายและครอบครัว และให้ผู้ก่อเหตุมาขอขมาศพลูกชาย ตนและภรรยาไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก" นายประจวบ กล่าว

นายประจวบกล่าวอีกว่า พลทหารชนะชนเป็นลูกชายคนเดียว และเป็นความหวังเดียวของครอบครัว แต่กลับมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตนและภรรยายังทำใจไม่ได้ เพราะอีกเพียง 3 เดือน ลูกก็จะปลดกระจำการแล้ว และลูกยังเคยบอกไว้ว่าอยากทำงานรับใช้ชาติ ที่ผ่านมาลูกเคยไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาแล้ว หลังปลดประจำการก็ตั้งใจว่าจะไปสอบเข้ารับราชการทหาร แต่กลับมาเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก่อน จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายเรื่องความกระจ่างในคดี และช่วยเหลือด้านสวัสดิการต่างๆ ที่ควรจะได้รับด้วย

"แต่ถ้ายังไม่ได้รับความกระจ่างเรื่องคดี กล้องวงจรปิด หรือยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะยังไม่เผาศพลูกชาย จากเดิมได้กำหนดจะฌาปนกิจในวันที่ 27 ก.ค. นี้ อาจจะเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด" นายประจวบ กล่าว - สำนักข่าวไทย

26 ก.ค. - พ่อแม่พล ทหารชาวบุรีรัมย์ที่ถูกทหารรุ่นพี่รุมทำร้ายเสียชีวิตในค่ายที่ จ.ชลบุรี ร้องขอความเป็นธรรมให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ทั้งอยากให้ต้นสังกัดช่วยเหลือด้านสวัสดิการ เพราะลูกชายเป็นความหวังเดียวของครอบครัว เผยหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะยังไม่เผาศพลูกชาย

นายประจวบ เหลื่อมพิมาย อายุ 47 ปี และนางสมหวัง เหลื่อมพิมาย อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 ม.13 บ.โนนดินแดง ต.โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ พ่อแม่ของพลทหารชนะชน เหลื่อมพิมาย อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นพลทหารกองประจำการสังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกชายถูกพลทหารรุ่นพี่ในค่ายเดียวกันรุมทำร้ายจนเสียชีวิตบนเรือนนอน ภายในค่ายทหาร

นายประจวบเล่าว่า จากคำบอกเล่าของเพื่อนพลทหารด้วยกันทราบว่าวันเกิดเหตุคือ วันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการจัดงานเลี้ยง ส่งพลทหารรุ่นพี่ที่จะปลดประจำการในวันที่ 1 ส.ค. และมีเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกันในงานเลี้ยง หลังจากนั้นได้แยกย้ายกันขึ้นไปนอนตามปกติ กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 23 ก.ค. พลทหารรุ่นพี่ได้ขึ้นไปรุมทำร้ายพลทหารชนะชนบนเรือนนอนขณะกำลังนอนหลับ โดยที่ลูกชายไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ขัดขืนหรือปกป้องตัวเอง จนทำให้เสียชีวิต มีร่องรอยฟกช้ำตามใบหน้าและร่างกาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนและภรรยายังทำใจไม่ได้ จึงอยากให้ต้นสังกัดออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และอยากทราบความกระจ่างเรื่องคดี

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

 

Source: คดีพลทหารถูกรุมทำร้ายดับในค่ายทหาร

รับติดตั้งกล้องวงจรปิด cctv Ip dslr camera

ข้อแตกต่างระหว่าง CCTV และ Ip address TV


 ในปัจจุบันมีกล้อวงจรปิดอยู่สองแบบ คือ CCTV และ Ip address Camera ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีข้อแตกต่างกันอย่างแน่นอนทั้งระบบการทำงานต่าง ๆ รวมถึงราคาด้วย ซึ่งจะแนะนำโดยคร่าว ๆ ดังนี้


Ip address Camera  นั้นมีความสามารถที่รวมความสามารถของกล้องวงจรปิดและระบบ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ครวมไว้ด้วยกัน คือ ในตัวกล้องจะมีความสามารถบันทึกได้ในตัวมีฟังก์ชั่นต่าง ๆ คือ Graphic Running  Comression , Compression , Training video Investigation Network Perform ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่แตกต่างจาก CCTV และยังสามารถอัพเกรด   เฟริมแวร์ ได้ซึ่งลักษณะคล้าย ๆกับคอมพิวเตอร์ที่จะมีรหัส Ip address ของแต่ละเครื่อง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อระบบเน็ตเวิร์คโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ซึ่งสะดวกในการใช้งาน ซึ่งสามารถเชื่อต่อได้ทั้งสายแลน และ wifi ซึ่งสามารถรองรับการทำงานได้โดยสะดวกและง่ายดายกับการทำงานในปัจจุบันแต่ยังไม่เป็นที่นิยมเพราะมีราคาแพง


 กล้องวงจรปิด CCTV นั้นต้องมีองค์ประกอบที่เชื่อมต่อกันหลายอย่าง ทั้งตัวกล้อง สายสัญญาณ ตัวบันทึกข้อมูล และ การเชื่อมต่อต่าง ๆ และต้องอาศัยโปรแกรมในการตั้งค่าต่าง ๆ หากดูหลาย ๆ จอแลผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนต่าง ๆ ยังต้องใช้ผ่นแอปพลิเคชั่นในการรองรับการใช้งาน แต่ที่ได้รับความนิยมเพราะมีราคาถูกกว่า


ด้วยการใช้งานในแบบเดียวกัน แต่ ความสามารถแตกต่างกัน นั่นแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของระบบกล้องวงจรปิดอย่างแท้จริง และแม้ในปัจจุบันเริ่มจะใช้ Ip address Camera กันบ้างแล้วแต่ก็เป็นตามหน่วยงานราชการ เอกชน หรือ โครงการหมู่บ้านใหญ่ ๆ ส่วนบ้านเรือนทั่ว ๆ ไปนั้นยังนิยมใช้ CCTV เพราะหาผู้ให้บริการที่ชำนาญได้ง่ายกว่า ราคาถูกกว่า และ การติดตั้งง่ายสะดวกนั่นเอง

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ปธน.ฝรั่งเศสยัน ไม่มีผู้รอดชีวิตเหตุ "แอร์ อัลจีเรีย" ตก ดับยกลำกลางทะเลทราย

14062840351406284076mเอพี รายงานว่า นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงในวันนี้ (25 ก.ค. 2557) ว่า ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตจากเหตุเครื่องบินสายการบินแอร์ อัลจีเรีย เที่ยวบิน AH5017 ตก โดยเที่ยวบินดังกล่าว มีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดรวม 116 ชีวิต

นายออลลองด์ ระบุด้วยว่า กล้องวงจรปิด มีการค้นพบ 1 ใน 2 กล่องดำของเที่ยวบินดังกล่าวบริเวณที่ซากเครื่องบินตก ในเมืองกอสซี ชายแดนของประเทศเบอร์กินา ฟาโซ ซึ่งกล่องดำนี้กำลังจะถูกนำไปยังเมืองเกา ทางตอนเหนือของประเทศมาลี

ก่อนหน้านี้ เครื่องบินได้ขาดการติดต่อภายหลังบินออกจากเมืองเบอร์กินา ฟาโซ เพียง 50 นาที โดยมีผู้โดยสารชาวฝรั่งเศสจำนวน 51 คน ชาวเบอร์กินา ฟาโซ 24 คน ชาวเลบานีส 6 คน ชาวแคเนเดียน 5 คน ชาวลักแซมเบิร์ก 2 คน ชาวสวิส 1 คน ชาวไนจีเรีย 1 คน ชาวมาเลียน 1 คน ส่วนลูกเรือทั้ง 6 คน เป็นชาวสแปนิช

ล่าสุด กองทัพฝรั่งเศสมุ่งหน้าไปยังบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นทะเลทราย และอยู่ห่างไกลเขตเมือง มีถนนตัดผ่านไม่กี่สาย ทั้งยังมีสภาพอากาศร้อน อุณหภูมิ 101 องศาฟาเรนไฮต์ ตลอดทั้งปี

ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศสระบุว่า สาเหตุที่เครื่องบินตกนั้น ประเด็นก่อการร้ายยังไม่ถูกตัดออก แม้ว่าเหตุการณ์นี้ดูเหมือนจะเกิดจากสภาพอากาศที่เลวร้าย

Source: ปธน.ฝรั่งเศสยัน ไม่มีผู้รอดชีวิตเหตุ "แอร์ อัลจีเรีย" ตก ดับยกลำกลางทะเลทราย

ธนารักษ์ลุยศูนย์ประชุมสิริกิติ์เฟส2รื้อสัญญาเช่า50ปีเปิดทาง"เสี่ยเจริญ"ผุดพท.แสนตร.ม.ชนอิมแพ็ค

14061365751406136612mกรมธนารักษ์รอ กทม.ปลดล็อกความสูงรอบสวนเบญจกิติไม่ไหว เดินหน้ารื้อสัญญาเช่าที่ดินแปลง 53 ไร่ใหม่ จาก 25 ปี เพิ่มเป็น 50 ปี เปิดทางเสี่ยเจริญพัฒนาเฟส 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มูลค่า 6 พันล้าน ผุดเอ็กซิบิชั่นพื้นที่ 1 แสนตารางเมตร แข่งอิมแพ็คฯ คาดเสนอ ครม.ใหม่อนุมัติปีนี้ 

แหล่งข่าวจากกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้โครงการพัฒนาที่ดินบริเวณศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนเนื้อที่ 96 ไร่กำลังจะได้ข้อสรุปร่วมกับบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมเนจเม้นท์ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์จำกัด กล้องcctv คู่สัญญาบริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ธุรกิจในเครือของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี หลังจากที่ผ่านมาโครงการนี้ไม่สามารถก่อสร้างได้ เพราะติดปัญหาข้อบัญญัติของกรุงเทพมหานครควบคุมความสูงให้สร้างอาคารไม่เกิน 23 เมตร ล่าสุดกรมอยู่ระหว่างแก้ไขสัญญาเดิมเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน 

"ที่ผ่านมาได้หารือร่วมกับ กทม.ไปแล้วแต่ผ่านมา 2 ปียังไม่มีข้อสรุปว่าจะปลดล็อกเรื่องความสูงให้ได้หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากสภา กทม.ก่อน ไม่รู้ว่าจะอนุมัติให้ได้เมื่อไหร่ แต่เพราะเป็นโครงการเร่งด่วนกรมกับบริษัทจึงหารือร่วมกันว่าจะพัฒนาภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่ เพราะล่าช้ามานานหลายปีแล้ว"

รื้อมูลค่า-รูปแบบโครงการ

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า โครงการนี้ทางบริษัทเอกชนได้ปรับแผนการพัฒนาพื้นที่และมูลค่าโครงการใหม่ จากเดิมจะพัฒนาเป็นโรงแรมสูง 23 ชั้น 450 ห้อง พื้นที่พาณิชย์ 28,000 ตารางเมตร และพื้นที่จอดรถ 3,000 คัน มูลค่าก่อสร้างประมาณ 2,732 ล้านบาท โดยเสนอให้ผลตอบแทนกรมประมาณ 3,000 ล้านบาท 

สำหรับรูปแบบใหม่บริษัทเสนอจะพัฒนาพื้นที่พาณิชย์มากขึ้น หรือไม่น้อยกว่า 1 แสนตารางเมตร เช่น พื้นที่แสดงสินค้าและจัดนิทรรศการ เพื่อให้รองรับการจัดงานใหญ่ ๆ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับอิมแพ็คได้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนมากขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท

"เมื่อขึ้นตึกสูงไม่ได้ก็จะต้องเปลี่ยนประเภทการพัฒนาโดยขยายพื้นที่เดิมเพิ่มขึ้น ส่วนโรงแรมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมีหรือไม่เพราะมีข้อจำกัดถูกคุมความสูง"

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า บริษัทยังเสนอขอขยายเวลาเช่าเพิ่มขึ้น จากเดิม 25 ปี เป็น 50 ปี เนื่องจากต้องลงทุนก่อสร้างเพิ่ม พร้อมกับให้ผลตอบแทนกรมเพิ่มเช่นกัน โดยตลอดสัญญา 50 ปีกรมคาดว่าจะมีรายได้ 5,100 ล้านบาท (มูลค่าปัจจุบัน) เงื่อนไขจะได้รับค่าธรรมเนียมจัดหาประโยชน์ที่ดินก้อนแรก 500 ล้านบาท แบ่งจ่ายเป็น 2 งวด งวดละ 250 ล้านบาท

ปลายปีนี้ชง ครม.ใหม่อนุมัติ

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ตามระเบียบของกรมธนารักษ์ที่เปิดให้เอกชนมาเช่าที่ราชพัสดุเพื่อจัดหาประโยชน์ได้สูงสุดไม่เกิน 30 ปี ถ้าเกินกว่าที่กำหนดในระเบียบจะต้องขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยข้อเสนอนี้ได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ และ พ.ร.บ.การอุตสาหกรรมและพาณิชย์ อยู่ระหว่างเสนออัยการสูงสุดตรวจร่างสัญญา เมื่อผ่านการพิจารณาคาดว่าสิ้นปีนี้น่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาได้

"กรมพยายามทำให้โครงการนี้แจ้งเกิดเพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเดินหน้าไปได้ด้วย เพราะจากที่ศึกษามาโครงการประเภทนี้จากต่างประเทศ รัฐจะต้องซัพพอร์ตเพราะรัฐต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านโรงแรมร้านอาหาร สัมมนา การแสดงนิทรรศการต่าง ๆ" แหล่งข่าวกล่าวและว่า ทั้งนี้ ในรูปแบบเดิมที่บริษัทเคยออกแบบไว้ภายใต้ข้อจำกัดของพื้นที่เรื่องความสูง จะพัฒนาบนพื้นที่ 96 ไร่ แยกเป็นปรับปรุงของเก่าในพื้นที่ 53 ไร่ และขยายเฟสสร้างใหม่ด้านหลังอีก 46 ไร่ โดยส่วนขยายเฟสใหม่จะไม่มีโรงแรมแต่สร้างอาคาร 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 100,000 ตารางเมตร สำหรับเป็นศูนย์ประชุม ศูนย์แสดงสินค้า ห้องจัดเลี้ยง นิทรรศการ เป็นต้น พื้นที่จอดรถใต้อาคาร 78,000 ตารางเมตร หรือจอดรถได้ 2,246 คัน วงเงินลงทุนเกิน 5,000 ล้านบาท 

กทม.ไร้คำตอบปลดล็อกความสูง 

แหล่งข่าวจากสำนักผังเมืองกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าสำนักผังเมือง กทม.ได้เสนอร่างปรับปรุงข้อบัญญัติเรื่องกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภทในบริเวณสวนเบญจกิติและบริเวณโดยรอบในพื้นที่เขตคลองเตย ลุมพินี และปทุมวัน หลังออกบังคับใช้เมื่อปี 2547 ห้ามสร้างตึกสูงเกิน 23 เมตร โดยเสนอให้สภา กทม.พิจารณาตั้งแต่เมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันวาระประชุมในเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณาแต่อย่างใด จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าบังคับใช้ได้เมื่อไหร่ 

"ตามข้อบัญญัติฉบับใหม่ สำนักผังเมืองเสนอให้ยกเลิกการควบคุมความสูงทั้งหมดในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากพิจารณาของสภาพแวดล้อม ข้อเท็จจริง และความเหมาะสมแล้วพบว่าพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปมาก มีรถไฟฟ้าพาดผ่าน โดยสำนักผังเมืองจะส่งเสริมให้การพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรมในอนาคต แต่ทั้งนี้อยู่ที่การพิจารณาของสภา กทม.และผู้บริหารว่าจะมีการรับนโยบายดังกล่าวหรือไม่" แหล่งข่าวกล่าว

อ้างอิง:prachachat.net

Source: ธนารักษ์ลุยศูนย์ประชุมสิริกิติ์เฟส2รื้อสัญญาเช่า50ปีเปิดทาง"เสี่ยเจริญ"ผุดพท.แสนตร.ม.ชนอิมแพ็ค

บริการติดตั้งกล้องวงจรปิด|กล้องcctv

ประสิทธิภาพความคมชัดของกล้องวงจรปิด สิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญก็คือ &ldquoเลนส์&rdquo ซึ่งหน้าที่ของเลนส์สำหรับกล้องวงจรปิดนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเลนส์สำหรับกล้องถ่ายภาพทั่วไปมากนัก


สำหรับหน้าที่ของเลนส์นั้น คือการเป็นตัวรวมแสง และค่อยปรับระยะภาพให้มีขนาดใหญ่ - เล็ก ใกล้ &ndash ไกลตามความเหมาะสม โดยจะขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเลนส์ ซึ่งชนิดของเลนส์ที่นิยมใช้กันอยู่จะมี 3 ชนิดหลักๆ คือ


1. Repair IRISเป็นเลนส์ที่ไม่สามารถปรับช่องรับแสงได้ เหมาะกับการใช้ในสถานที่ภายในอาคารที่มีแสงสว่างคงที่ตลอดเวลา


2. Guide book IRISเป็นเลนส์ที่สามารถปรับช่องรับแสงได้ เหมาะสำหรับงานในอาคารที่มีความสว่างในแต่ละห้องไม่เท่ากัน ซึ่งสามารถปรับแสงให้เหมาะสมในแต่ละห้องได้


3.Automatic IRISคือเลนส์ที่สามารถปรับช่องรับแสงได้เองโดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่ตกกระทบเลนส์ ซึ่งเหมาะสำหรับการติดตั้งนอกอาคารที่ความสว่างเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อม


ส่วนเลนส์ของกล้องวงจรปิดยังสามารถแบ่งตามการปรับระยะโฟกัส ซึ่งมี 3 ชนิดหลัก ๆ คือ


b Mono center : ระยะโฟกัสจะถูกกำหนดไว้ตายตัว จะเปลี่ยนไม่ได้ เช่น 4 มม.


b Glide : สามารถปรับระยะโฟกัสได้ภายในช่วงที่กำหนดไว้ เช่น 2.8-12 มม.และเมื่อเปลี่ยนระยะโฟกัสแล้ว จุดรวมแสงของเลนส์ก็จะยังคงอยู่


b Vari-center Glide : เมื่อเปลี่ยนระยะโฟกัส เลนส์จะต้องถูกปรับจุดรวมแสงใหม่ ซึ่งชนิดที่ใช้กันทั่วไปคือขนาด 3.5-8 มม.


สำหรับความยาวของระยะโฟกัสนั้น มีผลต่อองศาการมองเห็น เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสั้นกว่าจะมีพื้นที่การมองเห็นภาพกว้างกว่า เช่น เลนส์ 4 มม.จะมีองศาการรับภาพมากกว่าเลนส์ 12 มม. นอกจากนี้เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสั้นกว่าจะให้สัดส่วนของวัตถุผิดเพี้ยนมากกว่า

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ข่าวในพระราชสำนักวันที่24กรกฏาคม2557

ข่าวในพระราชสำนัก พระบรมมหาราชวัง ประจำวันพฤหัสบดี ที่ 24 กรกฏาคม พุทธศักราช 2557



วันนี้ เวลา 09.01 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม ไปทรงหล่อ “พระพุทธโลกเชษฐ์สำเร็จวิเศษาสีติกิตยานุสรณ์” ณ โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ต่อจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “อาคารสิริวิทยา” ณ มหาวิทยาลัยมหิดล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เสร็จแล้ว

เวลา 13.35 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงวางศิลาฤกษ์อาคารบริการทางการแพทย์ โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) และทรงยกฉัตรกางกั้น หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระประธานในพระอุโบสถ ณ วัดไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

เวลา 17.34 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ เจ้าชายดูอาร์ตี ปีโอ (His Royal Highness Dom Duarte Pio) ผู้สืบราชสกุลจากสมเด็จพระเจ้ามานูเอล ที่ 2 (His Majesty King Manuel II) กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของโปรตุเกส และครอบครัว เฝ้าทูลละอองพระบาท ในโอกาสมาเยือนประเทศไทย

ในการนี้ พระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำด้วย

เวลา 10.35 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา เสด็จแทนพระองค์ ไปทรงเปิดหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรม โอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสที่ทรงพระเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ ในปีพุทธศักราช 2555 โครงการคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีด้อยโอกาสที่มีปัจจัยเสี่ยง ณ โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี กล้องวงจรปิด

ในวันเดียวกันนี้ เวลา 10.50 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดงาน “Organic & Natural Expo 2014” ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

จาก:innnews.co.th

Source: ข่าวในพระราชสำนักวันที่24กรกฏาคม2557

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลืมเด็กไว้ในรถ

111694ทำอย่างไรเมื่อจำเป็นต้องปล่อยเด็กไว้ในรถเพียงลำพัง หรือ หากพบเด็กถูกลืมไว้ในรถ ต้องรีบช่วยเหลือโดยด่วน เพราะการทิ้งเด็กไว้ในรถที่จอดตากแดดไว้แค่ 5-10 นาทีก็อาจเสียชีวิตได้ก่อนหน้านี้มีข่าวเด็กถูกลืมไว้ในรถยนต์จนเสียชีวิตมาแล้วหลายครั้ง ล่า สุด วานนี้ (21 ก.ค.) เด็กชายวัย 4 ขวบ ถูกคนขับรถรับส่งนักเรียนลืมเด็กไว้ในรถตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อกลับมาที่รถอีกครั้งเพื่อเตรียมนำรถไปรับเด็กนักเรียนกลับบ้าน จึงพบศพเด็กในรถ เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้น หากคนขับรถตรวจสอบให้ดีว่าเด็กลงจากรถหมดแล้วหรือไม่

เด็กที่ถูกลืมทิ้งไว้ในรถยนต์ที่จอดตากแดดไว้ ก็เหมือนถูกทิ้งไว้ในตู้อบที่ภายในรถจะค่อยๆ ทวีความร้อนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจทำให้เด็กเกิดภาวะ Heat Stroke ส่งผลให้เกิดอาการชักเกร็ง เป็นลม น้ำลายฟูมปาก จนหมดสติและเสียชีวิตได้

หากจำเป็นต้องปล่อยเด็กไว้ในรถเพียงลำพัง ควรลดกระจกลงทั้ง 4 ด้านลง 1 ใน 4 เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และไม่ควรทิ้งเด็กไว้นานเกิน 10 นาที แต่ กรณีที่พบเด็กเริ่มเกิดภาวะ Heat Stroke ให้รีบนำเด็กออกมานอนในที่ร่ม อากาศถ่ายเทสะดวก หรือเปิดพัดลมให้อากาศหมุนเวียน ,คลายชุดให้หลวม เพื่อให้ร่างกายผ่อนคลาย หาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้า ศีรษะ ซอกคอ แขน ขา จากนั้นให้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

อ้างอิงจาก:voicetv.co.th

Source: ลืมเด็กไว้ในรถ

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เปิดตัว Smart Thailand 2020

Smart-Thailand-1รัฐมนตรีไอซีทีแถลงข่าวเปิดตัว Smart Thailand 2020 และกิจกรรม We Love Royalty

21 พฤศจิกายน 2556 – นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทสและการสื่อสาร เป็นประธานการแถลงข่าวเปิดตัวแอพพลิเคชั่น และสื่อออนไลน์ Smart Thailand 2020 พร้อมกับกิจกรรม We Love Royaltyโดยมีนายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล้องcctv ร่วมการแถลงข่าว จัดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการกระจายข้อมูลข่าวสารและสื่อประชาสัมพันธ์ แอพพลิเคชั่นและสื่อออนไลน์ Smart Thailand 2020 จะเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ทราบถึง 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ SMART...21 พฤศจิกายน 2556 – นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทสและการสื่อสาร เป็นประธานการแถลงข่าวเปิดตัวแอพพลิเคชั่น และสื่อออนไลน์ Smart Thailand 2020 พร้อมกับกิจกรรม We Love Royaltyโดยมีนายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมการแถลงข่าว จัดขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการกระจายข้อมูลข่าวสารและสื่อประชาสัมพันธ์

แอพพลิเคชั่นและสื่อออนไลน์ Smart Thailand 2020 จะเป็นสื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ทราบถึง 4 ยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ SMART NETWORK STRATEGY, SMART GOVERNMENT STRATEGY, SMART BUSINESS STRATEGY และ SMART PEOPLE STRATEGY โดยยุทธศาสตร์แต่ละด้าน มุ่งพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนด้วย ICT ส่งผลกระทบการยกระดับอนาคตทั้ง 6 ภาคส่วน ด้วย ICT ได้แก่ ICT Shift Quality of Life ICT shift Education ICT Shift Industry and Business ICT Shift Energy and Environment ICT Shift Thai Enterpreneur และ ICT Shift Creative Industryเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งประชาคมอา เซียน (AEC)

แอพพลิเคชั่นและสื่อออนไลน์ “We Love Royalty” จะเป็นศูนย์เป็นศูนย์กลางการกระจายข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์เพื่อเฉลิม กล้องวงจรปิดHD พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการศึกษา ด้านชีวิตความเป็นอยู่ ด้านสุขภาพและสาธารณสุข และด้านสัมมาชีพ โดยสามารถชมในรูปแบบแอนิเมชั่นและอินเตอร์แอคทีฟ ผ่านทางเว็บไซต์ http://weloveroyalty.com/ ตลอดจนประชาชนได้ร่วมถวายพระพรชัยมงคลด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ผ่านทาง Mobile Application “We Love Royalty Thailand” การจัดกิจกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากประชาชนจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับโครงการและ ร่วมกิจกรรมถวายพระพรแล้ว ยังสามารถเข้าชมคำถวายพระพรในรูปแบบเสมือนจริงของแต่ละสถานที่ที่มีผู้เข้า มาถวายพระพรด้วยเทคนิค Augmented Reality (AR) อีกด้วย

โดยทั้งสองแอพพลิเคชั่นรองรับการทำงานบน 3 ระบบปฏิบัติการ ทั้ง Android iOS และ Windows Phoneสามารถดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

Source: เปิดตัว Smart Thailand 2020

การแข่งขันเขียนโปรแกรม

การแข่งขันเขียนโปรแกรม ACM-ICPC 2013 ระดับภูมิภาคเอเชีย

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สำนักงานภาคใต้ (ภูเก็ต) เป็นตัวแทนประเทศไทยในการจัดแข่งขัน ACM-ICPC 2013 Regional Contest ระดับภูมิภาคเอเชียสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) สำนักงานภาคใต้ (ภูเก็ต) เป็นตัวแทนประเทศไทยในการจัดแข่งขัน ACM-ICPC 2013 Regional Contest ระดับภูมิภาคเอเชีย คัดเลือกตัวแทนจากจำนวน 100 ทีม เพื่อเข้าร่วมแข่งขันระดับ World Final โดยจะจัดขึ้นที่ Ekaterinberg ประเทศรัสเซีย ระหว่างวันที่ 22-26 มิถุนายน 2557

การแข่งขัน ACM-ICPC 2013 จัดขึ้นเพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนโปรแกรมของนิสิตนักศึกษาที่เป็นปัญหา หลักในการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในปัจจุบัน ซึ่งได้ดำเนินการร่วมกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ผ่านการใ้ห้ทุนสนับสนุนอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ โดยการแข่งขันในครั้งนี้ ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม Armageddon จากมหาวิทยาลัย Peking สาธารณรัฐประชาชนจีน รางวัลชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม Long Time No See จากมหาวิทยาลัย Shanghai Jiao Tong สาธารณรัฐประชาชนจีน และรางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ ทีม bcw3Dno7122 จาก มหาวิทยาลัย National Taiwan ประเทศใต้หวัน โดยจัดแข่งขัน ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต (สะพานหิน)

อ้างอิงจาก:mict.go.th


Source: การแข่งขันเขียนโปรแกรม

รักษาการรมว.พลิกฟื้นประเทศ

Newsรักษาการรมว.ไอซีที เป็นประธานในงานแถลงข่าวโครงการ Smart Thailand 2020 “พลิกฟื้นประเทศไทยด้วย ICT”


นาวา อากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นประธานในงานแถลงข่าวโครงการ Smart Thailand 2020 “พลิกฟื้นประเทศไทยด้วย ICT”นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) เป็นประธานในงานแถลงข่าวโครงการ Smart Thailand 2020 “พลิกฟื้นประเทศไทยด้วย ICT” และกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาและประชาสัมพันธ์อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของประเทศ ณ โรงแรมเอส 31 ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการ SMART THAILAND 2020 ด้วยการใช้ ICT เป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกฟื้นอนาคตประเทศไทย ซึ่งสอดรับกับนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติและนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารของประเทศไทยสำหรับปี พ.ศ. 2554-2563 หรือไอซีที 2020 ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูล เพิ่มเติมของ “SMART THAILAND 2020” ได้ผ่านทางเว็บไซต์ smartthailand2020.com โม บายแอพพลิเคชัน “SMART THAILAND 2020” สำหรับ iPhone และ Android โดยดาวน์โหลดฟรีได้ผ่านทาง Apple App Store และ Google Play Store รวมทั้งดาวน์โหลดอีบุ๊ค “SMART THAILAND 2020” ในรูปแบบ iPad แอพพลิเคชันได้ผ่านทาง Apple App Store นอกจากนี้ ยังสามารถเข้าไปติดตาม แลกเปลี่ยน และเสนอความคิดเห็นได้ผ่านทาง Facebook และ Twitter ที่ @SMARTTHAILAND2020

อ้างอิงจาก:mict.go.th

Source: รักษาการรมว.พลิกฟื้นประเทศ

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Hackers use Snowden leaks to reverse-engineer NSA surveillance devices

 

hackrf

 

Over the past year, we've learned of the many techniques the NSA has used to tap into global communications. However, Edward Snowden's document leaks didn't just uncover the gadgets the agency used, they also gave security researchers the necessary insights to develop their own. After the NSA's classified Advanced Network Technology catalogue was published, Michael Ossmann and his team set about recreating two of its approved radio-based surveillance devices: one that could be fixed to a computer's monitor connector to send on-screen images and another that can be fixed to a keyboard cable to collect keystrokes.

Before, nobody knew how the so-called "retro reflectors" worked, but armed with NSA documentation, Ossmann and co. were able to create their own tiny transistor-sized devices that could surreptitiously transfer wireless data to a nearby radio point (much like the NSA is reported to have done). For reference: intelligence officers can use radio-based trackers to monitor computers that are not connected to the internet. Now that the NSA tech is no longer a mystery, Ossmann intends to educate others about how the NSA's bugs operate so they can be protected against in the future. He's due to present his findings at the Defcon hacking conference in Las Vegas in August, alongside many other experts who have found ways to expose and rebuild the agency's technology.

เชื่อว่าจากข่าวนี้คงเป็นส่วนน้อยและกล้องวงจรปิดต้องโชคร้ายจริงๆถึงจะพบกับเหตุการณ์นี้ เมื่อ Samsung Galaxy Tab S 8.4 เจอปัญหาเครื่องร้อน ส่งผลให้ฝาหลังบวมขึ้นมา

samsung-galaxy-tab-s-8.4-overheatบ่อยครั้งที่เรามักเห็นภาพข่าวสมาร์ทโฟนมีฝาหลังบวมเพราะปัญหาตัวเครื่องร้อนเกินไป แต่คราวนี้เกิดเหตุกับแท็บเล็ตน่าใช้ใหม่ล่าสุด Samsung Galaxy Tab S รุ่น 8.4 นิ้ว โดยเป็นรายงานจาก Hi-Tech.Mail.Ru ที่แสดงภาพให้เห็นว่าฝาหลังมีลักษณะบวมขึ้นมาเล็กน้อยหนึ่งในสาเหตุที่มีการคาดการณ์ไว้ว่าน่าจะเกิดจากการใช้งานจนตัวเครื่องมีความร้อนจนเกินไปส่งผลให้ฝาหลังมีลักษณะดังกล่าว หากเป็นเช่นที่คาดการณ์ไว้จริงน่าจะบ่งบอกได้ถึงคุณภาพของแบตเตอรี่ ฝาหลังและชิปประมวลผลที่ใช้ ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวใดๆจาก Samsung แต่เชื่อว่าคงไม่มีทางที่ผู้ผลิตจากเกาหลีใต้จะอยู่เฉยแน่นอน

สำหรับ Samsung Galaxy Tab S รุ่น 8.4 นิ้ว ชูจุดเด่นของหน้าจอ Super AMOLED ที่มีความละเอียดแบบ WQXGA 2560 x 1600 พิกเซล แสดงรายละเอียดของการแสดงผลของสีในทุกจุดของภาพ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้ว Samsung Galaxy Tab S เป็นแท็บเล็ตที่น่าใช้และอยากเป็นเจ้าของอยู่ด้วย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าคงเป็นเครื่องส่วนน้อยและต้องโชคร้ายจริงๆถึงจะพบกับเรื่องเช่นนี้ครับ

 

Source: Hackers use Snowden leaks to reverse-engineer NSA surveillance devices

วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เทคโนโลยีสุดไฮเทค

เทคโนโลยีสุดไฮเทค ด้วยระบบ Privacy กล้องวงจรปิด


 ในบางครั้งนั้นกล้องวงจรปิด สามารถเข้าถึงในส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวมากเกินไป อย่างเช่นในส่วนของบริเวณตู้เซฟ หรือสถานที่ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ซึ่งบางครั้งเราก็ต้องการความปลอดภัยในส่วนพื้นที่นั้น ๆ ด้วย แต่ก็มีข้อความเสียงจากการบันทึก อย่างเช่น การบันทึกภายในห้องนิรภัย แต่เราไม่ต้องการให้กล้องบันทึกรหัสในการเข้าประตู หรือการบันทึกภาพในห้องส่วนตัว เนื่องจากว่ามีทรัพย์สินอยุ่ แต่ไม่ต้องการให้บันทึกในส่วนที่ใช้ในการแต่งตัวเป็นต้น


ดังนั้นจึงเกิดการพัฒนาเทคโนโลยี Privacy Masking เพื่อเอาไว้ปิดบังcctvบางส่วนของภาพที่ต้องการเก็บไว้เป็นความลับ ไม่ให้มีการบันทึกภาพเก็บไว้ เช่น บริเวณลูกบิดรหัสตู้เซฟประตูห้อง หรืออื่นๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว อย่างเช่นคุณไม่ต้องการให้บันทึกภาพบริเวณหน้าต่าง ด้วยเหตุผลความเป็นส่วนบุคคล ก็จะสามารถปิดบังโดยสามารถขยับมุมกล้องได้อย่างอิสระ ซึ่งในกล้องวงจรปิดรุ่นที่ล้าสมัยนั้นไม่สามารถปิดบังส่วนที่ไม่ต้องการบันทึก ไม่สามารถบังคับมุมอิสระได้ แต่ด้วยกล้องที่มีราคาสูงขึ้นมานิด มีเทคโนโลยี ไม่ให้มีการบันทึกภาพเก็บไว้ เช่น บริเวณลูกบิดรหัสตู้เซฟประตูห้อง หรืออื่นๆ ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวPrivacy Masking จะสามารถบังคับมุมได้อย่างเสรี ไม่ต้องการให้เห็นส่วนไหนก็สามารถปิดบังเฉพาะส่วนได้เลย


อย่างเช่นกล้องวงจรปิดยี่ห้อiNNEKTรุ่น ZTI602V เป็นกล้อง Outdoor มีฟังค์ชั่นหลากหลาย รวมถึงเทคโนโลยี Privacy Masking สามารถส่องได้ระยะไกลถึง 60 เมตร ทำให้มีประสิทธิภาพสูงในการใช้งานในเวลากลางคืน แม้จะมืดแค่ไหนก็สามารถมองเห็นได้  อีกทั้งยังมีรูปทรงที่แข็งแรงเหมาะแก่การใช้งานภายนอกในบางกรณี เราก็ต้องการที่จะปิดบังภาพบางส่วนในมุมกล้องต่างๆ เช่น ชื่ออาคาร สถานที่ หรือแม้แต่ในจุดบริเวณที่เราไม่ต้องการจะให้ผู้อื่นเห็นภาพได้ ก็สามารถจัดวางมุมให้บังในพื้นที่ส่วนตัวได้

วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ลูกชายเสี่ยอลูมิเนียม ดับคาเก๋งหรู เข็มฉีดยาปักคาแขน

news07-1

ความคืบหน้ากรณีพบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู ที่จอดเอาไว้บริเวณถนนดวงพิทักษ์ ย่านคลองเตย พบเข็มฉีดยาปักคาอยู่ที่แขน เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (18 ก.ค.) เบื้องต้นน่าจะเกิดจากอาการเสพยาเกินขนาด

สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมากล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุพบคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์เอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น325 ไอ สี บรอนส์เทา หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 7838 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดติดเครื่องเอาไว้ริมถนนดวงพิทักษ์ จากการตรวจสอบพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านในทั้ง 4 ด้าน เจ้าหน้าที่จึงได้งัดเพื่อเปิดประตู

เมื่อตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว พบศพผู้ชายแต่งกายดี นอนคว่ำหน้าอยู่ที่นั่งฝั่งคนขับ พบเข็มฉีดยาปักคาเอาไว้ที่แขนซ้าย อีกทั้งยังมีร่องรอยของเข็มฉีดยาอีกหลายตามแขนและขาหนีบ นอกจากนี้ยังพบเข็มฉีดยาใช้แล้วอยู่ภายในรถด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อในภายหลังคือ นายพลภัทร มหรัตนวิโรจน์ อายุ 32 ปี

ต่อมา นายสรศักดิ์ มหรัตนวิโรจน์ อายุ 36 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ โดยให้การว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องชาย ช่วยธุรกิจผลิตและส่งออกอลูมิเนียมทุกชนิดของครอบครัว แต่ภายหลังพบว่าติดยาเสพติด ทางครอบครัวจึงพาไปเข้ารับการบำบัดยาเสพติด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายพลภัทร มีนัดกับแพทย์ที่สถานบำบัด หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากเสพยาเสพติดเกินขนาด ส่วนเป็นยาเสพติดหรือสารประเภทใดกำลังรอผลจากทางนิติเวช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ คาดว่าน่าเสียชีวิตมา 2 วัน เนื่องจากมีพยานพบเห็นรถคันดังกล่าวจอดติดเครื่องทิ้งไว้ตลอด 2 วัน ก่อนจะพบศพผู้เสียชีวิต ขณะที่ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจเหตุการเสียชีวิต จึงมารับศพเพื่อดำเนินการพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

Source: ลูกชายเสี่ยอลูมิเนียม ดับคาเก๋งหรู เข็มฉีดยาปักคาแขน

วิวัฒนาการของยามรักษาการณ์-กล้องวงจรปิด

ความปลอดภัยในชิวิตและทรัพย์สินเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบัน เพราะ ความหลากหลายของคนในสังคม และสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทำให้มิจฉาชีพมีมากขึ้น ซึ่ง การที่มียามรักษาการณ์ตามจุดต่าง ๆ เช่น อาคาร บ้านพักอาศัย ต่าง ๆนั้น ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นแต่ค่าใช้จ่ายก็ตามเป็นเงาตามตัวทุก ๆเดือน และ ยังคงเสี่ยงต่อการที่มิจฉาชีพจะแฝงตัวมาให้อาชีพนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นในปัจจุบันจึงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาความปลอดภัย และ เทคโนโลยีนั้นคือ กล้องวงจรปิด ที่มีพัฒนาการและวิวัฒนาการกันมาเรื่อย ๆ จากสมัยก่อนที่มีราคาสูง ในการวางระบบต่าง ๆและ การเลือกกล้องวงจรปิดซึ่งยังมีไม่มาก แต่ยุคเทคโนโลยีอย่างปัจจุบัน กล้องวงจรปิดมีให้เลือกมากขึ้น มีการพัฒนาออกมาสนองความต้องการหลายรูปแบบ การวางระบบง่ายขึ้น พัฒนาจนสามารถดูผ่านอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ตลอดเวลา และ ที่สำคัญ ราคาไม่แพง cctv จึงทำให้กล้องวงจรปิดได้รับความนิยมมากขึ้น และ สามารถเลือกได้มากขึ้นตามความต้องการ มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาช่วยเพื่อให้ได้ระบบของกล้องวงจรปิดที่สมบูรณ์ เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในบางแห่งนั้น ยามรักษาการณ์มีหน้าที่คอยดูความเคลื่อนไหวต่างๆ จากกล้องวงจรปิดอีกที หรือ ตรวจตราในบางจุด ที่ไม่สามารถติดตั้งกล้องได้ เช่น อาคารสำนักงาน หรือ ห้างสรรพสินค้า ที่ไม่สามารถติดกล้องวงจรปิดในห้องน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หรือ ใช้ยามรักษาการณ์คอยตรวจตราในบางช่วงเพื่อเสริมประสิทธิภาพของการรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้น และ สำหรับการใช้กล้องวงจรปิดนั้นถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และ สามารถตรวจตราความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ดี อีกทั้งยังสามารถบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด ดังนั้นกล้องวงจรปิดจึงถือเป็นวิวัฒนาการของยามรักษาการณ์ที่ดีที่สุด

วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สธ.หารือบริหารงบประกันสุขภาพเน้นบริการ ปชช.

552397-01รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยกล้องวงจรปิด บริหารงบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 57 ส่งหน่วยบริการเพื่อบริการประชาชน ตามนโยบายบริการที่ดีกว่า


น.พ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่องการบริหารงบประมาณหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (UC) ในปี 2557 ใน 3 ประเด็นใหญ่ ได้แก่ 1.การแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของหน่วยบริการบางพื้นที่ 2.การใช้เงินงบประมาณตามที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินท้วงติง สปสช. และ 3.การพิจารณาเพิ่มสิทธิประโยชน์ผู้ป่วยมะเร็ง

น.พ.วชิระ กล่าวต่อว่า ในการแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องของหน่วยบริการบางพื้นที่เช่น หน่วยบริการที่อยู่ห่างไกล หรือจังหวัดเล็ก งบในการจัดบริการไม่เพียงพอ โดย กระทรวงสาธารณสุข และ สปสช. จะพิจารณานำงบที่ยังคงเหลือ ประมาณ 1,560 ล้านบาท มาแก้ไขปัญหาในส่วนตรงนี้

Source: สธ.หารือบริหารงบประกันสุขภาพเน้นบริการ ปชช.

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ปลัดสธ.เข้มจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใสรูปธรรมใน3ด.

551858-01ปลัด สธ. เผย เร่งดำเนินความโปร่งใส ในการจัดซื้อจัดจ้าง ของ สธ. เพื่อให้เป็นรูปธรรมใน 3 เดือน


นาย แพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งดำเนินการสร้างความโปร่งใส ขจัดปัญหาการทุจริตภายในหน่วยงานใน สังกัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาคให้หมดไป ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะให้เห็นผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือนนี้เช่าชุดราตรี ในระยะแรกนี้ได้กำหนดเป้าหมายดำเนินการ 3 เรื่องที่มีความสำคัญ ได้แก่ 1.การบริหารงบก่อสร้างอาคารต่างๆ ที่มีมูลค่าก่อสร้างมากกว่า 100 ล้านบาท 2. การจัดซื้อยาเวชภัณฑ์ 5 กลุ่ม ได้แก่ ยา วัสดุทางการแพทย์ วัสดุทันตกรรม วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ และวัสดุสำนักงาน ซึ่งเป็นรายการจัดซื้อพื้นฐานเพื่อใช้ในการจัดบริการประชาชนทั่วประเทศ มูลค่าประมาณ 40,000 ล้านกว่าบาท โดยมี 3 ประเด็นย่อยที่ต้องสร้างความโปร่งใส ได้แก่ การออกระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ระเบียบการรับการสนับสนุน และเกณฑ์จริยธรรม และ 3.การแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง ระดับอำนวยการขึ้นไป ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยจะประกาศใช้พร้อมกันทั่วประเทศในปีงบประมาณ 2558 เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป และได้ให้ประชาคมสาธารณสุข ซึ่งเป็นตัวแทนจากวิชาชีพ
ต่างๆ ในกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นผู้ตรวจสอบถ่วงดุล เพื่อปกป้องการแทรกแซงทางการเมือง และจะขยายผลในเรื่องอื่นๆ ต่อไป

นาย แพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการลงทุนก่อสร้าง ซึ่งในปีงบประมาณ 2558 มีประมาณ 13,000 กว่าล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 13 ของงบประมาณ ที่กระทรวงสาธารณสุข ได้รับการจัดสรร ขอความร่วมมือองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ช่วยดูในเรื่องการกำหนดแบบ และการจัดซื้อจัดจ้าง

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

Source: ปลัดสธ.เข้มจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใสรูปธรรมใน3ด.

กสทช.ลุยเคลียร์คลื่นความถี่โทรคมฯ-ความมั่นคง ก่อนเปิดประมูลใหม่

EyWwB5WU57MYnKOuFZlJUoW6hfCs7TFZkc4fjkJEzU0L9qwMBCU4Bcคณะกรรมการ กสทช. มีมติเห็นชอบแผนกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ ในย่าน 790 - 960 และย่าน 1710 – 1880 เมกะเฮิรตซ์ ที่ทหารใช้เพื่อความมั่นคงมาใช้ประมูลในกิจการโทรคมนาคมใหม่ ส่วน 900 กับ 1800 จะทำให้เสร็จใน 1 ปี...



เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 57 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. มีมติเห็นชอบ ร่าง แผนปฏิบัติการกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ หรือกล้องวงจรปิด การกำหนดและจัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ เพื่อปรับปรุงการใช้งานคลื่นความถี่ หรือรีฟาร์มมิ่ง ในกิจการวิทยุคมนาคมความถี่วิทยุ ย่าน 790-960 เมกะเฮิรตซ์ และ 1710 - 1880 เมกะเฮิรตซ์ เพื่อมาใช้ในการประมูลคลื่นความถี่ในกิจการโทรคมนาคม ทั้งย่าน 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ โดยแผนการรีฟาร์มมิ่ง คลื่น 900 จะเริ่มดำเนินการตามระยะเวลา ส่วนคลื่น 1800 จะให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับตั้งแต่ 16 ก.ค.นี้

เลขาธิการ กสทช. กล่าวต่อว่า เดิมคลื่นความถี่ทั้ง 2 ย่านนี้ ทหารถือครองอยู่ แต่ใช้เพื่อความมั่นคง ไม่ได้ใช้เชิงพาณิชย์ ก่อนหน้านี้ พล.ร.อ.อมรเทพ ณ บางช้าง ประธานคณะอนุกรรมการประสานงานบริหารคลื่นความถี่เพื่อความมั่นคงของรัฐใน กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หารือมาร่วม 2 ปี ก่อนสรุปเสนอเข้าบอร์ด กสทช. พิจารณาในวันนี้ สำหรับคลื่น 900 มีผู้ถือครอง คือ เอไอเอส ดีแทค ทรู และบีเอฟเคที ส่วนคลื่น 1800 มีทรู และดีแทค ถือครอง

นายฐากร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการแจกคูปองสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอล จะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช. ในวันที่ 24 ก.ค.นี้ และจะเร่งขั้นตอนทุกอย่างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้เช่นกัน เพื่อให้ทันต่อการแจกคูปองให้ถึงมือประชาชน 22 ล้าน 9 แสนครัวเรือน ในวันที่ 15 ก.ย.นี้

นอกจากนี้ รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ล่าสุด มีผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียง เข้ามายืนยันตนและดำเนินการขอออกอากาศแล้ว 460 ราย จาก 6,300 รายที่ถูกปิด และย้ำว่า หากผู้ประกอบการรายใดยังไม่มีชื่อในประกาศรายชื่อ แล้วออกอากาศ ถือว่ามีความผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เพิกถอนการอนุญาตฯ และให้ยุติการออกอากาศทันที.

thairath.co.th


Source: กสทช.ลุยเคลียร์คลื่นความถี่โทรคมฯ-ความมั่นคง ก่อนเปิดประมูลใหม่

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สื่อต้าน 'คสช.' เปลี่ยนรังนกกระจอกทำสวนหย่อม



สื่อต้าน คสช.เปลี่ยนรังนกกระจอกทำสวนหย่อม "เจ๊ยุ" ค้านยุบรังนกกระจอก 1EyWwB5WU57MYnKOuFZlKJyciHoSuGYsRVuEZLqQsEi4HnUEixwrvGf


วันที่ 14 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากโครงการปรับปรุงซ่อมแซมทำเนียบรัฐบาล เพื่อเตรียมความพร้อมการทำงานรัฐบาลชุดใหม่ กล้องcctvมีกระแสข่าวย้ายศูนย์แถลงข่าวตึกนารีสโมสร ไปที่ตึกบัญชาการ 2 เพื่อใช้เป็นห้องรับรองสำหรับผู้ที่เดินทางมาประชุม ติดต่อราชการ รองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล และมีแผนปรับห้องผู้สื่อข่าว 1 (รังนกกระจอกเก่า) ซึ่งติดกับตึกนารีสโมสร ใช้พื้นที่ทำสวนหย่อม โดยย้ายสื่อมวลชนทั้งหมดไปรวมกันอยู่ที่ห้องผู้สื่อข่าว 2 ข้างประตู 2 ข้างคลองเปรมประชากร เพื่อป้องกันข่าวรั่วไหล


โดยเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล อ้างว่า เป็นคำสั่ง คสช. และการปรับปรุงห้องผู้สื่อข่าว 1 ได้มีการหารือกับทางกรมศิลปากรเรียบร้อยแล้ว ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากผู้สื่อข่าวในทำเนียบ เนื่องจากรังนกกระจอก 1 เป็นห้องทำงานของสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ กลายเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของทำเนียบฯ ตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 35 ปีที่แล้ว

ด้านนางยุวดี ธัญศิริ (เจ๊ยุ) ผู้สื่อข่าวอาวุโสประจำทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ยังไม่ทราบความชัดเจน ต้องเข้าใจก่อนว่าทุกวันนี้จำนวนนักข่าวที่มาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล มีจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะวันประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีนักข่าวเป็นร้อยคน เป็นห่วงว่าจะไปอยู่ตรงไหนกัน ความจริงการเรื้อรังนกกระจอก 1 เคยมีแนวคิดในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ก็ยุติไป เพราะมีกระแสต้าน โดยให้เหตุผลว่านักการเมืองมาแล้วก็ไป แต่รังนกกระจอกเป็นประวัติศาสตร์หนึ่งของทำเนียบฯไปแล้ว โดยส่วนตัวการปรับอะไรให้ดีขึ้น และเหมาะสมก็เห็นด้วย แต่ถ้าปรับแล้วไม่ดีก็ไม่เห็นด้วย

ส่วนกระแสข่าวใช้งบฯ 300 ล้านบาท ปรับปรุงทำเนียบฯ ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ตั้งคำถามว่า รัฐบาลที่มาจาก คสช.จะเข้ามาจะอยู่ทำเนียบฯ นานเท่าไร ทำไมต้องใช้งบฯมากถึง 300 ล้านบาท และจะคอยติดตามการทำงานและดูว่าจะมีการทุจริตกันหรือไม่

อ้างอิงจาก:thairath.co.th


Source: สื่อต้าน 'คสช.' เปลี่ยนรังนกกระจอกทำสวนหย่อม

พณ.เดินหน้าแก้ไข พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า

พาณิชย์ เดินหน้าแก้ไข พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ดึงรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทมหาชน มาอยู่ภายใต้ ก.ม.เพื่อความเป็นธรรมทางการค้า551276-01


นาย สันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้เข้ายืนยันต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงความจำเป็นของร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แข่งขันทางการค้า พ.ศ. ... ซึ่งมีเนื้อหาสาระแก้ไขในเรื่องเดียว คือกล้องวงจรปิดให้รวมรัฐวิสาหกิจที่เป็นบริษัทมหาชน และดำเนินธุรกิจที่มีการแข่งขันกับธุรกิจเอกชน เข้ามาอยู่ภายใต้กฎหมายแข่งขันทางการค้าทั้งนี้ คาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี หลังจากนี้จะเร่งรัดผลักดันให้กฎหมายให้มีผลบังคับใช้ โดยจะมีการออกเป็นกฎกระทรวง เพื่อกำหนดรายละเอียดว่า มีรัฐวิสาหกิจรายใด หรือลักษณะกิจการประเภทใดบ้างที่ต้องเข้ามาอยู่ภายใต้กฎหมายแข่งขันทางการ ค้า เพื่อให้การประกอบธุรกิจ มีความโปร่งใส เป็นธรรม สร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาในประเทศมากขึ้น

เบื้องต้นมีรัฐวิสาหกิจ ที่เป็นบริษัทมหาชน และเข้าเข้าข่ายอยู่ประมาณ 9-10 ราย แต่อาจจะไม่จำเป็นต้องเข้ามาอยู่ภายใต้กฎหมายนี้ทั้งหมด หากมีการแข่งขันสูง

Source: พณ.เดินหน้าแก้ไข พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า

'สุขุม' คาดทหารตบเท้านั่ง 'สภานิติบัญญัติ-สภาปฏิรูป' เกินครึ่ง



"สุขุม นวลสกุล" คาดสภานิติบัญญัติ-สภาปฏิรูป มีทหารเกินครึ่ง ด้าน "วินธัย" ปัดข่าวลือทหารนั่ง 80 คน ชี้ต้องรอธรรมนูญชั่วคราวประกาศใช้ก่อน...


EyWwB5WU57MYnKOuFZlKJ9yZ7u4CwSpRORnqWuiigWFPP1uRd9ACy6

วันที่ 14 ก.ค. นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงกระแสการคัดเลือกสภานิติบัญญัติ (สนช.) และสภาปฏิรูปสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า เชื่อว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่แต่งตั้งสัดส่วนของทหารเข้ามาทำหน้าที่ในสภา สนช. เกินครึ่งหนึ่งของจำนวน 200 คน ตามที่มีกระแสข่าว เนื่องจากต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ กล้องวงจรปิดในขณะที่ทราบว่าเป็นที่จับตาของสื่อมวลชน แต่อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีสัดส่วนของทหารประมาณ 70-80 คน เพื่อให้อาจสั่งการด้านนโยบายได้ เพราะมีการถอดบทเรียนจากที่ผ่านมา ในอำนาจสมัยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ปี 2549 ที่ไม่สามารถควบคุมอำนาจใน สนช.ได้ แต่ในการพิจารณาเรื่องต่างๆ จะรับฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว

นายคมสัน กล่าวต่อว่า ที่มาของ สนช. ควรเป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเป็นพิเศษ เพราะต้องเข้ามาพิจารณากลั่นกรองกฎหมายเป็นหลัก ขณะเดียวกัน ต้องมีนักเทคนิคด้านต่างๆ เช่น วิศวกร จัดสรรสิ่งแวดล้อม แรงงาน เกษตร และภาคธุรกิจ ให้มีความเหมาะสม ส่วนกระแสข่าวที่จะให้อดีตสมาชิกวุฒิสภาที่มีความเป็นกลาง เข้ามาทำหน้าที่ใน สนช. นายคมสันต์ มองว่า เป็นเรื่องดี เพราะมีหลายคนที่มีความเหมาะสม

ทางด้าน นายสุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงที่มาของ สนช. และ สปช. ว่า ขณะนี้น่าจะชัดเจนแล้วว่า คสช.เป็นผู้คัดเลือกสมาชิกสภานิติบัญญัติเอง มีจำนวนสองร้อยคน และไม่ห้ามข้าราชการประจำเป็น โดยน่าจะคัดเลือกบุคคลที่ คสช.ไว้วางใจ อาจเป็นทหารเกินครึ่ง เพราะจุดประสงค์ให้มาสนับสนุน คสช.เต็มที่ แต่อาจมีคนนอกเป็นไม้ประดับมาบ้าง แต่ที่มาของสภาปฏิรูปการเมือง จะคัดเลือกจากส่วนต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มวิชาชีพ 11 กลุ่ม ที่สำคัญให้เสนอมาจังหวัดละ 5 คน และเลือกให้เหลือ 76 คน ซึ่ง คสช.ก็เป็นผู้คัดเลือกเองอีก โดยการตั้งกฎเกณฑ์ให้มีการเสนอจาก 11 กลุ่ม เพื่อทำให้ดูมีหลากกลาย ท้ายสุดเสนอมากกว่าจำนวนจริง แต่ให้เหลือแค่ 250 คน ซึ่งในท้ายสุดก็ดูว่าจะเอาใคร เป็นคนเลือกสุดท้าย

นายสุขุม กล่าวต่อว่า คสช.พยายามวางกรอบให้เหมือนมีการเสนอจากทุกๆ ฝ่าย แต่เสนอเข้ามาเพื่อดูว่า คนไหนสมควรไว้วางใจให้เป็น คนที่ได้เป็น เพราะ คมช.เห็นว่าสนองนโยบาย คสช.ได้ เหมือนกับที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. พูดไว้ ถ้าไม่เด็ดขาด ก็แก้ปัญหาไม่ได้ จุดประสงค์นี้ทำให้เข้าใจว่า คสช.ทำไมต้องอย่างนั้น ไม่ใช่มาตั้งคนคอยคัดค้าน หรือถ่วงดุล อาจไม่ถึงขั้นสภารีโมต ซึ่ง  คสช. มั่นใจว่า ทั้ง สนช.และ สปช.ไม่มาสร้างปัญหาและสนับสนุน คสช. รับผิดชอบแก้ปัญหาบ้านเมืองในเวลาจำกัด ทำให้ทุกอย่างนิ่ง จนมีรัฐธรรมนูญประกาศปลายปี 2558 เรียบร้อย

ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช. เปิดเผยถึงเรื่องมีนายทหารกว่า 80 คน จะมาดำรงตำแหน่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า เป็นเพียงข่าวลือ เพราะขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนการสรรหาบุคคลที่มาดำรงตำแหน่ง สนช. ต้องรอให้มีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองชั่วคราวเสียก่อน

ส่วน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสัดส่วนข้าราชการในสภาปฏิรูปว่า ส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้อง ต้องรอผู้บังคับบัญชาเป็นผู้คัดเลือก.

อ้างอิงจาก:thairath.co.th


Source: 'สุขุม' คาดทหารตบเท้านั่ง 'สภานิติบัญญัติ-สภาปฏิรูป' เกินครึ่ง

หนุ่มคลั่งอาละวาด ทำลายห้องขัง สน.คลองตัน ด่าตำรวจ

news03-1

วันที่ 14 กรกฎาคม ร.ต.ท.จุฑาพงศ์ ชาญดิลกโชติ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้รับแจ้งจากห้องวิทยุสน.คลองตัน ว่ามีชายเมาสุราอาละวาดคลุ้มคลั่ง ภายในรอยัลคอนโดมีเนี ยม ซอยพัฒนาการ 30 แขวงและเขตสวนหลวง จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.ท.สุพิณส์ สุขตะโก รองสว.ป.สน.คลองตัน ร.ต.ท.สถาพร โสตถิยิ้ม รองสวป.สน.คลองตัน ร.ต.ต.จงกล สุวรรณจันทร์กล้องcctv รองสว.ป.สน.คลองตัน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 23 ชั้น ประกอบกิจการเป็นห้องพักและสำนักงานให้เช่าบริเวณด้านหน้าพบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่นเอสแอลเค สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ย5381 กทม. โดยมี นายฮาซัน บีลัน อายุ 24 ปี ชาว จ.ยะลา สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล สภาพมึนเมาพูดจาวกวน อยู่ภายในรถพร้อมกับ น.ส.ดีฟูซา ซานดาโรว่า (Dilfuza Shandjalilova) อายุ 24 ปี ชาวอุซเบกิสสถาน พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง

น.ส.ดีฟูซา อยู่ในสภาพหวาดกลัวทันทีที่พบเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้เล่าว่าถูก นายฮาซัน ทำร้ายร่างกายและข่มขู่ เจ้าหน้าที่จึงนำตัว นายฮาซัน ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ทันทีที่เจ้าหน้าที่นำตัวมาถึงที่ สน.คลองตัน ก็มีอาการคลุ้มคลั่งอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยคำพูดหยาบคาย อาทิ "มึงรู้ไหมกูลูกใคร?" เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องคุมขัง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถพบขวดเหล้า 1 ขวด วางอยู่บริเวณใต้ที่นั่งด้านซ้ายและบริเวณที่นั่งฝั่งคนขับพบบุหรี่ 1 ซอง รวมทั้งกระโปรงหลังรถ เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนยาวบีบีกันซุกซ้อนอยู่ท้ายรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน

อย่างไรก็ตามจากการสอบสวน น.ส.ดีฟูซา เล่าว่า ได้รู้จัก นายฮาซันและเคยคบหาดูใจกันมา ระหว่างที่คบกันนั้น นายฮาซันได้ทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด จึงได้บอกเลิกรากันไป แต่นายฮาซันไม่ยอมตามงอนง้อเรื่อยมา จนกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนเดินทางมาที่คอนโดดังกล่าวเป็นที่ทำงาน นายฮาซันได้มาดักรอตนพร้อมกับฉุดกระฉากตน พร้อมขอเจรจาให้กลับมาคบกัน แต่ตนไม่ยอมจึงได้ขู่ทำร้ายตน ซึ่งขณะนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมากจึงได้แจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไป

ต่อมาได้มี นายวิสุทธิ์ ลิ้มวัฒนา อายุ 54 ปี เจ้าของบริษัทดิจิตอล นิวเวิล์ด จำกัด ได้เดินทางมาที่ สน.คลองตัน พร้อมกับแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกรถของ นายฮาซัน ชนท้ายรถของตน เป็นรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นแฮคคอร์ด สีฟ้า หมายเลขทะเบียน พห 8604 กทม. ได้รับความเสียหายที่บริเวณท้ายรถ

นายวิสุทธิ์ เล่าว่า เมื่อช่วง 09.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม ขณะที่ตนขับรถออกมาเพื่อจะไปธุระ จนกระทั่งรถของตนมาถึงช่วงระหว่างซอยพัฒนาการ 32 รถคันดังกล่าวก็ได้พุ่งชนตนอย่างจัง หลังเกิดเหตุนายฮาซันก็ได้ลงมาเจรจาขอยอมความโดยเสนอเงินให้จำนวน 5,000 บาท แต่ตนไม่เอาเพราะจะเรียกประกัน นายฮาซันจึงได้รีบขึ้นรถและขับรถหลบหนีไปจึงได้เดินทางมาแจ้งความที่ สน.คลองตัน

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าขณะที่ น.ส.ดีฟูซา กำลังลงบันทึกประจำวันอยู่นั้น นายฮาซันได้อาละวาดส่งเสียงดัง ทุบตีทำร้ายร่างกายตนเอง โดยการเอาหัวโขกกับรั้วเหล็กและกำแพง พร้อมกับทำลายข้าวของที่อยู่ในห้องขัง อาทิ ทุบโถส้วม ปีนป่ายลูกกรงเพื่อดึงกล้องวงจรปิดและทำลายทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงได้เจรจาเพื่อขอให้สงบสติอารมณ์ แต่นายฮาซันไม่ยอมได้ขว้างปาสิ่งก้อนอิฐใส่และด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ถ้อยคำหยาบคาย

พร้อมกล่าวว่าหากใครสามารถเดินเรื่องให้ออกจากห้องขังได้จะให้เงิน 100,000 บาท ผู้สื่อข่าวได้บอกให้นายฮาซันสงบสติอารมณ์กับถูกนายฮาซันต่อว่าอย่างรุนแรง พร้อมกับขว้างปาสิ่งของ จนเวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าไปในห้องควบคุมขังพร้อมกับใส่กุญแจมือและแยก ขังไว้

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายฮาซัน เป็นบุคคลไม่มีสถานภาพทางทะเบียน ซึ่งหลังจากนี้จะประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งจะตรวจหาสารเสพติดเพิ่มเติม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเมาสุราอาละวาดก่อความเดือดร้อนรำคาญ , ชนแล้วหนี, ดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่, ทำให้เสียทรัพย์, พกพาสิ่งเทียงอาวุธปืน ก่อนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

แหล่งข่าว:sanook.com

Source: หนุ่มคลั่งอาละวาด ทำลายห้องขัง สน.คลองตัน ด่าตำรวจ

วันเสาร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

“ไอ้เกม-ตำรวจ-บิ๊กรฟท.” ความจังไรในคดีข่มขืนบนรถไฟ

557000008120004กรณีฆาตกรใจโหดฆ่าข่มขืน “น้องแก้ม” (นามสมมุติ) เด็กหญิงวัย 13 ปี บนรถไฟตู้นอน เที่ยวที่ 174 ตู้ 3 สุราษฎร์ธานี - กรุงเทพมหานครกล้องcctv เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2557 ที่ผ่านมา นับเป็นคดีสะเทือนขวัญและโศกนาฏกรรมที่สร้างความหวาดผวาให้แก่บรรดาผู้ โดยสารและคนไทยทั้งประเทศ เนื่องเพราะฆาตกรหาใช่ผู้โดยสารทั่วไป หากแต่คือพนักงานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)เอง

นอกจากนั้นเมื่อถูกสอบเค้นอย่างหนักฆาตกรยังรับสารภาพว่านอกจากจะมี พฤติกรรมเสพยาแล้ว เขายังเคยก่อเหตุข่มขืนพนักงานหญิงของการรถไฟฯซึ่งทำงานอยู่ในขบวนเดียวกัน มาแล้วถึง 2 ราย หนำซ้ำยังมีประวัติว่าเคยต้องโทษ ในคดีค้ายาเสพติดอีกด้วย

สังคมจึงตั้งคำถามถึงมาตรฐานในการคัดเลือกบุคลากรของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งนี้

แน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีนี้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักใน โลกออนไลน์ กระทั่งนำไปสู่กระแสเรียกร้องให้มีการเพิ่มโทษแก่ผู้กระทำผิดในคดีข่มขืนให้ ถึงขั้นประหารชีวิต รวมถึงเรียกร้องให้ผู้บริหารการรถไฟฯแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก !!

นอกจากนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทยยังกลายเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ อันดับต้นๆที่คนไทยเรียกร้องให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาสังคายนาปฏิรูป เพื่อคืนความสุขให้แก่คนไทย เนื่องจากการรถไฟฯมีปัญหาทั้งในด้านประสิทธิภาพในการบริการซึ่งเป็นปัญหา คาราคาซังมาช้านาน ปัญหาด้านมาตรฐานความปลอดภัย และปัญหาเรื่องจริยธรรมความรับผิดชอบ !!

ฆาตกรเป็นเด็กเส้น-มีประวัติค้ายา สารพัดปัญหาของการรถไฟฯ

หากจะตั้งคำถามว่าความบกพร่องที่ทำให้เกิดช่องว่างในการก่ออาชญากรรม ครั้งนี้อยู่ตรงไหน ก็คงต้องไล่เรียงกันมาตั้งแต่ระบบในการคัดกรองคนเข้ามาทำงานของการรถไฟฯที่ ปล่อยให้มีการเล่นพรรคเล่นพวกใช้เส้นสาย พาคนของตัวเองเข้ามาทำงานโดยไม่คำนึงถึงความรู้ความสามารถ ประสิทธิภาพในการทำงาน แม้กระทั่งมีคดีติดตัว มีประวัติอาชญากรรม ก็ยังใช้เส้นเข้ามาทำงานได้

เนื่องเพราะหากย้อนไปดูประวัติของ 'นายเกม' หรือ 'วันชัย แสงขาว' คน ร้ายใจอำมหิตวัย 22 ปี ที่ลงมือฆ่าข่มขืนน้องแก้มซึ่งนอนหลับอยู่ในเตียงนอนชั้นล่างในขณะที่เดิน ทางกลับจากเยี่ยมญาติที่สุราษฎร์ธานีมายังบ้านพักที่กรุงเทพฯ ก็พบว่านายวันชัยนั้นเคยต้องโทษคดีค้ายาเสพติดซึ่งถือเป็นคดีร้ายแรงมาแล้ว ถึง 2 ครั้ง แต่ที่เล็ดรอดเข้ามาทำงานในการรถไฟฯได้เนื่องจากเส้นใหญ่ เพราะเขาเป็นหลานของหัวหน้าในกองรถโดยสาร โดยเป็นที่โจทย์ขานกันภายในว่าก่อนนั้นนายวันชัยเข้ามาเป็นลูกจ้างชั่วคราว จากการฝากฝังของญาติผู้ใหญ่ และเพิ่งผ่านการสอบคัดเลือกเป็นพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ในตำแหน่งพนักงานรถนอน ทำหน้าที่ปูเตียง เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา

อีกทั้งมีคนตั้งข้อสังเกตว่าในการคัดเลือกลูกจ้างประจำครั้งนั้นมี ความเร่งรีบผิดปกติ โดยการคัดเลือกดังกล่าวมีลูกจ้างที่ต้องผ่านการสัมภาษณ์ในช่วงเวลา 3 วัน คือ วันที่ 10-13 มิถุนายน 2557 จำนวนถึง 90 คน แต่กลับมีการเร่งบรรจุวันที่ 17 มิถุนายน 2557 หรือในอีก 4 วันต่อมา ซึ่งเมื่อพิจารณาจากขั้นตอนต่างๆแล้วไม่น่าจะทำได้ทัน เนื่องจากตามขั้นตอนนั้นหลังสอบและประกาศผลแล้ว ระหว่างรอบรรจุเป็นลูกจ้างจะต้องมีกระบวนการตรวจสอบประวัติอาชญากร ตรวจสุขภาพ และทดลองงาน ซึ่งต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน ไม่ใช่แค่ 4 วันเช่นกรณีของนายวันชัย ทั้งนี้ระหว่างการตรวจสอบหากพบว่ามีประวัติอาชญากร หรือมีปัญหาสุขภาพ หรือทำงานไม่ได้ ก็จะไม่ได้รับการบรรจุ และไม่สามารถฟ้องร้องการรถไฟแห่งประเทศไทยได้

ทั้งนี้ ปัญหาเรื่องเด็กเส้นที่เข้ามาทำงานในการรถไฟแห่งประเทศไทยนั้นเป็นปัญหาที่ รับรู้กันมานานแล้ว แม้แต่อดีตผู้บริหาร รฟท.รายหนึ่งก็ยังยอมรับว่า การรับบุคคลเข้าเป็นพนักงานและลูกจ้าง รฟท.นั้นมีขบวนการเด็กฝากเด็กเส้นและค่าหัวคิว โดยหากใครต้องการเข้าทำงานในการรถไฟแห่งประเทศไทยก็ต้องจ่ายอย่างน้อย 50,000 บาทต่อคน ซึ่งคนเหล่านี้ก็ยอมจ่ายด้วยความเต็มใจเพื่อแลกกับสิทธิ สวัสดิการ เมื่อได้เป็นลูกจ้างประจำหรือพนักงานรถไฟแล้ว

แม้คนที่จ่ายเงินซื้อตำแหน่งเข้ามาทำงานในการรถไฟจะไม่ได้ก่อปัญหา ทุกรายไปแต่ก็ทำให้เกิดช่องโหว่ในการเลือกคนที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือมี ประวัติอาชญากรรมเข้ามาทำงาน ซึ่งทำให้ผู้โดยสารไม่อาจมั่นใจในความปลอดภัยได้ โดยเฉพาะในกรณีของนายวันชัยนั้น 'น้องแก้ม' ไม่ใช่เหยื่อรายแรกของอาชญากรนายนี้ เพราะหลังจากที่ถูกจับกุมได้และจำนนต่อหลักฐานนายวันชัยก็รับสารภาพว่าหลัง จากที่เขาได้เข้าทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟเขาได้เคยก่อเหตุข่ม ขืนหญิงสาวมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อทั้ง 2 รายล้วนเป็นพนักงานของการรถไฟฯ แต่หญิงสาวดังกล่าวไม่กล้าโวยวายหรือเข้าแจ้งความเนื่องจากเกรงจะได้รับความ อับอาย

นอกจากนั้นนายวันชัยยังรับสารภาพว่าในวันก่อเหตุเขาได้เสพยาบ้าไป 3 เม็ด และดูคลิปลามก ก่อนที่จะดื่มเบียร์ ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ จึงลงมือก่อเหตุสุดสลดดังกล่าว ขณะที่การปลิดชีพน้องแก้มนั้นก็เป็นไปด้วยความโหดเหี้ยมผิดมนุษย์และถูกวาง แผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยนายวันชัยใช้วิธีอำพรางตัวในความมืดโดยปิดไฟภายในโบกี้รถไฟ ขณะวิ่งผ่านสถานีรถไฟทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนที่เข้าไปที่เตียงนอนของน้องแก้มซึ่งเป็นเตียงนอนชั้นล่าง แล้วทำให้เหยื่อหมดสติเพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ โดยใช้มือบีบคอและใช้หมอนปิดปาก รวมทั้งทุบบริเวณท้องจนน้องแก้มสลบ จากนั้นจึงเปิดหน้าต่างเพื่อให้เสียงภายนอกเข้ามากลบเสียงต่างๆที่อาจเกิด ขึ้น ก่อนที่จะลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ถึง 2 ครั้ง

เมื่อเสร็จกิจจึงโยนเสื้อผ้าของเหยื่อทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน และตั้งใจสังหารเหยื่ออย่างอำมหิตเพื่อปิดปาก โดยจับร่างน้องแก้มพาดไว้กับหน้าต่างรถไฟ และผลักร่างของเหยื่อลงกลางทาง ระหว่างที่รถไฟวิ่งผ่านสถานีวังก์พง อ.ปราณบุรี กับสถานีรถไฟเขาเต่า อ.หัวหิน หลังจากสังหารเหยื่อแล้วนายวันชัยก็ไม่ได้สะทกสะท้านกับความผิดที่ก่อเขายัง คงรื้อค้นกระเป๋าของน้องแก้มอย่างใจเย็น เพื่อพบไอแพดและโทรศัพท์ไอโฟนของเหยื่อจึงได้ขโมยไป เมื่อรถไฟถึงกรุงเทพฯจึงนำไปขายต่อในเวลาต่อมา ในราคาเครื่องละ 1,800 บาท

ที่สำคัญฆาตกรรายนี้ไม่ได้รับสารภาพเพราะสำนึกในความผิด แต่จำนนด้วยหลักฐานจึงจำเป็นต้องยอมรับสารภาพ !!

ขณะที่อีกประเด็นที่ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักก็คือความละหลวม ในการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร และการควบคุมดูแลพฤติกรรมของพนักงานการรถไฟฯ เพราะเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้หลักผู้ใหญ่จะปล่อยให้พนักงานที่ทำงานในรถแต่ละ ขบวนดื่มสุราและเสพยาขณะปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่มีข้อห้ามพนักงานดื่มสุราในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ และมีโทษถึงขั้นไล่ออก ซึ่งในกรณีของนายวันชัยนั้นครั้งแรกมีข้อมูลเล็ดรอดออกมาว่าก่อนก่อเหตุนาย วันชัยได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนพนักงานการรถไฟอีก 3 คน แต่ต่อมามีการแก้ข่าวว่านายวันชัยนั่งดื่มสุราเพียงคนเดียว ส่วนเพื่อนๆ แค่นั่งล้อมวงคุยกันเฉยๆ จึงมีคำถามตามมาว่าแล้วเหตุใดเพื่อนพนักงานการรถไฟฯจึงไม่ห้ามปรามนายวันชัย ไมให้ดื่ม ? เพราะเรื่องนี้มีระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้ว และสมมุติว่าแม้นายวันชัยไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่เมื่อพนักงานเมาขาดสติเองเสียแล้วจะมาตรวจตราดูแลความปลอดภัยให้ผู้ โดยสารได้อย่างไร ?

และในเมื่อแม้แต่พนักงานปูเตียงซึ่งต้องใกล้ชิดและพบปะกับผู้โดยสาร ยังดื่มสุราได้อย่างอิสระเสรีแล้วผู้โดยสารจะมั่นใจได้อย่างไรว่าพนักงานใน ตำแหน่งอื่นๆ อย่างเช่น พนักงานขับรถไฟ พนักงานสับรางรถไฟ จะไม่ได้ดื่มสุราหรืออยู่ในอาการเมามายขณะปฏิบัติหน้าที่ เพราะภาพที่ออกมาคือพนักงานการรถไฟฯ ล้วนรู้เห็นเป็นใจให้เพื่อนทำผิดระเบียบ นอกจากนั้นหลังเกิดเหตุฆ่าข่มขืน ผู้ว่าการรถไฟฯยังเพิ่งจะมีแนวคิดให้เลิกจำหน่ายสุราบนรถไฟ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการรถไฟฯไม่ควรปล่อยให้มีการจำหน่ายสุราบนขบวน รถไฟตั้งแต่ต้น

ประภัสร์แถ ไม่ใช่คน รฟท.

นอกจากความเหลวแหลกของระบบเส้นสายที่เปิดช่องให้ฆาตกรใจอำมหิตเข้ามา อาศัยตำแหน่งหน้าที่ในการรถไฟฯในการก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราและสังหารผู้ โดยสารอย่างโหดเหี้ยม และความละหลอมในการควบคุมดูแลความประพฤติของพนักงานการรถไฟแล้ว ในส่วนของผู้บริหารระดับสูงของการรถไฟฯก็ดูจะมีภาพลักษณ์ที่โหลยโท่ยไม่แพ้ กัน เพราะทันทีที่มีข่าวว่าพนักงานการรถไฟฯก่อเหตุฆ่าข่มขืนผู้โดยสาร นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็ออกมาปฏิเสธทันควันว่า นายวันชัยผู้ก่อเหตุนั้น ไม่ใช่พนักงานของการรถไฟฯ แต่เป็นพนักงานบริษัทที่รับสัมปทานดูแลความสะอาดรถไฟ ให้กับ รฟท. ซึ่งทางผู้บริหารของการรถไฟฯก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะเร่งจัดารเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยเบื้องต้นจะมีคำสั่งไล่พนักงานผู้ก่อเหตุออกทันที นอกจากนั้นก็จะทำการตรวจสอบรายละเอียดของบริษัท รวมทั้งกฎระเบียบต่างๆว่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะสามารถเอาผิดบริษัทผู้รับสัมปทานได้อย่างไรบ้าง

ทว่าช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวปิดไม่มิด เพราะงานนี้เหล่าสมาชิกในโลกออนไลน์ซึ่งรู้สึกถึงเงื่อนงำในการให้สัมภาษณ์ ของนายประภัสร์ต่างพากันคุ้ยแคะแกะรอยจนพบว่านายวันชัย ผู้ต้องหาก่อคดีสะเทือนขวัญนั้นเป็นพนักงานจองการรถไฟอย่างแน่นอน หาใช่พนักงานของบริษัทที่ซับงานจากการรถไฟฯดังที่นายประภัสร์กล่าวอ้าง เพราะจากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของนายวันชัย พบว่านายวันชัยมีการใช้งานเฟซบุ๊กหลายหน้าด้วยกัน โดยในเฟซบุ๊กชื่อ “Banggame Bangsue” ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายวันชัยได้ใช้ภาพส่วนบุคคลเป็นภาพตนเองในชุดพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย สีขาว พร้อมระบุข้อมูลส่วนตัวว่าเป็น “พนักงานรถนอน ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย”

อีกทั้งเมื่อตรวจสอบไปยังเว็บไซต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยก็ปรากฏ หลักฐานชัดเจนว่า นายวันชัยเป็นลูกจ้างเฉพาะงานที่เพิ่งสอบผ่านการคัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์ เมื่อวันที่ 10 - 13 มิ.ย. และได้ผ่านการสอบคัดเลือกเป็นลูกจ้างพนักงานรถนอน ทำหน้าที่ปูเตียง เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา โดยอยู่ในรายชื่อลำดับที่ 43 จึงไม่ใช่พนักงานรับจ้างเหมาของบริษัทเอกชน (Outsource) ตามที่นายประภัสร์ได้ให้สัมภาษณ์ อย่างไรก็ดี หลังจากที่ชาวเน็ตได้ออกมาแฉเรื่องนี้ ล่าสุดภาพของเอกสารดังกล่าวได้ถูกนำออกจากเว็บไซต์ของฝ่ายการเดินรถ ของการรถไฟแห่งประเทศไทยไปแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อมีหลักฐานมัดแน่นชนิดดิ้นไม่หลุด ผู้ว่าการรถไฟฯ หนวดงามจึงกระมิดกระเมี้ยนออกมาแก้เกี้ยวว่า “ กรณีที่บอกว่านายวันชัย แสงขาว เป็นลูกจ้างบริษัทเอาต์ซอร์สนั้นไม่ได้โกหก เพราะเป็นข้อมูลที่มีเจ้าหน้าที่รายงานในขณะนั้น ซึ่งมีผู้ต้องสงสัยหลายคน และหนึ่งในนั้นเป็นลูกจ้างเอาต์ซอร์สที่พี่สาวของผู้เสียชีวิตระบุว่าน่า สงสัยที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะผู้ว่าการ รฟท.รู้สึกช็อก สลด และเสียใจต่อครอบครัวของ ด.ญ.แก้ม ถือว่าตั้งแต่ก่อตั้งรถไฟมา 117 ปี เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงสะเทือนขวัญที่สุด เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดแค่กรณีการทำอนาจารบนรถ ” นายประภัสร์ กล่าว

นอกจากนั้น นายประภัสร์ ยังแก้ตัวแบบข้างๆคูๆว่าสาเหตุที่เกิดเหตุฆ่าข่มขืนบนรถไฟ ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงครั้งนี้นั้น เป็นเพราะกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและเจ้าหน้าที่การรถไฟฯไม่เพียงพอต่อ การรักษาความปลอดภัยบนรถไฟ เนื่องจากในปี 2538 มติของคณะรัฐมนตรี เลิกการบรรจุพนักงานรถไฟทั้งหมด จึงทำให้การรักษาความปลอดภัยค่อยข้างหละหลวม ซึ่งหลังจากนี้ จะปรับแผนให้พนักงานตรวจตราให้เข้มงวดโดยเฉพาะตู้นอน รวมถึงเตรียมให้มีการยกเลิกการขายสุรา และหากพบผู้ดื่มสุราบนขบวนรถไฟจะเชิญลงจากขบวนรถทันที นอกจากนั้นจะดำเนินการปรับปรุงขบวนรถให้มีความทันสมัยขึ้น และจัดให้มีโบกี้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ

'ประภัสร์' ถูกเด้งพ้น ผู้ว่าฯรถไฟ แม้หน้าทนสมเป็นคนระบอบทักษิณ

เมื่อเป็นที่ประจักษ์ว่าแนวคิดในการทำงานของผู้ว่าการรถไฟฯช่างแถไถโหลยโท่ ยขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่จะเกิดกระแสเรียกร้องให้นายประภัสร์ลาออกจากตำแหน่ง เพราะแม้แต่เด็กประถมยังรู้ว่าเหตุฆ่าข่มขืนบนรถไฟครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับ ปัญหารถเก่า ไม่เกี่ยวกับโบกี้ที่มีผู้โดยสารทั้งหญิงและชายอยู่ร่วมกัน ไม่เกี่ยวกับจำนวนพนักงานการรถไฟที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย หรือจำนวนตำรวจรถไฟไม่เพียงพอ เพราะงานนี้ผู้ก่อเหตุคือ 'พนักงานของ รฟท.' ซึ่งทำผิดระเบียบทั้งดื่มสุราและเสพยาก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ อีกทั้งการรถไฟฯก็ยังเป็นคนพิจารณารับอาชญากรติดยาบ้ารายนี้เข้ามาเป็น พนักงานเอง !!

ที่สำคัญจากการให้สัมภาษณ์ของนายประภัสร์ที่บอกว่ากรณีฆ่าข่มขืนน้อง แก้มถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่สุด เพราะที่ผ่านมา “มีแค่กรณีการทำอนาจารบนรถไฟ ” ก็สะท้อนให้เห็นว่านายประภัสร์นั้นไม่ได้สนใจหรือให้ความสำคัญต่อการป้องกัน ปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นบนรถไฟแต่อย่างใด

ถามว่าทำไมนายประภัสร์จึงมองเช่นนั้น ? เป็นเพราะว่าอาชญากรรมดังกล่าวยังไม่ได้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของประภัสร์ กระนั้นหรือ เพราะแม้แต่ตัวนายประภัสร์ก็ยังออกมายอมรับว่าเขาไม่กล้าให้ลูกสาวขึ้นรถไฟ ตู้นอน ?

“ ผมเชื่อว่ารถไฟต้องมีมาตรการให้คนเกิดความประทับใจ แต่ถ้าถามว่าผมให้ลูกสาวขึ้นรถไฟไหม ผมคงไม่กล้าเหมือนกัน” นายประภัสร์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว 'ASTVผู้จัดการ LIVE' อย่างชัดถ้อยชัดคำ

แต่เสียใจด้วย หากจะถามหาสปิริตหรือความรับผิดชอบใดๆ จากผู้ว่าการรถไฟฯ คนนี้ เพราะนายประภัสร์ยืนยันแน่นหนักว่าเขาจะไม่ลาออก โดยอ้างว่าถ้าเขาลาออกก็แสดงว่าเขาหนีปัญหา ดังนั้นเขาจึงต้องนั่งเกาะเก้าอี้ผู้ว่าการรถไฟฯต่อไปแบบไม่มีกำหนด !!

“หากลาออกจะถูกคนอีกกลุ่มบอกว่าหนีปัญหาได้ ทำไมไม่อยู่แก้ปัญหา และหากลาออกจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ ซึ่งผู้ว่าฯ รฟท.นั้นจะสรรหาเข้ามา ซึ่งต้องใช้เวลานาน ผมจึงขออยู่เพื่อแก้ไขปัญหา หลังจากนี้ เพื่อที่จะมีคนคอยสั่งการและหามาตรการป้องกันความปลอดภัย” นายประภัสร์ยืนยันในเจตนารมณ์

แต่คำถามที่ตามมาจากประชาชนคนไทยในฐานะผู้ใช้บริการการรถไฟฯคือ ถ้าที่ผ่านมานายประภัสร์มีประสิทธิภาพในการบริหารงาน ปัญหาอาชญากรรมร้ายแรงเช่นนี้จะเกิดขึ้นหรือ ?

ทั้งนี้หากสาวลึกลงไปก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า 'นายประภัสร์ จงสงวน' นั้นเป็นคนในระบอบทักษิณ เขาได้ดิบได้ดีมีตำแหน่งใหญ่โตก็ด้วยการสนับสนุนของกลุ่มการเมืองดังกล่าว จึงทำงานรับใช้ระบอบทักษิณมายาวนาน โดยนายประภัสร์มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับ 'อุกฤษ มงคลนาวิน' ที่ ยังปวารณาตนเป็นลิ่วล้อทักษิณแม้จะแก่เฒ่ามากแล้ว ประภัสร์เริ่มชีวิตการทำงานในเมืองไทยที่สำนักกฎหมายของอุกฤษ กระทั่งมีโอกาสได้เข้าทำงานในการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ตามคำชวนของ จุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด ที่มีผลงานยอดเยี่ยมในการตัดตอนคดีของ “ตระกูลชิน”

ประภัสร์เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานขึ้นชั้นเป็น ผู้ว่าการรถไฟฟ้ามหานคร (รฟม). เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2540 ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ซึ่งมีทักษิณ เป็นรองนายกฯ และกินตำแหน่งนี้ยาวนานจนถึงปี 2551 ก็ผันตัวเองออกมาสวมเสื้อพลังประชาชน พรรคการเมืองของทักษิณ ลงสมัคร ผู้ว่าฯ กทม. แต่พ่ายแพ้ให้แก่ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์

นับจากนั้นมาก็ชัดเจนว่า ประภัสร์คือหนึ่งในคนที่ทักษิณสั่งได้ โดยกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งในยุคที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ได้รับการโปรโมตให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก่อนที่จะลาออกไปลงสมัครเป็นผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย และได้รับการแต่งตั้งจาก ครม. ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2555 จนถึงปัจจุบัน

ที่น่าสนใจคือ การเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟฯ ของประภัสร์ ถูกแฉโดย นคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ว่า มีการทำผิดกฎหมายการรถไฟฯ มาตรา 37 และกฎหมายคุณสมบัติพนักงานรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากประภัสร์ขาดคุณสมบัติ เพราะเคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง และยังไม่ใช่ผู้บริหารองค์กรที่มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาทตามที่กำหนดไว้ด้วย

เนื่องจากผลงานการบริหาร รฟม. พบว่า ในปี 2551 มีรายได้เพียงแค่ 529 ล้านบาทเท่านั้น พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งประภัสร์เป็นผู้ว่าการการรถไฟฯ เพื่อให้มารับงานพัฒนาพื้นที่การรถไฟฯมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท และแผนพัฒนาพื้นที่มักกะสันอีก 3 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ ประภัสร์ยังเป็นคนที่มีบทบาทอย่างยิ่งในการผลักดันกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้าน ลากคนไทยเป็นหนี้นานครึ่งศตวรรษ โดยถือได้ว่าเป็นลูกคู่คนสำคัญของชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม อีกทั้งเขายังร่วมเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. เงินกู้สองล้านล้าน มีบทบาทสำคัญมากกว่ารัฐมนตรีหลายคนใน ครม. ยิ่งลักษณ์ ถึงขนาดชัชชาติตอบไม่ได้ก็จะเรียกหาประภัสร์ให้เป็นคนชี้แจงแทน

ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.บ. สร้างหนี้ขัดรัฐธรรมนูญ ประภัสร์เป็นหนึ่งในขี้ข้าของยิ่งลักษณ์ที่ออกมากล่าวโทษศาลรัฐธรรมนูญว่าทำ ให้การพัฒนาระบบรางต้องล่าช้าออกไปอีก 20 ปี เพราะการพัฒนาต้องใช้เงินกู้ด้วยกฎหมายพิเศษไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็วจาก ระบบงบประมาณปกติ

อย่างไรก็ดี หลังเกิดกระแสกดดันอย่างหนักให้นายประภัสร์ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบใน กรณีเหตุข่มขืนแล้วฆ่าเด็กหญิงวัย 13 บนรถไฟ ล่าสุด คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้มีคำสั่งปลด 'นายประภัสร์ จงสงวน' ออกจากตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย อีกทั้งยังมีคำสั่งแต่งตั้ง 'นายออมสิน ชีวะพฤกษ์' อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยเห็นว่าเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่ประธานบอร์ด รฟท.คนใหม่จะเข้ามาแก้ปัญหาเร่งด่วนของรถไฟในเรื่องความปลอดภัย เพื่อเรียกความเชื่อมั่นในการใช้บริการกลับมา

สาวไส้..ตำรวจไทยแสนอุบาทว์

อีกหน่วยงานที่ถูกสังคมตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพและความรับผิดชอบใน การทำงานไม่แพ้กันก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ? เพราะงานนี้หลังจากคดีคลี่คลายและปรากฏภาพ นางลักขณา ทองพัฒน์ คุณแม่ของน้องแก้ม พร้อมกับครอบครัวได้ดินทางไปรับมอบเงินช่วยเหลือและเข้ามอบดอกไม้ขอบคุณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจรถไฟ ตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจ กก.ดส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาคดีดังกล่าว โดยมี พล.ต.อ. เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. เป็นตัวแทนรับมอบ ก็เกิดการแฉลากไส้จากญาติของเหยื่อว่างานนี้มีการจัดฉากเอาหน้าชิงผลงาน ถึงขั้นที่บังคับให้คุณแม่ของน้องแก้มท่องสคริปต์ขอบคุณตำรวจ ทั้งที่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ใส่ใจที่จะช่วยติดตาการหายไปของน้อง แก้มแต่อย่างใด จริงๆแล้วหน่วยงานที่เข้าไปช่วยค้นหาศพคือเจ้าหน้าที่หน่วยกูภัยมูลนิธิ สว่างหัวหินธรรมสถาน และมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถาน (ปราณบุรี) แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่ได้เอ่ยถึง

และหลังจากมอบดอกไม้ให้แก่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พี่สาวของน้องแก้มได้เดินร้องไห้ออกมาจากห้องรับรอง และโผเข้ากอดญาติ พร้อมกับพูดว่า “นั่นน้องสาวหนูทั้งคน ตำรวจพูดโกหกทั้งหมดเลย และไม่ได้ช่วยอะไรเลย พี่ชายหนูเป็นคนไปตามหาจนเจอ”

อีกทั้งพี่ชายของน้องแก้มยังให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า " การเดินทางมาครั้งนี้คุณแม่ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นการมาเพื่อกล่าวขอบคุณตำรวจ เพราะทีแรกได้รับแจ้งว่าให้มารับเงินเยียวยาจากกรมคุ้มครองสิทธิฯ เท่านั้น แต่พอมาถึงที่นี่กลับถูกทางตำรวจให้ท่องสคริปต์เพื่อที่จะกล่าวขอบคุณตำรวจ หน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งจริงๆแล้วคุณแม่ไม่ต้องการ วันนี้จริงๆแล้วแม่ควรจะต้องได้พักผ่อน เพราะไม่ได้หลับได้นอนกันมา 3 วันแล้ว น้องอยู่ที่วัด แม่ก็อยากไปนั่งเฝ้าน้อง สวดมนต์ให้น้อง แต่ทางตำรวจต้องการไปรับตัวแม่มา เพียงเพื่อให้มาขอบคุณที่นี่ แค่นี้หรือครับ ตำรวจต้องการแค่นี้ใช่มั้ย ตั้งแต่การแถลงข่าวครั้งแรกที่ปราณบุรี ยังไม่เห็นใครได้แสดงความขอบคุณกลุ่มคนที่สมควรได้รับคำขอบคุณจริงๆก็คือ เจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างฯปราณบุรี ที่ลงพื้นที่ตามหาร่างน้องแก้มอย่างเหน็ดเหนื่อย ผมมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ตำรวจจัดฉากให้ครอบครัวมาขอบคุณได้เก่ง มาก.."

ซี่งการแฉลากไส้ครั้งนี้ทำเอาตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหน้าม้านไปตามๆกัน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้แม้จะมีการปลดนายประภัสร์พ้นเก้าอี้ผู้ว่า รฟม.แล้ว แต่ก็ถือเป็นเพียงก้าวแรกในการแก้ปัญหาเท่านั้น หลังจากนี้คงต้องมีการสังคายนาทั้งในส่วนของการบริหารและการให้บริการของการ รถไฟฯกันใหม่หมด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นผู้โดยสารที่ตกต่ำถึงขีดสุดกลับคืนมาอีกครั้ง !!

Source: “ไอ้เกม-ตำรวจ-บิ๊กรฟท.” ความจังไรในคดีข่มขืนบนรถไฟ

น้องแก้มเข้าฝันแม่ บอกฆาตกรไม่ได้มีคนเดียว

2จากกรณี "น้องแก้ม" เด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูก นายวันชัย แสงขาว หรือ เกม อายุ 22 ปี ลูกจ้างพนักงานทำ ความสะอาดบนรถไฟขบวนที่ 174 ทำร้ายร่างกายและข่มขืนกระทำเรา 2 ครั้งซ้อน ก่อนจับร่างเปลือยเปล่าโยนทิ้งออกทางหน้าต่างรถไฟ พบเป็นศพอยู่ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (10 ก.ค.) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 นำเสนอข่าวว่า แม่น้อง แก้มเปิดเผยว่า เมื่อคืนน้องแก้มได้มาเข้าฝันบริษัทกล้องวงจรปิด ในความรู้สึกของตน และบอกว่าน้องเพิ่งจะรู้ตัวว่าเสียชีวิต และก็บอกว่าหนูหนาว ตนจึงได้นำเสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ทำบุญส่งไปให้ในตอนเช้า น้องยังบอกอีกว่าจะไม่ยอมไปไหนเพราะมีคนที่ร่วมกันฆ่าน้องอีกหลายคน ตนสังเกตใบหน้าน้องแก้มเหมือนยังอาฆาตอยู่ น้องแก้มยังบอกด้วยว่าตอนนี้ยังอยู่บนรถไฟตู้นอนที่เกิดเหตุ ในวันพรุ่งนี้ตนพร้อมด้วยญาติ จะประสานไปยังการรถไฟ เพื่อไปจะเชิญดวงวิญญาณน้องแก้มออกมาจากรถไฟตู้นอนตรงที่เกิดเหตุตามความ เชื่อ เพื่อส่งวิญญาณน้องไปสู่สุคติ ที่สำคัญตนอยากจะให้ผู้ต้องหามาขอขมาศพน้องแก้มด้วย เพื่อที่น้องแก้มจะได้ไม่อาฆาตเคียดแค้น ทุกวันนี้ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปกติน้องจะมานอนกับตนทุกคืน เวลาไปส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้า เคยมีลูกนั่งกัน 2 คน ตอนนี้ก็เหลือพี่สาวเขาคนเดียวแล้ว วันนี้น้องไม่อยู่แล้ว

Source: น้องแก้มเข้าฝันแม่ บอกฆาตกรไม่ได้มีคนเดียว

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- อัยการสั่งสอบผู้อำนวยการช่องข่าวการเงินและควบดูแลฝ่ายการตลาดของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศจีน (CCTV) ข้อหารับสินบน

ผู้บริหารอาวุโสของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศ จีน ที่ดูแลค่าโฆษณา มูลค่าหลายพันล้านหยวน ถูกอัยการกักตัวเพื่อสอบสวนเหตุต้องสงสัยในการทุจริต


557000006365201นายกัว เจิ้นสี วัย 49 ปี ผู้อำนวยการช่องข่าวการเงินของCCTV และนายเถียน ลี่อู่ โปรดิวเซอร์รายการฯ ต้องสงสัยว่ารับสินบน ทั้งสองจึงถูกควบคุมตัว “เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา” สำนักอัยการประชาชนสูงสุด แถลงเมื่อคืนวาน (1 มิ.ย.)
ก่อนหน้านี้ ไฉซิน สื่อผู้ทรงอิทธิพลของแผ่นดินใหญ่ อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผย ระบุว่า นายกัวถูกอัยการจากมณฑลจี้หลิน ควบคุมตัวไปแล้ว อย่างไรก็ตามทางซีซีทีวี ก็ไม่ออกมาแสดงความเห็นแต่อย่างใด
ไฉซิน ระบุว่า หลังจากที่ นายหลี่ ตงเซิง อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ คนใกล้ชิดของอดีต “ซาร์” ความมั่นคงจีน นายโจว หย่งคัง ร่วงจากอำนาจเมื่อเดือนธ.ค. 2556 ก็มีข่าวว่า นายกัวผู้นี้เองที่คอยให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐในการสอบสวนนายหลี่
นายกัว เริ่มเข้าวงการผู้ประกาศข่าวการเงินในปี 2535 และขึ้นเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในปี 2541 ไฉซินรายงาน
ระหว่างปี 2548-2552 นายกัวควบสองตำแหน่งทั้งผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของcctv และ ผู้อำนวยการช่องข่าวการเงิน ซีซีทีวี2 ทว่า ในปี 2552 เขาก็ยุติบทบาทในฝ่ายการตลาด
ไชน่า เดลี รายงานว่า มูลค่าการประมูลการโฆษณาในซีซีทีวี เพิ่มขึ้นจาก 2,600 ล้านหยวน (ประมาณ 13,000 ล้านบาท) ในปี 2545 เป็น 15,900 ล้านหยวน หรือ ราวๆ 79,500 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา (2556)
ในฐานะผู้อำนวยการช่องข่าวการเงิน นายกัว รับดูแลรายการชื่อดังในแวดวงธุรกิจของแดนมังกร 2 รายการ คือ คนดังในแวดวงธุรกิจ และ รายการสิทธิผู้บริโภค
รายการบคนดังในแวดวงธุรกิจ ตีแผ่ชีวิตของผู้นำทางธุรกิจจำนวนมาก ส่วนรายการสิทธิผู้บริโภค หรือ 315 กาล่า ที่เริ่มออกอากาศตรงกับวันสิทธิผู้บริโภคโลก 15 มี.ค. ก็ส่งสายข่าวเข้าไปตรวจสอบการทำธุรกิจลับ
“จากตำแหน่งใหญ่โต ในองค์กรที่มีอำนาจมาก เป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐที่มีอำนาจผูกขาด คุณจะเห็นเลยว่า คนจำนวนมากต่อคิวเข้าแถวให้สินบนเขา” นายเติ้ง อี้ว์เหวิน อดีตรองบรรณาธิการ สตัดดี้ ไทมส์ กล่าว
ในขณะที่ นายจัง จี้อัน อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัย ซุน ยัต เซน ให้ความเห็นว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่เลินเล่ออย่างมาก ที่ปล่อยให้หัวหน้าบรรณาธิการ และ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดขององค์ใหญ่ระดับซีซีทีวี เป็นคนๆ เดียวกัน
“ฝ่ายจัดทำเนื้อหาควรแยกขาดจากผู้ที่ดูแลผลประโยชน์ทางการค้า” นายจังกล่าวทิ้งท้าย
อนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุด ของนโยบายปราบปรามการทุจริตของจีน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เข้าดำรงตำแหน่งในเดือน พ.ย. 2555 เป็นต้นมา


อ้างอิงจาก:manager.co.th

Source: เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์- อัยการสั่งสอบผู้อำนวยการช่องข่าวการเงินและควบดูแลฝ่ายการตลาดของสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศจีน (CCTV) ข้อหารับสินบน

ปล้นทอง4ล. โต๊ะกังในห้าง ชิง180บ. ตร.นนท์ เร่งล่าตัว

โจร บุกเดี่ยวปล้นทอง"โต๊ะกัง"หนัก 182 บาทเกือบ 4 ล้านบาทกลางห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน รปภ.วิ่งไล่ตามจับแต่หนีรอดไปได้หวุดหวิด ตร.นนทบุรีเช็กบริษัทกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายชาย สูง 170 ซ.ม. สวมเสื้อแจ๊กเกตดำ ใส่หมวกแก๊ปพรางใบหน้า ทำทีเดินเข็นรถช็อปปิ้งดูลาดเลาฉวยโอกาสขณะ รปภ.เดินไปที่อื่น ชักปืนบุกปล้นใช้เวลาเพียง 40 วินาที กวาดทองหนีลอยนวล 


เมื่อ เวลา 17.45 น. วันที่ 11 ก.ค. ร.ต.ท.เสถียร เสนผาบ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นทอง ภายในห้างขายทอง "โต๊ะกัง งามวงศ์วาน" ชั้นจี เลขที่ 30/39-50 ตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขางามวงศ์วาน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.กิตติ สุขสมภักดิ์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.นักรบ ชอบทำทาน สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน

view_resizing_images.phpที่ เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบพนักงานขายสาวหน้าเคาน์เตอร์ยืนหน้าตาตื่น น.ส.สิรินยา ศิริ อายุ 16 ปี เล่าเหตุการณ์ระทึกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมพนักงานกำลังยืนรับลูกค้าอยู่ ได้มีคนร้ายเป็นชายสูงประมาณ 170 ซ.ม. ใส่เสื้อแจ๊กเกตดำ ใส่หมวกแก๊ป เดินตรงเข้ามาหาตนพร้อมเปิดเสื้อโชว์อาวุธปืนข่มขู่แล้วสั่งให้อยู่เฉยถ้า ไม่อยากตาย แล้วชักปืนออกจ่อพนักงานอีกคนให้หยิบทองใส่ถุงผ้าลายที่เตรียมมา แต่ไม่มีใครกล้าหยิบ คนร้ายจึงกระโดดข้ามเคาน์เตอร์เข้ามา กวาดสร้อยคอทองคำหนัก 4 บาท 19 เส้น หนัก 2 บาท 53 เส้น รวมน้ำหนักทอง 182 บาท มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท ใส่ถุงก่อนจะวิ่งหลบหนีโดยมี รปภ.ของห้างวิ่งไล่ตามคนร้ายไป

ด้าน นายวัชชิระ ทาสาด เจ้าหน้าที่ รปภ. ให้การว่า ขณะที่ตนตรวจดูความเรียบร้อยห่างจากร้านทองโต๊ะกังที่เกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ได้ยินเสียงคนร้องและวิ่งแตกตื่นออกมาจากร้านทอง ตนจึงรีบวิ่งไปดูก็พบคนร้ายวิ่งสวนออกมาจากร้านทองดังกล่าว แล้วคนร้ายวิ่งออกไปที่ห้างโฮมโปรซึ่งอยู่ติดกันก่อนที่คนร้ายจะขึ้นรถ จยย.ไม่ทราบสี ยี่ห้อ หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด 

ต่อ มาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจดูกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายทำทีเข็นรถเข็นเดินอยู่ หน้าร้านโดยอาศัยช่วงที่ รปภ.ของห้างเดินตรวจตราไปที่ร้านอื่นก่อน จากนั้นตรงเข้ามาก่อเหตุปล้นทองทันทีโดยใช้เวลาลงมือเพียง 40 วินาที ภาพวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เร่งออกตรวจดูกล้องวงจรปิดตามจุดอื่นๆ ของห้างที่สามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน และที่ห้างโฮมโปร เพื่อใช้เป็นเบาะแสตามล่าคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


อ้างอิงจาก:khaosod.co.th

Source: ปล้นทอง4ล. โต๊ะกังในห้าง ชิง180บ. ตร.นนท์ เร่งล่าตัว

วันพุธที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ชี้ปรับปรุงระบบติดกล้องวงจรปิด

754368ที่กองบังคับการตำรวจรถไฟ(บก.รฟ.)พล.ต.ต.ธนังค์บุรานนท์ ผบก.รฟ.ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงมาตรการในการป้องกันหลังเกิดเหตุ สะเทือนขวัญกับ ด.ญ.แก้ม ว่าในเบื้องต้นจัดกำลังให้เพิ่มขึ้นเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ บริการรถไฟซึ่งในส่วนภารกิจหลักของตำรวจรถไฟนั้นมีหน้าที่ในการดูแลให้ บริการผู้ใช้บริการรถไฟแต่ด้วยข้อจำกัดของอัตรากำลังพลของตำรวจรถไฟทำให้การ ทำงานของตำรวจรถไฟนั้นขาดความคล่องตัวโดยปัจจุบันตำรวจรถไฟมีอัตราทั้ง หมด600 นายแบ่งเป็นสายตรวจ 500นาย ฝ่ายธุรการ 100นาย ซึ่งถ้าเป็นหน้างานการบริการถือว่าเพียงพอในระดับหนึ่งเมื่อเทียบกับภารกิจ ที่ได้รับอย่างไรก็ตามทันที่ที่เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นต้องมีการทบทวนมาตรการ รักษาความปลอดภัย รวมทั้งจัดกำลังพลใหม่โดยให้เจ้าหน้าที่ธุรการเอกสารแบ่งเวลามาทำหน้าที่สาย ตรวจเดินเท้าตรวจบนขบวนรถไฟและตามสถานีต่างๆ

พล.ต.ต.ธนังค์กล่าวต่อว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ทางบก.รฟ.ได้มีการประชุมร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเบื้องต้นได้มีการตั้งคณะกรรมการตำรวจรถไฟไทยขึ้นเพื่อรองรับการขยายตัว ของการรถไฟแห่งประเทศไทยโดยในการประชุมในครั้งนี้ได้พูดถึงเรื่องการปรับ กำลังพลรวมทั้งการปฏิบัติงานซึ่งต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยหลังจากนี้ตนได้ สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ในการออกตรวจทุกขบวนรวมทั้งประชาสัมพันธ์ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการให้กลับมาซึ่งหากถามว่าหลังจากเกิด เหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นนั้นมีความหนักใจไหมตนขอยืนยันว่าเกิดมาเป็นตำรวจ แล้วจะหนักใจไม่ได้ต้องแก้ไขปัญหาทั้งนี้ในกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายวันชัย เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว2 ครั้งกับพนักงานของการรถไฟมาทราบมาบ้างแต่เนื่องจากไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้ง ความทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีได้ซึ่งยอมรับว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ไม่มีการ รวบรวมสถิติคดีอาชญากรรมต่างๆที่เกิดขึ้นบนรถไฟเนื่องจากเวลาเกิดคดีบนรถไฟ ขณะรถไฟกำลังวิ่งในแต่ละครั้งจะพิจารณาตามท้องที่เกิดเหตุโดยตำรวจรถไฟไม่มี อำนาจในการสอบสวนดำเนินคดีแต่จะมีอำนาจเฉพาะเพียเหตุที่เกิดขึ้นภายในสถานี เท่านั้น

"อยากชี้แจงว่าในอดีตที่ผ่านมาแต่ละโบกี้นั้นนอกจากตำรวจรถไฟแล้วจะมีเจ้า หน้าที่ของการรถไฟร่วมดูแลด้วยซึ่งคดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีสะเทือนขวัญทำให้ ภาพขององค์กรได้รับผลกระทบอย่างไรก็ตามยอมรับว่าแม้จะมีการเพิ่มกำลังให้สา มารถดูเเลแต่ละขบวนรถไฟได้อย่างทั่วถึง แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะช่วยป้องกันเหตุอาชญากรรมได้100%สิ่งสำคัญที่ สุดคือการปรับปรุงที่ระบบเช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดบนรถไฟและให้ตำรวจที่ปฏิบัติงานบนรถไฟเป็นเซ็นเตอร์ ในการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าคดีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กระแสสังคมมองว่าเป็นความ บกพร่องของตำรวจรถไฟส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้า หน้าที่ซึ่งจะต้องมีการเรียกขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่กลับคืนมาเพื่อให้ สามารถเรียกความเชื่อมั่นของประชาชนให้กลับคืนมา"ผบก.รฟกล่าว

ต่อมา พล.ต.ต.ฐิติราชหนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น.ในฐานะหัวหน้าชุดทีมสืบสอบคลี่คลายคดีการหายตัวไปของด.ญ.กชกรหรือน้อง แก้ม ได้เดินทางมาที่บก.รฟ.เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีโดยกล่าวว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากโดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลัง ไปตรวจค้นบ้านนายวันชัยที่ย่านสามเสนซึ่งหลังจากนี้จะมีการประชุมร่วมกันแต่ เบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาความโศกเศร้าความ สูญเสียของครอบครัวและขอวางใจว่าตำรวจจะทำงานอย่างตรงไปตรงมาเต็มที่เพื่อจะ ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุดในชั้นนี้อยู่ในขั้นของการรวบรวม พยานหลักฐานเพื่อมัดตัวคนผิดต่อให้ผู้ต้องหาปฏิเสธในชั้นศาลศาลก็ต้องเชื่อ มั่น100%ว่าจากหลักฐานที่ตำรวจมีจะระบุได้ว่าเขาเป็นผู้กระทำความผิดโดย เมื่อวานนี้พล.ต.อ.เอกอังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการกรณีที่เกิดขึ้นซึ่งถือเป็นการตอกย้ำว่าตำรวจ มีความจริงใจที่ทำงานและที่มีการบูรณการการทำงานร่วมกันโดยมีการดึงพ.ต.อ. นภันต์วุฒิเลี่ยมสงวน ผกก.กก.ดส.มาร่วมทำงานนั้นเนื่องจากเป็นหน้างานที่รับผิดชอบอยู่แล้วรวมถึง พ.ต.อ.คึกฤทธิ์พิทักษ์จำนงค์ ผู้กำกับการกองอุทธรณ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของผู้เสีย หายเป็นเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจของพ.ต.อ.นภันต์วุฒิอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาทางเพื่อนของนายวันชัยได้เดิน ทางมาพบ ร.ต.ท.ยุทธภัณฑ์คำเเก้ว พนักงานสอบสวนสน.นพงวงศ์เพื่อนำแท็บเล็ตมามอบให้โดยแท็บเล็ตดังกล่าวเป็นของ น้องแก้มที่หายไปในวันเกิดเหตุและเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.ปราณบุรีได้เดินทางมารับเเท็บเล็ตเพื่อส่งพิสูจน์หาความเชื่อโยงของคดี ต่อไป

อ้างอิงจาก:dailynews.co.th

Source: ชี้ปรับปรุงระบบติดกล้องวงจรปิด

ตะลุยแดนมังกรป้อนช่อง CCTV

บ.แอนิเมชั่นไทยตะลุยแดนมังกร คว้างานผลิตการ์ตูน "Silk Road" ป้อนช่อง CCTV


นายสุภณวิชญ์ สมสมาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด เปิดเผยว่า เพิ่งได้ลงนามในความร่วมมือ (MOU) ในการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นกับ สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของจีน หรือ CCTV เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลังจากได้มีโอกาสนำเสนอผลงานตัวอย่างภาพยนต์เรื่อง "Silk Road" ให้ผู้บริหารช่อง CCTV พิจารณา


การทำงานของเดอะมั้งค์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะทำงานรับจ้างผลิต (Outsource) ให้กับต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะ Hollywood  ซึ่งการเข้าไปมีส่วนหนึ่งของทีมงานระดับโลก ได้ส่งผลให้บริษัทฯ ผลิตผลงานที่มีมาตรฐานสูงมาโดยตลอด แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีแนวคิดว่า เราควรจะมี IP (Intellectual Property) ของตัวเองบ้าง จึงได้พัฒนาเรื่อง Silk Road ขึ้นมา และเมื่อปี 2556 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า พาคณะผู้แทนการค้าด้าน ดิจิทัล คอนเทนท์ จากประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เข้ามาพบปะกับผู้ผลิตแอนิเมชั่นของไทย ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ CCTV ซึ่งเดินทางมาด้วยและประทับใจในผลงาน จึงได้มีการติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่มาของความร่วมมือเพื่อผลิตการ์ตูนแอนิเมชั่นเรื่อง "Silk Road"

สำหรับ "Silk Road" เป็นภาพยนตร์การ์ตูนแอนิเมชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นทางสายไหมอันโด่งดังเป็นการย้อนอดีตเรื่องราวของเส้นทางการค้า ที่เชื่อมโยงโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก ผ่านการบอกเล่าของนักเดินทางในรูปแบบการ์ตูนแอนิเมชั่นที่สนุกสนาน แฝงไว้ด้วยองค์ความรู้และวัฒนธรรมของสองซีกโลก

โดยทาง CCTV ได้ให้บริษัท Beijing Glorious Animation Co. ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ผลิตการ์ตูนแอนิเมชั่นป้อนช่อง CCTV มาร่วมลงทุนผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องกับบริษัท เดอะมั้งค์ สตูดิโอ จำกัด เพื่อจะให้เด็กจีนทั่วประเทศได้รับชม โดยจะร่วมกันทำงานทั้งในกรุงเทพและปักกิ่ง คาดว่าจะออกอากาศทางช่อง CCTV ได้ในปี 2560

ด้านนายไพจิตร วิบูลย์ธนสาร อัครราชฑูตฝ่ายการพาณิชย์ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมากที่ผู้ผลิตแอนิเมชั่นของไทย สามารถนำเสนอแนวคิด ให้สถานีโทรทัศน์ CCTV ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของจีน ยอมรับและสนใจที่จะนำไปผลิตออกอากาศให้กับคนจีนทั่วประเทศได้ดูนั้น เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ภาพยนตร์ต่างชาติ จะผ่านเข้าไปในจีนได้ แสดงให้เห็นว่า คนไทยเรามีความคิดสร้างสรรค์ที่สูงมาก และมีฝีมือเป็นที่ยอมรับระดับสากล โดยความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการแอนิเมชั่น และดิจิตอลคอนเทนท์ ระหว่างสองประเทศด้วย

Source: ตะลุยแดนมังกรป้อนช่อง CCTV

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ภาพร้านเหล้าจัดกิจกรรม

ภาพร้านเหล้าเชียงใหม่จัดกิจกรรมให้คร่อมสาวเปลือยอก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 ก.ค.) ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ซึ่งได้จัดกิจกรรมซึ่งคาดว่าเป็นการส่งเสริมการขายของทางร้านกล้องวงจรปิด โดยมีหญิงสาวเปลือยกายท่อนบน ก่อนที่จะถูกชายที่คาดว่าเป็นลูกค้าของร้านคร่อมร่าง ขณะที่อีกภาพก็เป็นหญิงสาวคนดังกล่าว ยืนถือขวดสุราอยู่บนโต๊ะ ทั้งๆ ที่เปลือยท่อนบน และอีกภาพหญิงเปลือยอกยืนให้ชายหนุ่มเข้ามาลวนลาม โดยทุกภาพมีคนมากมายยืนอยู่รอบๆ แต่ไม่มีลักษณะห้ามปรามแต่อย่างใด1

โดยมีข้อความว่า "ถ้าใครไม่ได้มาร้านนี้ ใน ค่ำคืนที่ผ่านมา ถือว่า พลาด !!! " ซึ่งมีผู้เข้ามาให้ข้อมูลว่าร้านดังกล่าวตั้งอยู่ที่อำเภอหางดง ต่อมาภาพดังกล่าวถูกลบออกไปเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันชาวเชียงใหม่ที่เห็นภาพดังกล่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม

ล่าสุด พ.ต.อ.วุฒิไกร ฦาชา ผกก.สภ.หางดงฯ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ภาพการแสดงลามกอนาจารที่ร้านดังกล่าว ตั้งอยู่ที่ถนนคันคลองชลประทาน หมู่ที่ 3 ต.หนองแก้ว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยจากการสอบถามทราบว่า นายอาร์ม อายุ 28 ปี เจ้าของร้าน ได้ว่าจ้างพริตตี้มา 3 คน ในราคา 500 บาท เพื่อเต้นโชว์แขกในร้าน เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะหญิงสาวในคลิปทราบ ชื่อเล่นว่า ตาล เมื่อถูกยุยงในขณะมึนเมา จึงเกิดความคึกคะนอง ได้ถอดเสื้อผ้า และเต้นโชว์ตามที่อยู่ในคลิป เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับนายอาร์ม ในข้อหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะเรียกบุคคลในคลิปมาดำเนินคดีในข้อหา กระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล โดยเปลือย หรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่นต่อไป

Source: ภาพร้านเหล้าจัดกิจกรรม