วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รวบทันควัน! สาวใช้ฉกแบรนด์เนมใส่อวดลงเฟซบุ๊ก

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. (23 ส.ค.) น.ส.รัชนี ตริลลิต อายุ 42 ปี เข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อกล้องวงจรปิด ให้ช่วยติดตามตัวและดําเนินคดีกับสาวใช้ในข้อหาลักทรัพย์ โดยสาวใช้คนดังกล่าวขโมยทรัพย์สินมีค่าออกไปจากคอนโดฯ ซ.สุขุมวิท 23 หลายรายการ รวมมูลค่าหลายล้านบาท


หลังรับแจ้งพนักงานสอบ สวน ได้เดินทางไปตรวจสอบที่คอนโดฯ อยู่ชั้น 8 เป็นห้องพักหรู โดยเจ้าทุกข์พาตรวจสอบจุดที่วางทรัพย์สินสูญหายไปจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตรวจดูล็อกเกอร์ที่เก็บของใช้ส่วนตัวสาวใช้ พบของกลางเสื้อผ้าแบรนด์เนมหลายรายการ นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊ก พบว่า น.ส.สุพิชชาใส่เสื้อผ้าและของแบรนด์เนมของนายจ้าง ถ่ายรูปโพสต์โชว์ในหมู่เพื่อนอีกด้วย


เมื่อเวลา 21.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.สุพิชชา พุทธรักษา หรือพร อายุ 48 ปี ภายในบ้านเลขที่ 4Versus976 ซอยหมู่บ้านสหกรณ์ 43Versus3 ถ.เสรีไทย แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. พร้อมของกลาง เสื้อผ้าแบรนด์เนมยี่ห้อต่างๆ รวม 9 ตัว แหวนทองเคฝังพลอยสีน้ำตาล จํานวน 1 วง ตั๋วจํานํา 24 ใบ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และกล่องบรรจุแหวนเปล่า จํานวน 7 กล่อง แจ้งข้อกล่าวหาลักทรัพย์นายจ้างหรือรับของโจร


ด้านน.ส.สุพิชชา ให้การรับสารภาพว่า ทํางานเป็นแม่บ้าน ของผู้เสียหายได้ประมาณ 5-6 ปี ระหว่างที่นายจ้างไม่อยู่ก็จะลักทรัพย์สินมีค่าไปทีละชิ้นเพื่อไม่ให้นาย จ้างสงสัย ส่วนทรัพย์สินประเภทแหวนก็จะนําไปจํานําและนําเงินไปใช้หนี้ด้วย ส่วนเสื้อผ้าแบรนด์เนมดังๆ ก็จะเก็บไว้ใส่เอง พอใส่แล้วก็จะอัพรูปลงเฟซบุ๊กโชว์เพื่อนในกลุ่ม จนระยะหลังนายจ้างเริ่มสงสัย จึงตัดสินใจขโมยทรัพย์สินหลบหนีกลับบ้าน ก่อนจะถูกตามจับกุมได้ดังกล่าว


ข่าว:sanook.com

วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คืบตึกปทุมฯถล่ม

kif7ekajgk5da5kkbkbk6'ผู้การปทุมฯ' เรียกประชุมสรุปความคืบหน้าคดีคอนโดฯถล่ม ขณะที่ 'ลูกป๋าลอ' ยังไม่เข้ามอบตัว




                    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ส.ค.57 พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ปทุมธานี ได้เรียกประชุมชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมดูแลคดีอาคารสูง 6 ชั้นถล่ม ถนนเลียบคลองหก ม.2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนเป็นเหตุทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย บริษัทกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.อ.ปัญญา นาควิเชียร รอง ผบก. หัวหน้าพนักงานสอบสวน พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก. หัวหน้าฝ่ายสืบสวน พ.ต.อ.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ รอง ผบก. หัวหน้าการบริหารจัดการจราจร และ พ.ต.อ.สามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย รอง ผบก. หัวหน้ารักษาบริเวณที่เกิดเหตุจุดวิบัติภัยอาคารถล่ม


                    ทางด้าน พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมพนักงานสืบสวนและสอบสวนในคดีอาคารถล่มคลองหก และมอบหมายเพิ่มเติมในส่วนที่ตกค้างอยู่ ในด้านการสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว จำนวน 40 ราย และจะต้องดำเนินการสอบปากคำเฉพาะบางคนในประเด็นเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น

                    พล.ต.ต.สมิทธิ กล่าวว่าในส่วนด้านคดีได้ดำเนินการจับกุมมาแล้ว 5 คน ซึ่งเป็นนิติบุคคลได้มามอบตัวและได้ประกันตัวออกไป ยังเหลืออีก 2 คน คือ นางสาวกัญญารัตน์ หีบทอง เป็นนิติบุคคลได้ติดต่อขอมอบตัวในภายหลัง ส่วนอีกคนคือนายชานัยชนม์ เกิดเทศ ซึ่งเป็นลูกชายนายชะลอ เกิดเทศ เป็นผู้รับเหมา ซึ่งได้ข่าวว่าจะมามอบตัว แต่ก็ไม่ได้ติดต่อมาเลย ถ้ามามอบตัวก็ดี คดีก็จะจบเร็วขึ้น



                    ส่วนสาเหตุของอาคารถล่มต้องรอกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มต่างๆ คือ สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กองพิสูจน์หลักฐานกลาง กรมโยธาและผังเมือง และคณะวิศวกรรมศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เก็บวัสดุจากจุดพิบัติภัยอาคารถล่ม จากนั้นนำมาประชุมร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปสาเหตุของอาคารถล่มที่แท้จริง ซึ่งจะต้องใช้เวลา บางอย่างใช้เวลาเป็นเดือนๆบางส่วนเสร็จภายใน 10 วัน จึงต้องรอผลเสร็จพร้อมกันก่อน

 ข่าว:komchadluek.net

Source: คืบตึกปทุมฯถล่ม

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557

จับแก๊งตร.ปลอมคารีสอร์ตหาดใหญ่

view_resizing_images.phpวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับการร้องเรียกว่า มีวัยรุ่นชอบมั่วสุมเสพยากัน ภายในห้องพักห้อง A-2 ภายในท่าท้อนรีสอร์ต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงสั่งการให้ ร.ต.ท.เอกรัฐ พิทักษ์ รอง สวป.สภ.หาดใหญ่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหาดใหญ่จำนวนหนึ่งเข้าทำการตรวจสอบและจับกุม พบชายต้องสงสัย จำนวน 3 คน พร้อมนายพิเชษฐ์ พุ่มม่วง กับเพื่อนสาวอีก 2 คน เพื่อนชายอีก 1 คน กำลังเดินและนั่งอยู่ภายในห้องของรีสอร์ต ท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ เพื่อขอเข้าตรวจค้นภายในห้องพัก

ซึ่งปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบเครื่องแบบตำรวจ ติดยศสิบตำรวจเอก จำนวน 1 ชุด , บัตรข้าราชการตำรวจปลอม จำนวน 2 ใบ , อาวุธปืน บีบีกัน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน , วิทยุสื่อสาร จำนวน 2 เครื่อง , ยาไอซ์ และรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีแดง ป้ายแดง หมายเลข ศ 9229 กทม. , รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัมเมร่า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กค 4119 สตูล จึงยึดไว้เป็นของกลาง

ขณะกำลังตรวจค้นนายพงษ์เทพ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 ชายต้องสงสัย ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามน้ำมันเถื่อนกำลังทำการจับกุมตัวนายพิเชษฐ์กับเพื่อนอีก 3 คน ในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงขอดูบัตรข้าราชการตำรวจ ปรากฏว่า นายพงศ์เทพ กล่าวว่า ไม่ได้นำบัตรมา และได้นำบัตร ส.ต.ท.ยุทธนา ลาภากรณ์ มาแสดง ซึ่งไม่ใช่บัตรทางราชการออกให้ จึงควบคุมตัวนายพีรพล อินทะนะ อายุ 36 ปี อยู่ หมู่ 4 ต.ท่าหิน อ.สทิงพระ จ.สงขลา , นายพิทยา แก้วตุด อายุ 48 ปี อยู่ถนนปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และนายพงษ์เทพ ดิเรกวัฒนสาร อายุ 42 ปี อยู่ถนนหน้าสถานี อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น , ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต คุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.หาดใหญ่ กล่าวว่า หากผู้เสียหายท่านใดสงสัยว่า เคยถูกแก๊งตำรวจปลอมแก๊งนี้ก่อเหตุมาก่อน สามารถมาดูตัวได้ที่ สภ.หาดใหญ่


ข่าว:khaosod.co.th

รับติดตั้งกล้องวงจรปิด สนใจติดต่อที่ http://okami-cctv.org

Source: จับแก๊งตร.ปลอมคารีสอร์ตหาดใหญ่

น้องโบสาวมีเซ็กซ์

view_resizing_images.php"น้องโบ" สาวมีเซ็กซ์ในโรงพยาบาล เข้ามอบตัวแล้ว - ลั่นสำนึกผิด ที่ทำไปเพราะคึกคะนอง

กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งอ้างชื่อตัวเองว่า "น้องโบ" รับติดตั้งกล้องวงจรปิด โพสต์คลิปร่วมรักกับแฟนหนุ่มในห้องน้ำของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยหญิงสาวมีสายน้ำเกลืออยู่ที่มือซ้าย ต่อมานพ.สุทธิพงษ์ ศิริมัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จ.สมุทรสงคราม ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.โยธิน เธียรสุขสันต์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น  เกิดขึ้นในห้องน้ำรวมของตึกอายุรกรรม รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จึงได้มาแจ้งความให้ทางตำรวจช่วยสืบหาตัวหญิงสาวภายในคลิปมาสอบสวนดำเนินคดี เพราะได้ทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับทางโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก

ความ คืบหน้าล่าสุดวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นพ.สุทธิพงษ์ ศิริมัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า จ.สมุทรสงคราม ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 18ส.ค. ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 18.20 น. มีผู้แจ้งเข้าในเพจ เฟซบุ๊กของโรงพยาบาล พร้อมแนบภาพของหญิงคนดังกล่าวที่โพสต์ภาพร่วมรักภายในโรงพยาบาลมาให้ทางโรง พยาบาลตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงพยาบาลหรือไม่ จึงสั่งให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ในเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “เอล ซ่า” และเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่ามีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากก่อนหน้าที่หญิงคนดังกล่าวจะโพสต์ภาพร่วมรักในโรงพยาบาลนั้นได้ โพสต์ภาพถ่ายตนเอง มารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยเช็กอินสถานที่ระบุชัดเจนว่ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศ หล้า อีกทั้งเครื่องแต่งกาย และลักษณะโดยรอบในภาพคล้ายกับโรงพยาบาล จึงเข้าอแจ้งความเพื่อเอาผิดหญิงคนดงกล่าว เนื่องจากทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

นพ.สุทธิพงษ์ ให้สัมภาษณ์ต่อว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในห้องอาบน้ำ ของห้องผู้ป่วยอายุรกรรม หญิง 1 ชั้น 5 อาคารกาญจนภิเษก ซึ่งเป็นห้องน้ำรวมชายหญิงที่ใช้ทางเดินทางเดียวกัน เนื่องจากพื้นที่จำกัด โดยก่อนหน้านี้ห้องผู้ป่วยอายุรกรรม หญิง 1 อนุญาติให้เพียงญาติผู้ป่วยที่เป็นผู้หญิงเฝ้าเท่านั้น  แต่เนื่องจากมีผู้ป่วยได้ทำเรื่องร้องเรียนว่ามีแต่ญาติที่เป็นผู้ชาย ถ้าไม่ให้ผู้ชายเฝ้าที่ห้องดังกล่าว ก็จะไม่มีใครมาดูแล โรงพยาบาลจึงอนุโลมให้ผู้ชายสามารถเฝ้าไข้ผู้ป่วยในห้องดังกล่าวได้ โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

“หลังจากนี้จะหาทางไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะขึ้นอีก โดยเบื้องต้นจะมีการหารือเพื่อออกมาตรการการใช้ห้องน้ำ โดยไม่อนุญาตให้ผู้ชายใช้ห้องน้ำในห้องผู้ป่วยอายุรกรรม หญิง 1 หากต้องการเข้าห้องน้ำต้องลงไปใช้ที่ชั้นล่างเท่านั้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้พยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยต้องรับภาระที่หนักขึ้นกว่าเดิม ”ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า กล่าว

ด้านนายทวิบูล หฤทัยสถิตกุล นิติกรโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า พาผู้สื่อข่าวลงตรวจสอบห้องน้ำที่เกิดเหตุพบว่าภายในเป็นห้องที่มีห้องน้ำอยู่ 2 แถว แถวละ 3 ห้อง โดยพบว่าห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องอาบน้ำที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ห้องที่ 2 โดยห้องดังกล่าวมีลักษณะที่แตกต่างจากห้องอาบน้ำอื่น เนื่องจากเป็นห้องเดียวที่มีแนวท่อพีวีซีปรากฏอยู่ นอกจากนี้พื้นกระเบื้องในห้องดังกล่าวก็ตรงตามกับคลิปวิดีโอดังกล่าวด้วย ส่วนจุดที่ตั้งกล้องเพื่อถ่ายคลิปนั้น คาดว่าน่าจะวางไว้บนปุ่มฉุกเฉินสำหรับให้ผู้ป่วยกดเรียกพยาบาลหากประสบอุบัติเหตุภายในห้องน้ำ

โดยนายทวิบูล กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากโรงพยาบาลเป็นสถานที่ราชการ ที่มีกฎระเบียบข้อบังคับการใช้สถานที่ราชการโดยทั่วไปอยู่แล้ว จึงกล่าวโทษให้เอาผิดหญิงคนดังกล่าวในความผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) เนื่องจากมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าวในอินเตอร์เน็ต

ขณะที่พยาบาลที่ปฏิบัติหน้าที่ในห้องผู้ป่วยอายุรกรรม หญิง 1 ให้สัมภาษณ์ว่า หญิงคนดังกล่าวเข้ามารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.จนถึงวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง โดยแพทย์ระบุว่าป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเมื่อตอนที่เข้ามารักษาตัวนั้น มีแฟนของหญิงคนดังกล่าวมาเฝ้าอย่างใกล้ชิด และพาเข้าห้องน้ำเป็นปกติเหมือนผู้ป่วยคนอื่นๆ ซึ่งก็ไม่มีใครสนใจ แต่พอมาทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ทำให้รู้สึกไม่ดี เพราะเป็นการกระทำที่ไม่สมควร อีกทั้งยังอยู่ในอาการเจ็บป่วย ไม่น่าจะทำเรื่องดังกล่าวขึ้นเลย ทั้งนี้หากมีการเคร่งครัดในเรื่องเข้าห้องน้ำของผู้ชาย ก็จะทำให้พยาบาลได้รับความลำบากมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงกลางคืนที่มีพยาบาลเข้าเวรเพียง 3 คน แต่มีผู้ป่วยถึง 35 คน


 ต่อ มาเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน หญิงสาวที่อ้างชื่อน้องโบ เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.โยธิน เธียรสุขสันต์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สภ.เมือง จ.สมุทรสงคราม รับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และหลังจากสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พนักงานสอบสวนปล่อยตัวไป

พ.ต.อ. โยธินกล่าวว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้น น้องโบระบุว่าสาเหตุที่เข้ามอบตัวเนื่องจากเห็นการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทำให้รู้สึกไม่สบายใจและกังวลใจ อีกทั้งรู้สึกสำนึกผิดกับการกระทำที่เกิดขึ้น พร้อมรับปากว่าจะไม่ทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก ที่ทำไปนั้นเพราะความสนุกและคึกคะนอง ขอโทษต่อร.พ.ที่ได้ทำในสิ่งไม่ถูกต้อง และขอโทษต่อสังคมที่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม


ผู้สื่อข่าวรายางานว่าในเครือข่ายสังคมออนไลน์ ได้มีการนำภาพของหญิงคนดังกล่าวออกมาเผยแพร่ โดยเป็นภาพที่หญิงคนดังกล่าว อยู่ในลักษณะเปลือยกาย และนำลิ้นจี่มาปิดไว้บริเวณอวัยวะเพศ

ด้านความคืบหน้าของสภ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ขณะนี้ได้ส่งหมายเรียกถึงหญิงคนดังกล่าวเพื่อมาให้ปากคำในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว รวมทั้งส่งข้อมูลไอพี แอดเดรส เฟซบุ๊ก ของหญิงคนดังกล่าวให้กระทรวงไอซีที ตรวจสอบหาที่อยู่แล้ว โดยในเบื้องต้นหญิงคนดังกล่าวยังไม่ได้ติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ข่าว:khaosod.co.th

Source: น้องโบสาวมีเซ็กซ์

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

คสช. ไฟเขียว 1.6 แสนล. รื้อระบบไฟฟ้า ทดแทน 'แม่เมาะ'

EyWwB5WU57MYnKOuFBncl0lLRfiFV5hNcjoI5x7kf7dz1OlepBdhBLคสช. เห็นชอบปรับปรุงระบบไฟฟ้าทั้งระบบ วงเงิน 1.6 แสนล้านบาท ด้าน หน.คสช.ห่วงราคาสินค้าเกษตร ชมนักกีฬาวอลเลย์หญิง สร้างความสุข พร้อมปรับแก้อัตราภาษีในส่วนของอีโคคาร์

วันที่ 19 ส.ค. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล้องcctv แถลงผลการประชุม คสช.เพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน ครั้งที่ 11/2557 ว่า ในระหว่างการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้แสดงความเป็นห่วงในเรื่องของราคาสินค้าเกษตร

โดยได้ขอความร่วมมือจากพ่อค้าคนกลาง ให้เห็นใจเกษตรกร และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดหาแนวทางในการขายสินค้าของเกษตรกรโดย ตรง ไม่ต้องรอมาตรการของภาครัฐแต่เพียงอย่างเดียว ในส่วนการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ให้ทุกภาคส่วนหาแนวทางเพื่อให้การแก้ดำเนินการได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ รวมทั้งยังแสดงความเป็นห่วงเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ซึ่งราคาตกต่ำลง โดยกำชับให้ช่วยเหลือเรื่องการเสริมสินเชื่อแปรรูปและผลิต เพื่อบรรเทาปัญหาของเกษตรกร

นอกจากนี้ นพ.ยงยุทธ ยังได้กล่าวถึงการพิจารณาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ด้านพลังงานด้วยว่า ที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณเพื่อจัดสร้างโรงไฟฟ้าทดแทนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 4-7 ซึ่งจะปลดการทำงานในวันที่ 31 ธ.ค.60 โดยเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน วงเงิน 36,811 ล้านบาท เบิกจ่ายงบลงทุน ประจำปีงบประมาณ 2557 วงเงิน 4,059 ล้านบาท ใช้เงินตราต่างประเทศ 26,247 ล้านบาท และเงินบาทไทย 10,564 ล้านบาท แผนการดำเนินการก่อสร้าง 48 เดือน ซึ่งทางหัวหน้า คสช.ให้ไปศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้รอบด้านก่อนที่จะเริ่มแผนงาน นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ขยายระบบส่งไฟฟ้าระยะที่ 12 วงเงิน 60,000 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ 14,500 ล้านบาท และเป็นค่าใช้จ่ายซื้ออุปกรณ์ในประเทศและก่อสร้าง 45,000 ล้านบาท ดำเนินการภายในระยะเวลา 7 ปี 3 เดือน (ม.ค.56 - มี.ค.63) ซึ่งจะเป็นการสร้างสายส่งและสถานีไฟฟ้าเพิ่ม รวมไปถึงอนุมัติงบประมาณ 63,200 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบไฟฟ้าภาคตะวันตกและภาคใต้ และเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกู้เงินสำหรับงานใน 17 โครงการ งบประมาณปี 2557 วงเงิน 8,839 ล้านบาทด้วย

"หัวหน้า คสช.ได้มอบนโยบายเรื่องการไฟฟ้าว่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และแก้ไขปัญหาไฟฟ้าตก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดปัญหาขึ้นบ่อยครั้งและสร้างความเดือดร้อนให้ แก่พี่น้องประชาชน" นพ.ยงยุทธ กล่าว

นพ.ยงยุทธ กล่าวอีกว่า คสช.ยังอนุมัติแผนแก้ปัญหาขยะมูลฝอยทั่วประเทศ โดยจะเริ่มนำร่องที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้เทคโนโลยีแปลงขยะมูลฝอยเป็นเชื้อเพลิงก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่น พร้อมทั้งเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แก้ไขกฎหมายป้องกัน และปราบปรามการค้างาช้าง ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่า หรือพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ หรือไซเตส ให้แล้วเสร็จในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ก่อนจะรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมไซเตสรับทราบในปีหน้า

พ.อ.วินธัย กล่าวต่อว่า หัวหน้า คสช.ยังได้กำชับให้มีการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมใน กระบวนการสรรหาสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยไม่ต้องแบ่งแยก ผู้ที่จะเข้ามาเป็นสมาชิก สปช.ต้องมีคุณสมบัติที่ตรงกับแต่ละด้านที่กำหนดไว้ เพื่อให้มีผลกับการปฏิรูปประเทศ และสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ขอให้ส่วนงานฝ่ายสังคม ได้มีการเตรียมความพร้อมในแง่ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับฝ่ายสังคม เช่น เรื่องของกฎหมาย และโครงสร้าง เพื่อเสนอต่อสภาปฏิรูปทันทีที่มีการดำเนินการคัดเลือก สปช.เสร็จสิ้นในเดือน ก.ย.นี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้กำชับถึงความโปร่งใสในการสรรหา สปช. หากพบว่าจังหวัดใดล็อกตัวบุคคล ขอให้แจ้ง คสช.

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมศึกษารายละเอียดโครงการพัฒนาโครงข่ายขนส่ง คมนาคมทางรถไฟ ที่เชื่อว่าจะสามารถส่งเสริมการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศได้ ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม จัดทำภาพยนตร์เพื่อประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ทั้งยังได้แสดงความชื่นชม และให้กำลังใจนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่ทำให้คนไทยมีความสุข

นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช.แถลงผลการประชุม คสช.ในส่วนของมาตรการส่งเสริมการผลิตรถอีโคคาร์ในไทยว่า ที่ประชุมเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลัง ถึงการลดอัตราภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ 81 และ 109 เพื่อส่งเสริมการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ในระยะที่ 2 ซึ่งในประกาศฉบับที่ 81 จะแก้ไขมาตรฐานมลพิษจากยูโร 4 เป็นยูโร 5 อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เดิมอยู่ที่ 120 กรัม ต่อกิโลเมตร เป็น 100 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราใช้พลังงานเชื้อเพลิง 5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร เป็น 4.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และกำหนดขนาดเครื่องเบนซิน เป็น 1300 ซีซี ดีเซล เป็น 1500 ซีซี และ E85 และ B10 ขณะที่ยังคงอัตราภาษีเดิม คือ ร้อยละ 17 สำหรับประกาศฉบับที่ 109 มีเนื้อหาปรับแก้อัตราภาษีในส่วนของอีโคคาร์ เครื่องยนต์ดีเซล จาก 1400 ซีซี เป็น 1500 ซีซี ที่ร้อยละ 14 และ E85 และ B10 อยู่ที่ร้อยละ 12

ข่าว:thairath.co.th

Source: คสช. ไฟเขียว 1.6 แสนล. รื้อระบบไฟฟ้า ทดแทน 'แม่เมาะ'

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ญี่ปุ่นด่าแรงคนไทยเมาขับชน

557000009742501คนญี่ปุ่นวิจารณ์แรงพฤติกรรมคนไทย หลังเหตุคนไทยเมาแล้วขับชนนักเรียนญี่ปุ่นเสียชีวิต หวั่นส่งผลเลิกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวไทยเข้าแดนปลาดิบ

จากเหตุการณ์ 3 คนไทยเมาแล้วขับและไม่มีใบขับขี่สากล จนชนนักเรียนหญิง ม.ปลาย ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิต ที่จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมของคนไทย ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ในญี่ปุ่นอย่างกว้างขวาง และมีผู้แสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก เสนอแนะในทำนองว่า “รัฐบาลญี่ปุ่นควรยกเลิกการให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่นโดยไม่ ต้องขอวีซ่าได้แล้ว”

ขณะที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์ของไทยบางแห่งอ้างว่า การแสดงความคิดเห็นในข่าวของคนญี่ปุ่นถึงกรณีนี้เป็นไปอย่างรุนแรง โดยระบุว่า บ้านเมืองเขาถือมากแค่ไหนเรื่องแบบนี้ มาทำให้ครอบครัวคนอื่นต้องสูญเสีย เดือดร้อน ขณะที่ความเห็นหนึ่ง แปลเป็นไทยว่า “มึงกลับไปขับแบบนี้ที่บ้านมึงไป” ซึ่งกรณีนี้อาจส่งผลต่อมาตรการที่รัฐบาลญี่ปุ่นยกเลิกการตรวจลงตราหนังสือ เดินทาง (วีซ่า) ให้แก่นักท่องเที่ยวไทยในการเดินทางเข้าญี่ปุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้

“ASTVผู้จัดการออนไลน์” ตรวจสอบย้อนหลังพบว่ารัฐบาลญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้คนไทย เมื่อกลางปี 2556 ตรงกับช่วงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 โดยเป็นการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ การพำนักระยะสั้นในประเทศญี่ปุ่น สามารถพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ 15 วัน (หากผู้ยื่นประสงค์จะพำนักในประเทศญี่ปุ่นเกิน 15 วัน หรือไปทำงาน หรือมีวัตถุประสงค์อื่นๆ จะต้องยื่นขอวีซ่าตามปกติ)

การยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศไทย ผู้ที่จะเข้าประเทศได้จะต้องผ่านการพิจารณาจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ก่อนจึงจะสามารถเข้าประเทศได้ (เช่นเดียวกับผู้ที่ยื่นขอวีซ่ากับทางสถานเอกอัครราชทูต) ทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะสอบถามถึงวัตถุประสงค์ในการเข้าประเทศ หรือขอตรวจเอกสารที่จำเป็น เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับ หรืออื่นๆ กรณีผู้ที่เคยมีประวัติการถูกส่งตัวกลับจากประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่อยู่ในระยะเวลาของการถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่เคยละเมิดกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศอื่น และถูกศาลตัดสินลงโทษให้จำคุกมากกว่า 1 ปี จะไม่สามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ในกรณีที่มีเหตุสำคัญเกี่ยวกับทางด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นต้องเข้าประเทศ ญี่ปุ่นนั้น สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาได้

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประกาศใช้มาตรการนี้ 3 เดือน ก็เริ่มมีปัญหาว่า การยกเว้นวีซ่านี้เป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ตั้งใจจะไปขุดทอง หรือลักลอบแอบแฝงเข้ามาทำงานและค้าประเวณี โดย นายธนาธิป อุปัติศฤงศ์ เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น ยอมรับว่า มีคนใช้ช่องทางการยกเว้นวีซ่าในทางที่ผิดเข้าประเทศญี่ปุ่น เพื่อทำงานแทนการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีกระบวนการหลอกลวงจากประเทศไทยเองว่าจะพาเข้ามาทำงาน ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและอาจทำให้ญี่ปุ่นทบทวนมาตรการยกเว้นวีซ่าก็ เป็นได้ (อ่านรายละเอียดข่าว ฟรีวีซ่าญี่ปุ่นสะเทือน!!! หลังโรบินฮู้ดไทยแห่ขุดทอง)

นอกจากนี้ เมื่อต้นปี 2557 ก็มีข่าวลือว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะยกเลิกมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น ให้กับคนไทย ทำให้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นต้องออกมาแถลงยืนยันว่าไม่เคยมีการประกาศยกเลิก มาตรการเหล่านี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นข่าวลือเมื่อต้นปี แต่ตอนนี้กำลังจะมีปัญหาใหม่ เมื่อคนญี่ปุ่นกำลังโยงเรื่องกรณีคนไทยขับรถชนคนญี่ปุ่นตายมาเรียกร้องให้ยก เลิกการยกเว้นขอวีซ่าท่องเที่ยวสำหรับคนไทยอย่างถาวร

ข่าว:manager.co.th

ต่อบริษัทกล้องวงจรปิด http://okami-cctv.org

Source: ญี่ปุ่นด่าแรงคนไทยเมาขับชน

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เครียดอ้วน โดดคลองดับ

EyWwB5WU57MYnKOuFBoiDSleKQkP3jfeTAlekbq0db3EwNArOnYPq1แม่ลูกสองวัย48-ปลงไม่ตก



สุดเศร้าแม่กังวลใจเรื่องความอ้วนจนเครียดจัด กระโดดน้ำลงคลองทวีวัฒนาฆ่าตัวตาย นักประดานํ้าค้นหานานกว่า 4 ชม. พบร่างห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กม. ลูกสาวสองพี่น้องโผเข้ากอดศพร้องไห้กันระงมน่าเวทนา เผยแม่เป็นคนรักสวยรักงามแต่ก่อนมีรูปร่างดี แต่ระยะหลังน้ำหนักขึ้นถึง 10 กก. จนรับสภาพตัวเองไม่ไหว พยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายหน

สลดแม่เครียดเรื่องความอ้วนกระโดดน้ำฆ่าตัวตายเกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ร.ต.อ. กิตติพงษ์ บุญเศรษฐ์ พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ได้รับแจ้งมีหญิงกระโดดน้ำเสียชีวิต บริเวณใต้สะพานข้ามคลองทวีวัฒนา ถนนเพชรเกษม ฝั่งขาเข้า แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงรีบรุดไปสอบสวน พร้อมด้วยนักประดาน้ำเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบ น.ส.สุภัสสร จารุศรีวรกุล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 296 ถนนเพชรเกษม ซอย 102/3 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. พร้อมกับน้องสาววัย 15 ปี ยืนร้องไห้อยู่ริมคลองแจ้งว่านาง กฤติยา แซ่โกว อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย หลังพบรองเท้าแตะยี่ห้อแอ๊ดด้า สีดำส้ม ของแม่ถอดวางไว้ริมตลิ่ง น.ส.สุภัสสรให้การว่า ตนทำงานเป็นพนักงานชงกาแฟ ร้านแมคโดนัลด์ สาขาวิคตอเรียสแควร์ ตรงข้ามหมู่บ้านเศรษฐกิจ เข้าเวรตั้งแต่ 22.00 น. และออกเวรตอน 07.00 น. ก่อนเกิดเหตุน้องสาวโทรศัพท์บอกว่าแม่หายออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้ามืด คิดว่าแม่มาที่สะพานแน่นอน เนื่องจากวันเสาร์ที่ 9 ส.ค. แม่เคยจะฆ่าตัวตายหย่อนตัวลงน้ำแล้วมีคนเห็นจึงช่วยไว้ เช้าวันรุ่งขึ้นก็ก่อเหตุอีก ตนกับน้องสาวตามมาห้ามเอาไว้ทัน

น.ส.สุภัสสรให้การต่อว่า สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดที่แม่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจาก 40 กว่า กก. เป็น 50 กว่า กก. แม่เป็นคนหน้าตาดีรักสวยรักงาม แต่ก่อนมีรูปร่างผอมบาง ระยะหลังน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก แม่บ่นเสมอว่ารับสภาพตัวเองไม่ได้ เสื้อผ้าเก่าใส่ก็ไม่ได้ ซื้อเสื้อผ้าใหม่ลองใส่แล้ว ส่องกระจกดูก็ไม่ถูกใจร้องไห้ให้เห็นหลายครั้ง ซื้อยาลดความอ้วนกินน้ำหนักก็ไม่ลด เพราะแม่ไม่ชอบ ออกกำลังกาย สุดท้ายมักเก็บตัวอยู่กับบ้าน ทางบ้าน ตนไม่มีปัญหาเรื่องเงิน แฟนตนเป็นหมอส่งเงินเลี้ยงดูที่บ้านเดือนละ 2 หมื่นบาท ตนรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้กราบเท้าแม่ในวันแม่ปีนี้

หลังจากนักประดาน้ำ 8 นาย นำกำลังค้นหานานกว่า 4 ชม. จึงพบศพนางกฤติยาอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 1 กม. สภาพทำคิ้วและแต่งหน้า สวมเสื้อลายเสือดาว กางเกงขายาวสีดำ น.ส.สุภัสสรและน้องสาวต่างร้องไห้โผกอดร่างของแม่อย่างน่าเวทนา เจ้าหน้าที่นำศพส่งนิติเวช รพ.ศิริราช ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง

ข่าว:thairath.co.th

บริการติดตั้งกล้องวงจรปิดต้องโอกามิสนใจกดเลย http://www.okami-cctv.org


Source: เครียดอ้วน โดดคลองดับ

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

'สุรพงษ์' ยันอดีตนายกฯ ปู ไม่เลื่อน กลับไทย 11 ส.ค.นี้แน่

EyWwB5WU57MYnKOuFBohKY54Iy5Cj8BVDgERPBJu8YWidiSaSrUK0i'สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล' อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล้องวงจรปิด ยืนยัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับไทย 11 ส.ค.นี้ แน่นอน โต้กระแสข่าวลือ ไม่กลับไม่เป็นความจริง...



วันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ข่าวการเลื่อนกำหนดกลับประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า อาจจะขอเลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทยออกไปเป็นช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับเมืองไทยตามกำหนดแน่นอน ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าจะเลื่อนกำหนดการนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้อยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย จึงคาดว่าน่าจะกลับประเทศไทยช่วงเช้าวันที่ 11สิงหาคม ตามกำหนดเดิม

ขณะที่ นายพิชิต ชื่นบาน ทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวดังกล่าว และถือเป็นเรื่องส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี.

ข่าว:sanook.com


Source: 'สุรพงษ์' ยันอดีตนายกฯ ปู ไม่เลื่อน กลับไทย 11 ส.ค.นี้แน่

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ถูกวางยาแต่มาแปลก

786924วันที่ 6 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) โดยระบุว่าโดนวางยาในน้ำมังคุด และฉันเข้าไปทำให้แสบท้องมากต้องกินน้ำตามเพื่อให้ขับถ่าย ใจความดังนี้ สิบนิ้วยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ฉันไม่สบายตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันว่าฉันก็พยายามระมัดระวังแล้วนะ ยังเสียท่าให้คนวางยาเอาจนได้ มาในรูปผสมกับน้ำมังคุด พอฉันเข้าไปเท่านั้นแหละคุณเอ๋ยยังกับโซดาไฟ มันร้อนตั้งแต่ลำคอจนถึงลำไส้ แต่ก็ยังทนนำปฏิบัติธรรมสวดมนต์จนเสร็จเพราะกลัวจะเสียฟอร์ม คืนนั้นทั้งคืนต้องหาวิธีขับถ่าย ดื่มน้ำหมดไป 2 โหล กล้องวงจรปิด พยายามทำให้ขี้ให้เยี่ยว ทั้งคืนแทบจะไม่ได้หลับ มันทรมานแสบร้อนกระเพาะลำไส้มากเท่ามาก ยังกับมีถ่านไฟแดง ๆลุกโชนอยู่ในท้อง ฉะนั้นต้องใช้วิชาทั้งหมดเท่าที่มีเอามาเป็นที่พึ่ง เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทรมาน เช้าขึ้นยังตะกายไปบิณฑบาต จัดรายการ แต่สิ่งที่ตามมาทีนี้ไข้จับ ฉันอะไรนิดอะไรหน่อยก็ท้องอืดแน่น ต้องอาศัยสมุนไพรเคลือบกระเพาะที่ตนทำ เพื่อบรรเทาความแสบร้อน ตามด้วยยาเคลือบกระเพาะน้ำขาว ต้องฉันทุก 2 ชั่วโมง

วันที่สอง ของการโดนวางยา แม้มีชีวิตรอด แต่แทบหมดแรงหมดสภาพ รักษาฟอร์มเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามสังขาร ไม่สามารถเดินบิณฑบาตได้ ทั้งไข้ ทั้งแสบกระเพาะลำไส้ ฉันอะไรนิดหน่อยก็อืด คงต้องใช้เวลาอีกหลายวัน กว่ากระเพาะลำไส้จะกลับคืนเข้าที่เข้าทาง ที่จริงมันก็น่าให้เขาวางยาหรอกนะ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาใครๆก็อยากให้ฉันตาย โดยเฉพาะพวกทุรชนคนพาล เพราะฉันประกาศชัดเจนว่า จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม และเผอิญไอ้คนไม่ถูกต้องไม่เที่ยงธรรมมันดันมีเต็มบ้านเต็มเมือง คนชั่วคนพาลพวกนี้จึงได้เดือดเนื้อร้อนใจ ต้องการจะกำจัดผู้ขัดขวางผลประโยชน์ให้หมดไป ซึ่งก็ต้องโทษตัวฉันเอง ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความชั่วร้ายใดๆ ชีวิตจึงตกอยู่ในการปองร้ายของคนพาลดังกล่าว ไม่ต้องห่วง ไม่มีครั้งที่สองแน่ ฉันจะไม่ยอมตายง่าย จนกว่าคนไทยทุกคนมีความสุข ประเทศชาติชนะ พระเจ้าอยู่หัวมีความสุข และมหาปณิธานของพระโพธิญาณจะบรรลุดังวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้

วันนี้ มีแขกมาเยี่ยมตอน 10 โมงเศษๆ นั่นคือคุณ สาทิต ปิตุเตชะ และคณะ คุยกันพอให้ระลึกถึง ก่อนจะกลับเลยฝากเตือนพรรคประชาธิปัตย์ไปว่า อย่าออกมาวิพากษ์ คสช.เขามากนัก ดูเขาไปก่อน แค่เขาเริ่มทำหรือพูดว่าจะทำก็พากันออกมาติติง ตำหนิ เช่นนี้ถือว่าไม่ควร สิ่งที่ควรคือต้องให้กำลังใจ ดูเขาทำ แต่ถ้าเห็นว่าอะไรไม่ถูกไม่ควร นั่นค่อยออกมาท้วงติง และก็ถือโอกาสพูดเตือนสติพรรคประชาธิปัตย์ไปว่า ความแตกต่างของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ อยู่ที่เวลาใครช่วยพรรคเพื่อไทย นายทักษิณเขาจะไม่ทอดทิ้ง จะเทคแคร์ดูแลอย่างดี ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้นพอสมประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่ง และเลิกเล่นการเมืองแบบดีแต่พูด พูดเก่งพูดดีอย่างเดียว เวลาทำกลับล้มเหลว กล้องcctv ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริงอย่างที่อาสาเข้ามา อย่างนี้เลือกตั้งเมื่อไรก็แพ้อยู่วันยังค่ำ ให้แก้ไขเสีย เมื่อกล้าที่จะพูด ก็ต้องกล้าที่จะทำด้วย อย่าเอาแต่สร้างภาพ

ข่าว:dailynews.co.th

Source: ถูกวางยาแต่มาแปลก

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

แฮกเครื่องบินผ่าน Wi-Fi บนเครื่อง

thumb640x360_8313506902อะไรที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวประมวลผลหรือควบคุมการทำงานก็มีโอกาสที่จะถูกแฮกได้

หนึ่ง กล้องวงจรปิด ในยานพาหนะที่คนไม่อยากให้โดนแฮกก็คือเครื่องบิน แต่ล่าสุดที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ชื่อว่า Ruben Santamarta สามารถค้นพบวิธีแฮกเครื่องบินผ่านบริการ Wi-Fi และระบบให้ความบันเทิงบนเครื่อง

วิธี การของ Santamarta จะช่วยให้แฮกเกอร์แทรกซึมเข้าสู่ระบบอิเลคทรอนิกส์สำหรับควบคุมอากาศยานและ การสื่อสาร (avionics systems) นั่นหมายความว่าพวกเหล่าร้ายมีโอกาสที่จะรบกวนระบบนำทาง, การสื่อสาร และระบบรักษาความปลอดภัย

Santamarta ได้ทำการทดสอบแนวคิดและวิธีการของเขาในสภาพแวดล้อมปิดในโรงงานแห่งนึงของ IOActive ที่เมืองมาดริด โดยใช้เครื่องบิน Aviation 700 ที่มีระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่พัฒนาโดยบริษัท Cobham ซึ่งเค้าก็ประสบความสำเร็จในการแฮกเข้าสู่ระบบของเครื่องบิน แต่ทาง Cobham ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าวิธีนี้จะใช้กับสถานการณ์จริงได้ผลรึเปล่าเพราะระบบ ของเครื่องที่ขายจริงจะอนุญาตให้เฉพาะคนที่ได้รับอนุญาต มีสิทธิ์เข้าถึงได้เท่านั้น

ถ้า ใครสนใจอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม Santamarta ก็จะนำข้อมูลมาเผยแพร่ในงาน BlackHat 2014 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ค่ะ การเผยแพร่นี้ก็เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ไขและวิธีป้องกัน ก่อนที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดค่ะ

ที่มา dailygizmo.tv



Source: แฮกเครื่องบินผ่าน Wi-Fi บนเครื่อง

'ปนัดดา'เผยตรวจข้าวแล้ว90%คาดเสร็จก.ย.

556626-01"ม.ล.ปนัดดา" เผย คณะทำงาน 100 ชุด ตรวจข้าวไปแล้ว 90% คาด แล้วเสร็จ ก.ย. ยัน ทำงานโปร่งใส


ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เช่าชุดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ เปิดเผยถึงกรณีการตรวจโกดังข้าวในพื้นที่ต่างๆ ว่า ขณะนี้ คณะทำงานที่ตั้งขึ้นทั้ง 100 ชุด ได้ลงพื้นที่ตรวจโกดังและไซโล ในจังหวัดต่างๆ ไปแล้วประมาณร้อยละ 90 จากการตรวจสอบทั่วประเทศกว่า 1,700 โกดัง และไซโลอีกกว่า 100 แห่ง ซึ่งในด้านปริมาณได้มีการตรวจนับและบันทึกข้อมูล แต่ในส่วนคุณภาพข้าวจะต้องส่งตัวอย่างข้าวในแต่ละโกดังไปตรวจในห้องปฏิบัติ การ จึงยังไม่สามารถสรุปผลได้ในขณะนี้ แต่คาดว่าผลการตรวจจะเสร็จในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้

ส่วนที่มีข้อ กังวลการตรวจสอบจะไม่ครอบคลุมนั้น ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ในการตรวจสอบโกดังแต่ละแห่ง ต้องใช้เวลา 1-2 วัน รวมทั้งมีการเก็บตัวอย่างข้าวในทุกโกดังเข้าตรวจ จึงยืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบคณะทำงานได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส หากผลการตรวจสอบออกมาเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า มาตรฐานการจัดเก็บข้าวของโกดังต่างๆ ดีขึ้น

ข่าว:innnews.co.th


 

Source: 'ปนัดดา'เผยตรวจข้าวแล้ว90%คาดเสร็จก.ย.

'อุ้ม ลักขณา' ร้องกองปราบ ถูกกล่าวหาขายตัว

556609-01นักแสดงสาวทรงโต "อุ้ม ลักขณา" ร้องกองปราบ ถูกกล่าวหาขายตัวยัน กล้องวงจรปิด ไม่เป็นความเป็นจริง รู้ตัวคนติดต่อซื้อแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผย


น.ส.ลักขณา วัธนวงส์ศิริ หรือ อุ้ม ดารานักแสดง เดินทางเข้าร้องทุกต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราบ หลังถูกกล่าวหาว่าตนขายตัว รวมทั้งมีเอเย่นต์อ้างว่าสามารถติดต่อซื้อบริการจากดาราสาวได้ และเมื่อวานที่ผ่านมามีบุคคลติดต่อผ่านไลน์ส่วนตัว เพื่อขอซื้อบริการในราคา 150,000-200,000 บาท ซึ่งทางดารารสาวยื่นยันว่าไม่เคยทำงานในลักษณะดังกล่าว พร้อมยอมรับว่าขณะนี้สามารถทราบถึงตัวคนติดต่อขอซื้อแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล

ด้าน นายอภิชาติ จึงวิวัฒนวงศ์ อายุ 49 ปี บิดา กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมท้าหากมีหลักฐานว่า ดาราสาวขายตัวและค้าประเวณีจริงให้เอาออกมาโชว์ ทางครอบครัวพร้อมจะออกวงการ

ขณะที่ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผกก.กองปราบปราม ได้รับเรื่องไว้พร้อมกล่าวว่า ตามหลักฐานนั้นไม่น่ายากในการติดตามจับกุมตัว แต่จะต้องดูรายละเอียดของหลักฐานอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าว:innnews.co.th

Source: 'อุ้ม ลักขณา' ร้องกองปราบ ถูกกล่าวหาขายตัว

ประเภทของเลนส์กล้องวงจรปิด

ประเภทของเลนส์กล้องวงจรปิด


เลนส์ของกล้องวงจรปิดมีความสำคัญมากในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด เพราะเลนส์ของกล้องวงจรปิดนั้น มีหลายขนาดให้เลือก และภาพที่ออกมาในแต่ละเลนส์จะไม่เหมือนกัน ถ้าเลือกเลนส์ที่มีมิลลิเมตร(millimeter.)น้อยจะเน้นมุมภาพกว้างมากกว่าภาพลึก แต่ถ้าเลือกเลนส์ที่มีมิลลิเมตร(millimeter.)มากความกว้างของมุมภาพก็จะแคบแต่ความลึกของภาพจะชัดมากกว่า ซึ่งในปัจจุบันเลนส์ของกล้องวงจรปิดที่ใช้กันทั่วไป คือ 3.5 millimeter , 4 millimeter , 6 millimeter , 8 millimeter , 12 millimeter และ 16 millimeter ซึ่งกล้องวงจรปิดแต่ละรุ่นสามารถปรับเปลี่ยนเลนส์ตามความเหมาะสมได้ ดังนั้น เลนส์ของกล้องวงจรปิดสามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือ


1. เลนส์แบบ Chemical-Mount จะมีความยาวจากช่วงท้ายเลนส์ถึงหน้าตัวรับภาพอยู่ที่ 17.5 millimeter. ในเรื่องของข้อต่อเลนส์กับกล้องนั้น เลนส์แบบ Chemical-Mount ควรจะใช้ข้อต่อแบบ Chemical-Mount แบบเดียวกันจะเหมาะที่สุด


2. เลนส์แบบ CS-Mount จะมีความยาวจากช่วงท้ายเลนส์ถึงหน้าตัวรับภาพอยู่ที่ 12.5 millimeter. ถ้าเอาข้อต่อแบบ Chemical-Mount มาใช้ในการต่อแบบ CS-Mount อาจจะทำให้ภาพเกิดความเสียหายได้ เพราะความยาวของเลนส์กล้องแบบ Chemical-Mount จะมีความยาวมากกว่าแบบ CS-Mount ดังนั้น ควรจะใช้ข้อต่อแบบ CS-Mount แบบเดียวกันมากกว่า


นอกจากนั้นในเรื่องของการรับรู้แสง (Aperture) และเปิด-ปิดม่านรับแสง (Eye)  ของเลนส์ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้


1. เลนส์แบบเปิด-ปิด ด้วยมือ (Guidebook Eye) คือ การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของแสง เพื่อให้รูของการรับแสงเปลี่ยนไป ด้วยการใช้มือหมุนในส่วนของวงแหวนปรับม่านแสงที่ตัวเลนส์ ยิ่งปรับที่ตัวเลขน้อยรูม่านแสงก็จะเพื่มขึ้น ในทางกลับกันถ้าปรับไปที่ตัวเลขมากรูม่านแสงก็จะน้อยลง


2. เลนส์แบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ (Auto-Eye) คือ การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของแสงแบบอัตโนมัติร่วมกับการทำงานของกล้องวงจรปิด โดยในกล้องวงจรปิดจะมีตัวจ่ายไฟฟ้าให้เลนส์ทำงานแบบอัตโนมัติอยู่

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

โมบาย-แอพ-ดาต้า สูตรสำเร็จธุรกิจยุคใหม่

news_img_586375_1ผู้บริหารด้านไอทีและผู้บริหารขององค์กรต้องกำหนดว่าใครจะทำหน้าที่อะไรในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อพัฒนาไปสู่องค์กรดิจิทัล


อคเซนเชอร์ เผยความนิยมอุปกรณ์โมบาย กล้องวงจรปิดดันให้แอพพลิเคชั่นเกิด เพิ่ม ส่งผล "ข้อมูล" ด้านต่างๆ มีปริมาณมากขึ้น ท้าทายองค์กรธุรกิจดึงประโยชน์จากข้อมูล ประยุกต์ใช้เพิ่มขีดแข่งขันให้องค์กร พร้อมชี้เทรนด์สำคัญ ดันองค์กรขนาดใหญ่เปลี่ยนบทบาทสู่ผู้นำเทคโนโลยี เสริมศักยภาพธุรกิจยุคใหม่

นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ความแพร่หลายของการใช้อุปกรณ์โมบาย ไม่เฉพาะแค่สมาร์ทโฟน หรือแทบเล็ต แต่ปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่ ทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องหันมาใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ครีเอทกลยุทธ์ใหม่ๆ

ทั้งนี้ เอคเซนเจอร์เผยเทรนด์เทคโนโลยีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความนิยมของโมบาย แอพพลิเคชั่น และข้อมูลที่มหาศาล ผ่านงานวิจัย "วิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยี 2557" ที่ส่งผลให้กิจการขนาดใหญ่ขยายพรมแดนความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมให้กว้างไกล กว่าเดิม และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสร้างความสามารถในการแข่งขัน

งานวิจัยนี้ พบว่า กิจการชั้นนำต่างนำกลยุทธ์ด้านดิจิทัล เช่น ระบบโมบิลิตี้ ระบบวิเคราะห์ข้อมูล และระบบคลาวด์ มาใช้พัฒนาระบบการทำงาน นำข้อมูลแบบเรียลไทม์มาใช้ประโยชน์ ขยายขีดความสามารถของบุคลากร รวมทั้งปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการและใช้ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ

พลิกโฉมสู่องค์กรดิจิทัล

ขณะที่ บริษัทขนาดใหญ่ซึ่งมีความพร้อมด้านทรัพยากร ด้านขนาด และต้องการเปลี่ยนโฉมองค์กรไปสู่องค์กรดิจิทัลได้หันมามีบทบาทนำในตลาดอีก ครั้ง โดยกิจการเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนกระบวนการทำงานให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับวิธีการทำตลาด ทำงานร่วมกับพันธมิตร สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า และการจัดการธุรกรรมต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

"เทคโนโลยีดิจิทัลแทรกซึมเข้าไปอยู่ในส่วนต่างๆ ของดีเอ็นเอระบบการทำงานขององค์กรทุกส่วน ส่งผลให้องค์กรเหล่านี้พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลในการเปลี่ยนแปลง ด้านดิจิทัลในอนาคต"

สำหรับเทรนด์เทคโนโลยี ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในบทบาทเทคโนโลยีดิจิทัลในมุมของเอคเซนเจอร์ เช่น เส้นแบ่งระหว่างโลกดิจิทัลและโลกจริงหายไป (Digital-Physical Blur) เพิ่มความอัจฉริยะให้ทุกสิ่ง มาจากอุปกรณ์พกพา ระบบอัจฉริยะ และเครื่องมือต่างๆ ที่ให้คนเข้าถึงข้อมูลเรียลไทม์ เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต รวมถึงการดำเนินธุรกิจขององค์กร

สู่องค์กรธุรกิจไร้พรมแดน

การเชื่อมโยงในส่วนต่างๆ เหล่านี้ช่วยเพิ่มศักยภาพของบุคลากร ทำให้ระบบทำงานอย่างอัตโนมัติ องค์กรก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่เป็นประโยชน์ โดยพนักงานและอุปกรณ์ต่างๆ สามารถตอบสนองต่อเกือบทุกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

เปลี่ยนจากการใช้บุคลากรภายในสู่การระดมสมองจากบุคคลภายนอก เข้าสู่ยุคองค์กรไร้พรมแดนกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกัน ไม่ใช่เพียงพนักงานของบริษัท แต่ประกอบไปด้วยใครก็ได้ที่ใช้อินเทอร์เน็ต การเข้าถึงเครือข่ายของคนทำงานที่มีขนาดใหญ่และคล่องตัว ซึ่งไม่เพียงแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ยากๆ บางเรื่องได้ แต่หลายครั้ง กลุ่มคนทำงานเหล่านั้นก็พร้อมร่วมช่วยเหลือกันโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

อีกเทรนด์สำคัญ คือ การสร้างซัพพลายเชนสำหรับข้อมูล ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการข้อมูล เพื่อให้กระจายข้อมูลได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึงยิ่งขึ้น เทคโนโลยีข้อมูลพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่นำมาใช้งานเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้ข้อมูลขององค์กรนำมาใช้ประโยชน์น้อยเกินควร

ทั้งนี้ มีองค์กรเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่บูรณาการข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันทั่วทั้งองค์กร ดังนั้น บริษัทต่างๆ จึงต้องเริ่มดูแลข้อมูลให้เหมือนกับเป็นระบบห่วงโซ่หรือซัพพลายเชน โดยให้ข้อมูลกระจายทั่วทั้งองค์กรและในระบบที่เกี่ยวข้องส่วนอื่นด้วย

จับตาแอพพลิเคชั่นองค์กรแรง

เทรนด์ที่สำคัญ และเป็นที่จับตามองมาก คือ การเข้าสู่ยุคของแอพพลิเคชั่น องค์กรปัจจุบันนำแอพพลิเคชั่นมาใช้เพื่อให้การดำเนินงานคล่องตัวขึ้น ในงานวิจัยของเอคเซนเชอร์ชี้ว่า 54% ของทีมไอทีที่มีผลงานโดดเด่นต่างนำแอพพลิเคชั่นองค์กรมาใช้ และเพื่อช่วยให้พนักงานเปลี่ยนมาใช้แอพพลิเคชั่นโมดูลที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

"ผู้บริหารด้านไอทีและผู้บริหารขององค์กรต้องกำหนดว่าใครจะทำหน้าที่อะไรในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อพัฒนาไปสู่องค์กรดิจิทัล เพราะแรงกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดมาจากองค์กรเอง นอกจากนี้ องค์กรต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วย ตัวเอง เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว สนับสนุนการทำงานของซอฟต์แวร์ และเร่งสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจในที่สุด"

เขากล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจทั่วโลกมากกว่า 54% มีแอพพลิเคชั่นที่สำหรับใช้ภายในองค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการภายในองค์กร

 

Source: โมบาย-แอพ-ดาต้า สูตรสำเร็จธุรกิจยุคใหม่