วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ชาวบ้าน อ.โขงเจียม ออกล่าปลาบึกหลังปิดเขื่อน

EyWwB5WU57MYnKOuFHMU9CL4EC9ugwr9fkXrUR27wEhqJAMXWnGAEjสำหรับปลาบึกที่จับได้ชุดนี้ ชาวบ้านแจ้งว่าได้มาจากบ้านลาดวารี หมู่ที่ 14 ต.คำเขื่อนแก้ว อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี มีขนาดตั้งแต่ตั้งแต่ 30-150 กิโลกรัม ราคาที่จำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-250 บาท ขึ้นอยู่ที่ใครเป็นคนขายหากชาวบ้านขายเองราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 200 บาท หากซื้อที่ตลาดก็จะอยู่ที่ 250 บาท การจับก็จะใช้มอง หรือ ตาข่ายดักปลาขนาดใหญ่ในการลาก แค่ 2 วันชาวบ้านมีรายได้อย่างน้อยรายละ 2 หมื่นบาท ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาทองของชาวบ้าน ปลาบึกที่ได้จะนำไปประกอบอาหารทั้งลวกจิ้ม ลาบ ต้มยำ ซึ่งถือเป็นอาหารชั้นเลิศของนักชิมนางสาวบุญฑริกา จัยสิน อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหารแม่น้ำสองสี ต.โขงเจียม อ.โขงเจียม เปิดเผยว่า หลังจากที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยปิดประตูเขื่อนปากมูล ทำให้มีชาวประมงในพื้นที่ อำเภอโขงเจียม และใกล้เคียง ต่างนำเรือออกล่าปลาบึกมาขายให้กับร้านอาหารตามริมน้ำโขง สำหรับตนเองได้รับซื้อไว้ ทั้งหมด 4 ตัว น้ำหนักรวมกว่า 600 กิโลกรัม มูลค่า 78,000 บาท

นางสาวบุญฑริกา เผยอีกว่า สำหรับการจับปลาบึกในช่วงนี้จะมีระยะเวลาอยู่ประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นก็แล้วแต่ตามดวง สาเหตุที่ชาวประมงสามารถจับปลาบึกได้เยอะในช่วงนี้ ก็เป็นเพราะการปิดเขื่อนปากมูลซึ่งทำให้น้ำนิ่งปลาบึกที่เคยว่ายตามกระแสน้ำ ก็จะเกิดอาการตื่นน้ำ หรืออาการ งง อีกช่วงก็จะเป็นช่วงที่ปิดเขื่อนใหม่ น้ำลด ปลาบึกจะติดตามซอกหิน ตามต้นไม้ ชาวบ้านก็จะออกย่ำปลา ซึ่งจะเป็นช่วงที่ชาวประมงในพื้นที่จะรู้และเตรียมตัวกันล่วงหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 15 ต.ค.57 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่ร้านอาหาร และร้านขายปลาสดริมแม่น้ำโขง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ว่า เต็มไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากมีชาวบ้านประมงต่างนำขายปลาบึกยักษ์ น้ำหนักตัวกว่า 150 กิโลกรัม ที่หาได้ในลำน้ำโขง หลังการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ปิดประตูเขื่อนปากมูลเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตร มาขายให้กับร้านอาหาร และร้านขายปลาสด ไว้คอยนำไปประกอบอาหารต้อนรับนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ชาวประมงวันละ 2 หมื่นบาท

แหล่งที่มา  :  เดลินิวส์

Source: ชาวบ้าน อ.โขงเจียม ออกล่าปลาบึกหลังปิดเขื่อน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น