ส่วน ตำแหน่งต่างๆ นั้น อาทิ พ.อ.ศักดิ์ศรี งอยปัดพันธ์ เสธ.มทบ.13 กล้องวงจรปิด เป็นรอง ผบ.มทบ.13พ.อ.กัณฑ์ชัย ประจวบอารีย์ ผบ.ร.31 รอ. เป็นเสธ.มทบ.13 พ.อ.พงษ์ศักดิ์ เอี่ยมพญา รองผบ.ร.21 รอ. เป็นผบ.ร.31 รอ. พ.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ร.21 รอ. เป็นรองผบ.พล.ร.2 รอ. พ.อ.วรยุทธ แก้ววิบูลย์พันธุ์ เสธ.พล.ร.2 รอ. เป็น ผบ.ร.21 รอ. พ.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ผบ.ร.19เป็นรอง ผบ.พล.ร. 9 พ.อ.วุฒิชัย นาควานิช ผบ.ร.29 เป็นรอง ผบ.พล.ร.9 พ.อ.พงษ์สวัสดิ์ ภาชนะทิพย์ ผบ.กรม ทพ.14 เป็น ผบ.ร.19 พ.อ.สุรินทร์ นิลเหลือง ผบ.ร.9 เป็นรอง ผบ.จทบ.ส.บ. พ.อ.ยุทธพงศ์ คงนิล รอง ผบ.ร.9 เป็นผบ.ร.9พ.อ.ณรงค์ กลั่นวารี รอง ผบ.ป.6 เป็นผบ.ป.6 พ.อ.สวราชย์ แสงผล รอง ผบ.ร.8 เป็นผบ.ร.8
พ.อ.ธานินทร์ สนิทชน ผบ.ร.13 เป็นรอง ผบ.พล.ร.3 พ.อ.สัญชัย รุ่งศรีทอง ผบ.ร.3 เป็น ผบ.ร.13 พ.อ.ปราโมทย์ นาคจันทึก เสธ.พล.ร.3เป็น ผบ.ร.3 พ.อ.ยุวัต ขันธปรีชา รองผบ.ป.3 เป็น ผบ.ป.3 พ.อ.จรัส ปัญญาดี ผอ.กยก.ทภ.3 เป็น ผบ.ร.7 พ.อ.โสภณ นันทสุวรรณ ผบ.ร.14 เป็นผบ.ร.4 พ.อ.เกรียงชัย อนันตศานต์ ผอ.กขว.ทน.3 เป็นผบ.ร.14 พ.อ.ทะเบียนเมืองพระฝาง รอง ผบ.ร.15 เป็น ผบ.ร.153 พ.อ.เสนีย์ ศรีหิรัญ รอง เสธ.พล.ร.5 เป็น ผบ.ร.15 พ.อ.ประเสริฐ กิตติรัต รอง ผบ.ป.5 เป็นผบ.ป.5 พ.อ.นวกร สงวนศักดิ์โยธิน ผอ.กยก.นปอ. เป็น ผบ.ปตอ.1 พ.อ.วีระพงษ์ ศรีรัตน์ รอง ผบ.ป.1 รอ. เป็นผบ.ป.71 พ.อ.นิติ ติณสูลานนท์ รอง เสธ.มทบ.42 ซึ่งเป็นหลานชายของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เป็นรอง ผบ.กรม นนร.รอ.รร.จปร. ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี รอง ผอ.กอง สลก.ทบ. ได้ขยับเป็นฝ่ายเสนาธิการประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก
พล.อ.อุดม เดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้ลงนามในคำสั่งกองทัพบกที่ 325/2557 ลงวันที่ 3 ต.ค. 2557 เรื่องให้นายทหารรับราชการและปรับระดับเงินเดือนจำนวน 371 นาย ซึ่งเป็นนายทหารระดับพันเอกพิเศษ โดยการปรับย้ายครั้งนี้ พล.อ.อุดมเดช ได้มีการปรับระดับผู้บังคับการกรม เพื่อต้องการให้ผู้บังคับการกรมคนใหม่สามารถปฏิบัติภารกิจแรกได้ทันที คือการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก (นขต.ทบ.) วาระพิเศษ ในวันที่ 6 ต.ค.ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน
ทั้งนี้เป็นที่น่า สังเกตว่าการปรับย้ายครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นหน่วยคุม กำลังหลักของกองทัพบก ทั้งหน่วยรบและหน่วยที่ได้เข้ามาเป็นกำลังหลักในการดูแลพื้นที่ช่วงที่คณะ รักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาควบคุมการบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีนายทหารในสายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม และพล.อ.อุดมเดช
สำหรับตำแหน่งที่น่าสนใจมีดังนี้ พ.อ.เอกรัตน์ ช้างแก้ว ผบ.ร.1 รอ. ซึ่งเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 23 (ตท.23) ขยับเป็นรองผบ.พล.1 รอ.โดย พ.อ.อาสาศึก ขันติรัตน์ (ตท.28) นายทหารฝ่ายเสนาธิการของพล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้ช่วยผบ.ทบ.มาเป็นผบ.ร.1รอ. แทน ด้านพ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี (ตท.24) ผบ.ร.11รอ. ได้ขึ้นเป็นรองผบ.พล.1รอ.เนื่องจากมีผลงานในการรักษาความสงบเรียบร้อยที่ ม.รามคำแหง และบริเวณสี่แยกหลักสี่ในช่วงการชุมนุมที่ผ่านมา สำหรับพ.อ.สุชาติ พรมใหม่ (ตท.27) นายทหารฝ่ายเสนาธิการของพล.อ.อุดมเดช ได้เป็น ผบ.ร.11รอ. คุมกำลัง เพื่อความมั่นใจของพล.อ.อุดมเดช เนื่องจากเป็นนายทหารคนสนิทที่ไว้ใจได้มากที่สุด
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Source: บิ๊กโด่งคลอดโผผู้บังคับการกรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น