เมื่อปี 2551 อัยการโปแลนด์ดำเนินการสืบสวนเรื่องการมีอยู่ของคุกลับ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายของประเทศ โดยมีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 ราย แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อ ต่อมา อดีตประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ควาสเนียฟสกี และอดีตนายกรัฐมนตรีเลสเซ้ก มิลเลอร์ ยอมรับว่ามีการอนุญาตให้ซีไอเอดำเนินการคุกลับในโปแลนด์จริง แต่ปฏิเสธไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทรมานหรือการปฏิบัติอย่างไร้ มนุษยธรรมต่อนักโทษ และยังไม่เคยเดินทางไปเยือนสถานที่แห่งนั้นด้วย
ทั้งนี้ นายอัลนาซีรีและนายซูไบดาห์ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับเหตุโจมตีเรือพิฆาต ยูเอสเอส โคล ของสหรัฐ ที่จอดเติมเชื้อเพลิงที่ท่าเรือเอเดนของเยเมน เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2543 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน และบาดเจ็บ 39 คน ทั้งสองได้ยื่นฟ้องรัฐบาลโปแลนด์ต่อศาลในฝรั่งเศส หลังมีคำพิพากษา จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ในเดือน ต.ค. โดยอ้างว่าการตัดสินนี้อาจกระทบต่อกระบวนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ในเหตุโจม ตีดังกล่าว แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งนายเซกอซ เชตินา รมว.กระทรวงการต่างประเทศ แถลงในวันนี้ว่า Inทางการวอร์ซอจะปฏิบัติตามคำสั่งศาล เนื่องจากเราเป็นประเทศที่เคารพกฎหมายIn พร้อมทั้งตั้งคำถามว่าจะดำเนินการจ่ายเงินให้แก่นักโทษที่ขณะนี้ถูกคุมขังใน เรือนจำกวนตานาโมได้อย่างไร และหากเงินไปถึงพวกเขา มันจะถูกใช้ไปในทางไหน และในเรื่องนี้มีหลายฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นว่า การจ่ายเงินให้แก่ผู้ก่อการร้ายเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ว่า ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรปในฝรั่งเศส สั่งให้รัฐบาลโปแลนด์ จ่ายค่าเสียหายจำนวน 230,000 ยูโร (กว่า 8.5 ล้านบาท) ให้แก่นายอับด์ อัล-ราฮิม อัลนาซีรี ชาวซาอุดีอาระเบีย และนายอาบู ซูไบดาห์ ชาวปากีสถาน 2 ผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายที่ถูกควบคุมตัวโดยสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ (ซีไอเอ) และคุมขังไว้ที่คุกลับทางตอนเหนือของโปแลนด์ ระหว่างปี 2545 - 2546 โดยศาลมีคำวินิจฉัยเมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้วว่า ทางการโปแลนด์ละเมิดสิทธิของผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน ด้วยการยินยอมให้ซีไอเอคุมขังพวกเขา และปล่อยให้มีการทรมานและปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น