เหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา เมื่อนายวิลสันซึ่งเป็นตำรวจผิวขาว ยิงนายบราวน์ซึ่งเป็นวัยรุ่นผิวสีเสียชีวิต โดยนายวิลสันให้การว่า นายบราวน์พยายามเข้ามาแย่งอาวุธจากเจ้าหน้าที่ ขณะที่พยานบางส่วนเล่าว่า นายบราวน์ได้ยกมือขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่มีอาวุธก่อนที่เขาจะถูกยิง เรื่องดังกล่าวได้จุดให้เกิดกระแสถกเถียงไปทั่วโลก เกี่ยวกับอคติทางเชื้อชาติและอำนาจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จนนำไปสู่การประท้วงรุนแรงหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีการสั่งฟ้องต่อนายวิลสัน แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐยังคงดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ยิงกันดังกล่าว ในประเด็นด้านสิทธิพลเมือง รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานตำรวจด้วยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเฟอร์กูสัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า นายเนล บรุนเทรเจอร์ ทนายความของนายดาร์เรน วิลสัน ตำรวจวัย 28 ปีที่ยิงนายไมเคิล บราวน์ วัย 18 ปี เสียชีวิต ที่เมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรี เผยเมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ว่า นายวิลสันได้ยื่นหนังสือลาออกต่อสำนักงานตำรวจเมืองเฟอร์กูสันแล้ว และการลาออกได้มีผลทันที หลังจากก่อนหน้านี้เขาได้รับอนุญาตให้ลาพักหลังเหตุการณ์ดังกล่าว โดยนายบุนเทรเจอร์เผยว่า การลาออกเป็นไปตามเจตจำนงของนายวิลสันเอง ซึ่งมีสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ หลังได้รับแจ้งว่าสำนักงานตำรวจเมืองเฟอร์กูสันถูกข่มขู่คุกคาม การลาออกมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังคณะลูกขุนมีคำสั่งไม่ฟ้องนายดาร์เรนเมื่อ วันจันทร์ที่ 25 พ.ย. เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอ ซึ่งคำตัดสินดังกล่าวส่งผลให้เกิดความไม่พอใจอย่างยิ่งในหมู่ประชาชน
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น