ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อรายแรกในการแพร่ระบาดของกาฬโรคในมาดากัสการ์ครั้งนี้ พบเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม เป็นชายที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน โซอามาฮาตามานา ในเขต ชิรวนมันดิดี ห่างจากกรุงอันตานานาริโว ไปทางตะวันตกราว 200 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีการยืนยันจำนวนผู้ป่วยอีกสองรายในเมืองหลวง และเสียชีวิตแล้วหนึ่งคน
องค์การอนามัยโลก ระบุเพิ่มเติมว่า ตอนนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของโรค เนื่องจากรุงอันตานานาริโวมีจำนวนประชากรหนาแน่น และระบบสาธารณสุขด้อยประสิทธิภาพ โดยคณะทำงานเฉพาะกิจได้ลงพื้นที่เพื่อจัดการกับการแพร่ระบาดของโรคระบาดนี้ แล้ว
เมื่อปี 2013 ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ได้ออกมาเตือนว่า มาดากัสการ์ จะต้องเผชิญกับกาฬโรค หากมาดากัสการ์ไม่พยายามชะลอการแพร่กระจายของเชื้อโรคชนิดนี้ พวกเขากล่าวด้วยว่า นักโทษที่ถูกคุมขังในเรือนจำที่มีหนูที่ติดเชื้อกาฬโรค เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นพิเศษ
องค์การอนามัยโลก ระบุว่า สถานการณ์การการแพร่ระบาดของกาฬโรคเลวร้ายลง เนื่องจากหมัด ซึ่งเป็นพาหนะนำโรค มีความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงมากขึ้น ทั้งนี้ มนุษย์มักป่วยเป็นกาฬโรคชนิดที่มีอาการต่อมน้ำเหลืองบวมและอักเสบ หลังจากโดนตัวหมัดที่เป็นพาหะนำโรคซึ่งเกาะอยู่บนสัตว์ฟันแทะกัด
สำหรับกาฬโรคชนิดที่มีอาการต่อมน้ำเหลืองบวมและอักเสบ หากตรวจพบได้เร็วก็สามารถรักษาได้โดยใช้ยาปฏิชีวนะ แต่ราว 2% ของผู้ป่วยในมาดากัสการ์ จะมีอาการติดเชื้อรุนแรงที่ปอด ซึ่งรุนแรงกว่าและสามารถแพร่กระจายเชื้อจากคนสู่คนด้วยการไอจามได้ด้วย นอกเหนือจากการติดเชื้อจากสัตว์สู่คน
องค์การอนามัยโลกยืนยัน การแพร่ระบาดของเชื้อกาฬโรคในประเทศมาดากัสการ์ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ศพ และมีผู้ติดเชื้ออีกเกือบ 80 คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกแถลงการณ์สถานการณ์การระบาดของเชื้อกาฬโรค ในประเทศมาดากัสการ์ โดยได้แจ้งเตือนถึงความรุนแรงและการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโรคในเมืองหลวง กรุงอันตานานาริโว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 ศพ และมีผู้ติดเชื้อกว่า 80 คน
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น