มีคิวหารือผู้นำยักษ์ใหญ่คู่เจรจา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 12 การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 17 การ ประชุมสุดยอดอาเซียน-องค์การสหประชาชาติ ครั้งที่ 6 การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน- ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ฉลองครบรอบ 40 ปีกล้องวงจรปิด ความสัมพันธ์ และ การประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง-ญี่ปุ่น (Mekong-Japan Summit) ตามลำดับ ก่อนที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างเป็นทางการ ที่ประธานาธิบดีเมียนมาร์เป็นเจ้าภาพ โดยมีนางนราพร จันทร์โอชา ภริยานายกฯ ร่วมงาน
ป.ป.ช.ได้หลักฐานครบคดี “จุฑามาศ”
เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.นนทบุรี นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช.แถลงกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เรียกรับสินบนจากนักธุรกิจชาวสหรัฐฯ เพื่อให้ได้สิทธิจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ว่า จากกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนางจุฑามาศในคดีดังกล่าวไปแล้ว แต่อัยการสูงสุดเห็นว่า ยังมีข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวน ต้องตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช.กับอัยการสูงสุดมาทบทวนข้อไม่สมบูรณ์ในสำนวนนั้น หลังจากที่คณะทำงานร่วมใช้เวลาทำงานร่วมกัน 2 ปี 11 เดือน 20 วัน ล่าสุด คณะทำงานฝ่าย ป.ป.ช.ได้รวบรวมหลักฐานต่างๆในประเด็นที่ฝ่ายอัยการเห็นแย้งจนสมบูรณ์แล้ว มีหลักฐานครบทั้งจากฝ่ายไทยและสหรัฐฯ โดยเฉพาะเอกสารเกี่ยวกับเส้นทางการโอนเงินไปยัง 4 ประเทศของ น.ส.จุฑามาศได้แก่ สหรัฐฯ อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์ จำนวน 2,000 แผ่น ซึ่ง ป.ป.ช.ได้ติดตามโยงใยเส้นทางการเงิน จนได้มีหลักฐานสมบูรณ์แล้ว ส่วนเงินสินบน 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 60 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างการติดตามนำกลับคืนสู่ประเทศไทย ตามพันธกรณีสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯ
ลุยส่งฟ้อง–ไม่มาออกหมายจับ
นายวิชัยกล่าวว่า หลังจากนี้ ป.ป.ช.จะส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณา เพื่อดำเนินการส่งฟ้องนางจุฑามาศต่อไป มั่นใจว่าอัยการสูงสุดจะส่งฟ้องให้ เพราะหลักฐานที่ ป.ป.ช.มีอยู่ เป็นหลักฐานชิ้นเดียวกับที่ศาลสหรัฐฯ ตัดสินลงโทษนักธุรกิจชาวอเมริกันที่ให้สินบนนางจุฑามาศ ซึ่งโทษสูงสุดในคดีนี้คือการประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนตัวนางจุฑามาศที่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้นั้น เมื่อนำคดีส่งฟ้องศาลแล้ว หากยังไม่ได้ตัวนางจุฑามาศมาดำเนินคดี คงต้องออกหมายจับกันต่อไป นอกจากนี้ ป.ป.ช.กำลังพิจารณาไต่สวนความผิดกรณีการร่ำรวยผิดปกติของนางจุฑามาศ เพื่อร้องขอให้ทรัพย์สินของนางจุฑามาศตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
ขึ้นสปีชขอบคุณเพื่อนเข้าใจเรา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมตอนหนึ่งว่า ขอบคุณสมาชิกอาเซียนที่เข้าใจสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ยืนยันว่าไทยยังคง ให้ความสำคัญต่ออาเซียนและจะยึดมั่นต่อพันธกรณีต่างๆในการสร้างประชาคมอา เซียนปี 2558 อาเซียนควรให้ความสำคัญเรื่องความเชื่อมโยงระหว่างกัน ทั้งเรื่องคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยการปรับกฎระเบียบต่างๆให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน จัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน แก้ไขภัยคุกคามอย่างบูรณาการ อาทิ โรคติดต่อ ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ จัดทำแผนปฏิบัติการต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์ระดับภูมิภาคและอนุสัญญาอา เซียนว่าด้วยการค้ามนุษย์ให้แล้วเสร็จ และควรใช้ประโยชน์จาก ป.ป.ส.อาเซียนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการลักลอบค้ายาเสพติด ให้อาเซียนปลอดจากยาเสพติดภายในปี 2558
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของอีโบลาเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเฝ้าระวัง ป้องกันและแก้ไข จึงเห็นว่าในกรอบอาเซียนบวกสาม ควรประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในระดับภูมิภาคและสร้างกลไกเฝ้าระวังโรคร่วมกัน ซึ่งไทยพร้อมจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวกสาม ที่อาจมีขึ้นในเดือน ธ.ค.
คุยนายกฯ “นเรนทรา” แห่งอินเดีย
ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์หารือทวิภาคีกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย โดยในการหารือ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวชื่นชมนโยบายอินเดียเรื่องการจัดตั้ง “Smart City” และ “Made in India” เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ ไทย ทั้งโครงการถนนสามฝ่าย ไทย-เมียนมาร์- อินเดีย โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย นอกจากนี้ ยังเห็นพ้องในข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทย-อินเดีย เร่งรัดยกเลิกภาษีซ้อน รวมทั้งความร่วมมือด้านหน่วยงานข่าวกรองและการลาดตระเวนร่วมทางทะเล โดยหวังว่ากองทัพไทยและอินเดียจะทำการฝึกผสมร่วมกันภายใต้รหัส “ไมตรี” ในเร็ววันนี้
ขณะที่นายกรัฐมนตรีอินเดียได้กล่าวถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. พร้อมกล่าวชื่นชมสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพระบรมวงศานุวงศ์ และตอบรับร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือเอเชียที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการ ประชุมในปีหน้าด้วย
มอบดอกแก้วกัลยา “บิ๊กป้อม”
เมื่อเวลา 08.45 น. บริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นำโดยนางอารยา อรุณานนท์ชัย ประธานคณะกรรมการฝ่ายจำหน่ายดอกแก้วกัลยา ในคณะกรรมการกองทุนดอกแก้วกัลยา สภาสังคมสงเคราะห์ฯ นำดารา นักแสดง อ๊อฟ-ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ และเอิ้นขวัญ วรัญญา ศิลปินบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด เจ้าหน้าที่สภาสังคมสงเคราะห์และคนพิการเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เพื่อมอบผลิตภัณฑ์ดอกแก้วกัลยาและจำหน่ายดอกแก้วกัลยาหน่วยงานในทำเนียบ และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การจัดงานคนพิการ ครั้งที่ 48 ประจำปี 2557 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 พ.ย.57 ณ สวนอัมพร ทั้งนี้ ดอกแก้วกัลยา เป็นชื่อดอกไม้ที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามดอกไม้ประดิษฐ์ โดยคนพิการ ของศูนย์ส่งเสริมอาชีพและพัฒนาคนพิการ และได้พระราชทานอนุญาตให้ใช้ดอกแก้วกัลยาเป็นสัญลักษณ์คนพิการด้วย
“ลุงหมาย” ทำช้า–ภาษีมรดกเลื่อน
จากนั้นเวลา 09.00 น. พล.อ.ประวิตรได้เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) เป็นการปฏิบัติภารกิจแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 25 ที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่าเหตุที่ ครม.ชะลอพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก เนื่องจากนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ส่งร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก มากระชั้นชิดเกินไป ทำให้ไม่สามารถขอความคิดเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันเวลา ทำให้ไม่สามารถนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. สัปดาห์นี้ได้ และไม่ได้มีปัญหาเรื่องเนื้อหาแต่อย่างใด แต่จะนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า
“วิษณุ” ปัดใจเสาะ–แค่รอนายกฯ
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า การประชุม ครม.สัปดาห์นี้พยายามพิจารณาเรื่องที่ไม่เร่งด่วน เรื่องภาษีมรดกต้องคุยกับรัฐมนตรีหลายคน และการประชุม ครม.ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนไม่อยู่ ความจริง พล.อ.ประยุทธ์ก็บอกไม่ต้องรอ แต่โดยหลักก็ควรจะรอดี กว่า และไม่ได้มีปัญหาเรื่องของเนื้อหาแต่อย่างใด
“บิ๊กตู่” ไปเนปิดอว์ถกผู้นำอาเซียน
เมื่อเวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ศูนย์ประชุม MICC กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 25 โดยมี พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีเมียนมาร์ ในฐานะประธานอาเซียนกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมหัวข้อก้าวไปข้างหน้าสู่ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวและประชาคมที่สงบสุขและเจริญรุ่งเรือง พร้อมกล่าวแนะนำ พล.อ.ประยุทธ์ และนายโจโค วิโดโด้ ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ในฐานะผู้นำใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมการประชุมอาเซียนเป็นครั้งแรก จากนั้นผู้นำอาเซียนได้ถ่ายรูปหมู่บนเวทีร่วมกัน ก่อนรับชมการแสดงทางวัฒนธรรมที่เมียนมาร์จัดขึ้น
สนช.นัดพิเศษถกคดีสอย “ปู”
อีกเรื่องหนึ่ง เวลา 10.15 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นัดพิเศษ มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม โดยเชิญนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง นายสมหมาย กู้ทรัพย์ และนายเอนก คำชุ่ม ทีมทนายผู้ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าว มาชี้แจงถึงเหตุผลการขอให้ที่ประชุม สนช.เลื่อนการพิจารณาวาระ ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันที่ 12 พ.ย.ออกไป
“พรเพชร” ซักทนายคัดสำนวนอืด
ทั้งนี้ นายพรเพชร ชี้แจงขั้นตอนการทำงานของ สนช.ในคดีดังกล่าวว่า ป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ สนช. วันที่ 14 ต.ค. ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับทราบแล้ว เพื่อให้มาคัดลอกสำเนาถอดถอนของ ป.ป.ช. แต่นายนรวิชญ์แจ้งว่า ยังไม่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการเรื่องนี้ เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ ดังนั้น สนช.จึงส่งเอกสารสรุปข้อกล่าวหาของ สนช.ไปที่บ้านอดีตนายกรัฐมนตรีถึงสองรอบ ซึ่งมีผู้เซ็นรับเอกสารทั้งสองครั้งเมื่อวันที่ 29 ต.ค. และ 7 พ.ย.
ทนายโอดเอกสารเป็นปึกอ่านไม่ทัน
นายเอนก คำชุ่ม ทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงเหตุผลการขอเลื่อนการประชุมต่อ สนช.ว่าข้อ บังคับการประชุม สนช.ข้อ 149 และ 150 ระบุว่า สนช.ต้องส่งรายงานและสำนวน ป.ป.ช.ให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบไม่น้อยกว่า 15 วัน นับจากวันประชุมนัดแรกคือ วันที่ 12 พ.ย. แต่ช่วงเวลาดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ต่างประเทศ จึงไม่ทราบเรื่องวาระการถอดถอน เมื่อกลับถึงประเทศไทยวันที่ 2 พ.ย. ได้หารือทีมทนายความว่า ยังไม่ได้รับสำนวนจาก ป.ป.ช. จึงทำหนังสือถึงประธาน สนช. เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ขอเลื่อนการประชุมนัดแรกออกไปก่อน เพื่อให้มีเวลาศึกษาสำนวน ป.ป.ช.และยื่นคำร้องขอให้สอบพยานเพิ่มเติม เพราะหากนับจากวันที่ 7 พ.ย.ที่อดีตนายกฯได้รับหนังสือจากประธาน สนช. จนถึงวันที่ 12 พ.ย. อดีตนายกฯมีเวลาเตรียมตัวแค่ 5 วันเท่านั้น ทั้งที่ข้อกล่าวหาที่ สนช.ส่งไปให้มีเนื้อหา 100 กว่าหน้า นอกจากนี้เนื้อหาในสำนวนถอดถอนของ ป.ป.ช.มีถึง 3,870 หน้า แต่ถูกตีเป็นเอกสารลับทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถถ่ายเอกสารไปดูได้ หากจะให้มานั่งจดหรือนั่งดูเพียงอย่างเดียวถือเป็นเรื่องยากมาก จึงอยากขออนุญาตประธาน สนช.ให้สามารถถ่ายเอกสารดังกล่าวได้ ถ้าไม่อนุญาตให้ถ่ายเอกสาร ก็ไม่รู้ว่าต้องใช้ทีมงานเท่าไรเพื่อดูเอกสารทั้งหมด
สมาชิกดาหน้าซัดดองเรื่อง-ตีมึน
จากนั้น นายพรเพชรเปิดให้สมาชิก สนช.ซักถาม ข้อสงสัยจากทีมทนายความ มีสมาชิกร่วมซักถาม 4 คน อาทิ นางเสาวณี สุวรรณชีพ ถามว่า ทีมทนายความได้รับการประสานจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้มาทำคดียาวนานแค่ไหน เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เตรียมต่อสู้คดีมายาวนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาประสานกัน ขณะที่นายมณเฑียร บุญตัน ถามว่า แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์อยู่ต่าง ประเทศ แต่เหตุใดทีมทนายความไม่โทรศัพท์แจ้งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น กรณีดังกล่าวประชาชนทั่วประเทศทราบดีว่า จะมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม สนช.วันที่ 12 พ.ย. มานานแล้ว
นายนรวิชญ์ ชี้แจงข้อซักถามว่า การให้เหตุผลว่า มีการรายงานข่าวจากสื่อว่า สนช.ได้บรรจุวาระถอดถอนในวันที่ 12 พ.ย. แสดงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์รับทราบวาระการถอดถอนแล้ว ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะการรับทราบต้องได้รับหนังสือโดยตรงอย่างเป็นทางการจาก สนช.ตามข้อบังคับเท่านั้น เมื่อ สนช.ร่างข้อบังคับเพื่อใช้เป็นกฎเกณฑ์ในการพิจารณาแล้ว จะละเลยข้อบังคับที่ตนเองร่างขึ้นมาหรืออย่างไร
มติ 167 ต่อ 16 เลื่อนถกไป 28 พ.ย.
ต่อมานายพรเพชรขอมติจากที่ประชุม สนช.ว่าจะให้เลื่อนการประชุมถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์นัดแรกในวันที่ 12 พ.ย.หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมมีมติด้วยคะแนน 167 ต่อ 16 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง ให้เลื่อนการพิจารณานัดแรกออกไป โดยให้เลื่อนการประชุมไปเป็นวันที่ 28 พ.ย.ตามมติที่วิป สนช.เสนอมา ทั้งนี้นายพรเพชรแจ้งว่า ขอให้ผู้ถูกกล่าวหาไปตรวจเอกสารและคัดสำนวน ป.ป.ช. จำนวน 3,870 หน้า ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปในเวลาราชการ
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ
Source: พท.-ปชป.ต่อรอง คสช.ปลดล็อก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น