บทความชิ้นดังกล่าวได้รับเสียงวิจารณ์เป็นวงกว้างในสังคมโปแลนด์ ประธานาธิบดีโบรนิสลอว์ โคโมโรวสกี ประณามทัศนคติของโคมีว่าเป็นการดูถูกชาวโปแลนด์ ซึ่งให้ความช่วยเหลือชาวยิวจำนวนมาก พร้อมทั้งตำหนิโคมีย์ว่า ขาดความรู้ด้านประวัติศาสตร์ และรัฐบาลโปแลนด์จำเป็นต้องตอบโต้ในเรื่องนี้ ซึ่งต่อมาไม่นาน กระทรวงการต่างประเทศเชิญมูลล์เข้าพบ เพื่อประท้วงและขอ "คำชี้แจง" เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐยืนยันว่า บทความชิ้นนั้นไม่ใช่ความคิดเห็นแท้จริงของรัฐบาลวอชิงตัน และขอยืนยันว่า กองทัพนาซีเท่านั้นคือผู้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวโปแลนด์เป็น หนึ่งในประเทศตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกองทัพนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และถูกสังหารไปมากกว่า 6 ล้านคน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งมีเชื้อสายยิว อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐแสดงความคิดเห็นลักษณะ นี้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2555 ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เรียกค่ายกักกันชาวยิวของกองทัพนาซีในโปแลนด์ ว่าเป็น "ค่ายมรณะโปแลนด์" ก่อนขอโทษในเวลาต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ว่านายสเตีเฟน มูลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงวอร์ซอ แถลงเมื่อวันอาทิตย์ ขออภัยต่อชาวโปแลนด์ทั้งประเทศในนามของรัฐบาลวอชิงตัน ต่อกรณีที่หนังสือพิมพ์ "เดอะ วอชิงตัน โพสต์" ฉบับวันที่ 16 เม.ย. ตีพิมพ์บทความต่างความเห็นต่อบทบรรณาธิการของนายเจมส์ โคมีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง ( เอฟบีไอ ) ว่าชาวโปแลนด์ ชาวฮังการี และประชาชนบางกลุ่มในหลายประเทศ "สมรู้ร่วมคิด" กับกองทัพนาซีเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Resource: ทูตสหรัฐขอโทษชาวโปแลนด์เรื่องบทความฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น