ท้าย ที่สุดภาวะเศรษฐกิจโลกกลับเป็นเรื่องที่ไว้ใจไม่เคยได้ แม้สภาพคล่องที่จะล้นตลาดในช่วงครึ่งปีแรก จากการอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายประเทศ แต่ยังมีความเสี่ยงที่การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐจะดึงเงินทุนไหลกลับ และลดความน่าสนใจของ ตลาดเกิดใหม่ลง โดยผู้คร่ำหวอดในวงการค้าหุ้นอันดับต้น ๆ “ก้องเกียรติ โอภาสวงการ “ ประธานกรรมการ บริษัท หลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ออกโรงเตือนว่าปี 2558 สภาพคล่องของตลาดโลกอยู่ในระดับสูง แต่ยอมรับว่าโอกาสที่สภาพคล่องจะไหลเข้าลงทุนในไทยมีน้อยมาก เพราะความแข็งแกร่งของตลาดขนาดใหญ่อย่างสหรัฐที่มีสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวมี แรงจูงใจต่อนักลงทุนมากกว่า ในขณะที่ในภูมิภาคเอเชีย ตลาดจีน, ญี่ปุ่น และไต้หวันจะมีกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามากที่สุด สะท้อนว่าไทยยังไม่อยู่ในจุดที่น่าสนใจจากนักลงทุนต่างชาติมากนัก ดังนั้นแรงซื้อขายส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนในประเทศเป็นหลัก และระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น
ด้านโบรกเกอร์เกิดอาการ “เสียงแตก” มีความเห็นไม่สอดคล้องกันมากเท่าไรนัก เนื่องจากปัจจัยความผันผวนในปี 2558 ค้ำคอไม่มีใครยอมกล้าฟันธงให้เสียชื่อเสียงเล่น ๆ ได้แต่แนะนำนักลงทุนให้ระแวดระวังกันเอาเอง ขณะเดียวกันน้ำหนักความโดดเด่นของภาวะตลาดส่วนใหญ่ ยังเน้นที่ครึ่งปีแรกเป็นหลักจากสภาพคล่องที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น เพราะในช่วงครึ่งปีหลังหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย ดังนั้นการลงทุนปีนี้ถือเป็นสนามประลองความท้าทายได้เป็นอย่างดี ที่ตอบรับปัจจัยบวกจนสุดโต่ง และความผันผวนที่รุนแรงเกินคาดเดา และผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด.
กลุ่มน้องใหม่ไฟแรง
มา เร็วเคลมเร็วกับกลุ่มธุรกิจหน้าใหม่ ทีวีดิจิตอล เนื่องจากอัตราค่าโฆษณาที่ต่ำกว่าฟรีทีวีอนาล็อก 10 เท่าตัว และทิศทางการเข้าถึงครัวเรือนเทียบเท่าฟรีทีวีอนาล็อกภายใน 2-3 ปี ผู้ประกอบการสินค้าและบริการเริ่มหันมาใช้งบโฆษณาในสื่อทีวีดิจิตอลมากขึ้น ส่งให้มูลค่าเงินโฆษณาสื่อทีวีดิจิตอลเติบโต และอัตราค่าโฆษณามีแต่จะพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ในการดึงโฆษณา เพราะภายใต้การแข่งขันที่ดุเดือด รวมถึงการแย่งเนื้อหารายการที่เคยป้อนให้แต่ช่องหลักนั้นถูกกระจายมากขึ้น ส่งผลให้มีการแบ่งเค้กเรตติ้งแบบยิบย่อยทำเอาเจ้าเก่า ๆ อย่างทีวีอนาล็อก อาจเจ็บหนักมากกว่าคนอื่น
จับตาหุ้นพลังงาน
จากราคา น้ำมันดิบในตลาดโลกพ่นพิษ ลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี กดดันของราคาของหุ้นกลุ่มพลังงานเคลื่อนไหวในระดับต่ำ ซึ่งเซียนหุ้นพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำได้แค่จับตามอง เพราะราคาที่ยังไม่ทรงตัวส่งผลให้ความไม่แน่นอนสูงตามไปด้วย โดยองค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) คาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ น่าจะทรงตัวในระดับ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ไปอย่างน้อยในระยะ 6 เดือนแรกของปี 2558 และจะฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับเกิน 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยความคาดหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะมีแนวโน้มฟื้นตัว อีกทั้งต้นปีจะมีการปรับโครงสร้างพลังงานในประเทศ ซึ่งหุ้นกลุ่มพลังงานมีขนาดใหญ่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของดัชนีอย่างเด่น ชัด และอาจไม่เหมาะกับการลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่เชื่อมั่นว่ายังไงกลุ่มพลังงานมีความจำเป็นต่อการเติบโตของประเทศในอนาคต ในขณะเดียวกันอานิสงส์จากวิกฤติราคาน้ำมัน ผลักดันให้กลุ่มอุตสาหกรรมการบิน ม้านอกสายตากลับมาได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น พร้อมแรงหนุนจากการเติบโตของภาคท่องเที่ยว หลัง คลายความกังวลด้านปัญหาทางการเมืองไปได้ระดับหนึ่ง
รอคอยกลุ่มก่อสร้าง
ใน ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ คาดได้รับอานิสงส์จากการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เป็นตัวชูโรงในการกระตุ้น เศรษฐกิจที่สำคัญในปี 2558 แต่กลับต้องรอประเมินความชัดเจนให้เพิ่มมากขึ้น เพราะตั้งหน้ารอเก้อมาหลายรัฐบาล ทั้ง ๆ ที่มีแผนแต่ไม่สามารถลงมือทำได้จริง โครงการโครงสร้างพื้นฐานภายใต้วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะประมูลในปีนี้มูลค่าประมาณ 360,000 ล้านบาท โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่าง ๆ มีสัดส่วนมากสุดประมาณ 250,000 ล้านบาท หรือ 70Per cent ของงบทั้งปี คาดผลักดันให้กลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ควรเน้นหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์โดยตรงจากโครงการรถไฟฟ้าที่คาดว่ามีความ พร้อมต่อการเปิดประมูลมากที่สุด ส่งผลดีไปยังหุ้นวัสดุก่อสร้างขนาดเล็ก อย่าง เหล็ก หรืออิฐมวลเบาเติบโตได้แบบก้าวกระโดด
หุ้นแบงก์ยังแข็งแกร่ง
อย่าง ไรก็ตามในปีหน้าหัวใจหลักในการลงทุน คือ เลือกเล่นหุ้นใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แม้การเติบโตของสินเชื่อจะอ่อนตัวลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ธนาคารยังสามารถทำรายได้จากค่าธรรมเนียมได้อยู่ในระดับดี ประกอบกับหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง แต่กลับกลายเป็นเรื่องปกติที่หลายฝ่ายให้ความกังวลลดน้อยลง เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นผลกระทบจากนโยบายรถคันแรกเพียงอุตสาหกรรมเดียว ประเมินว่าความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เพื่อรองรับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ผลักดันกำลังซื้อให้เพิ่มมากขึ้น
ตลอดปี 57 ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเรียกได้ว่าครบรสชาติ โดยดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนอย่างแรงระหว่าง 1,200-1,600 จุด รวมทั้งเผชิญปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ตลอดจนความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งโค้งสุดท้ายของปี ที่ยังสร้างสถิติใหม่แบบน่าใจหายด้วยการทิ้งดิ่ง 138 จุด ในวันเดียว ด้วยมูลค่าซื้อขายสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ จากปัจจัยแวดล้อมที่ดูไร้เหตุผลทำเอานักลงทุนใจหายใจคว่ำไปตาม ๆ กัน
เริ่ม เข้าปี 2558 นักลงทุนต้องเตรียมพร้อม พกเงินลงทุนเพื่อรับมือกันใหม่อีกครั้ง หลายคนมากับความคาดหวังเต็มเปี่ยม จากฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศที่สร้างความเชื่อมั่นจะสามารถผลักดันการขยายตัวทาง เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมวาดฝันเมกะโปรเจคท์และอนุมัติงบลงทุนปี 2558 ให้นักลงทุนรอจ่อซื้อเก็งกำไรกันตัวสั่น
กลุ่มสื่อสารนำทัพ
แต่ แล้วกลุ่มที่กูรูหุ้นส่งซิกให้นักลงทุนเข้าไปจับจองกลับกลายเป็นหุ้นกลุ่ม สื่อสาร แม้เคยถูกแช่แข็งจากการเลื่อนประมูลคลื่นความถี่ 4 จี ที่โซซัดโซเซในช่วงแรก แต่ในขณะนี้กลับมีกำไรดีขึ้นค่อนข้างมาก เนื่องจากการปรับเปลี่ยนระบบลูกค้ามาใช้ 3 จีมากขึ้น ทำให้มีรายได้อยู่ในระดับสูงรวมถึงการขายสินค้าไอทีที่ได้รับความนิยมเข้ามา เป็นส่วนช่วยเสริมรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นกลุ่มสื่อสารมีความโดดเด่นสูงสุด ภายหลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่เป็น ดิจิตอล อีโคโนมี ซึ่งจะมีการประมูล4จี บนคลื่นความถี่1800เมกะเฮิรตซ์ รวมถึงการยิงดาวเทียมไทยคม 8 เข้ามาผลักดันบรรยากาศการลงทุนในกลุ่มให้คึกคัก ซึ่งความต้องการเทคโนโลยีการสื่อสารในบ้านเรามีเพิ่มต่อเนื่องตลอดเวลา ถึงขั้นเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต อีกทั้งยังมองไม่เห็นปัจจัยเชิงลบที่จะเข้ามากดดันที่เด่นชัด
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
Origin: กูรูชี้สื่อสาร-รับเหมามาแรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น