วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557

'สุรพงษ์' ยันอดีตนายกฯ ปู ไม่เลื่อน กลับไทย 11 ส.ค.นี้แน่

EyWwB5WU57MYnKOuFBohKY54Iy5Cj8BVDgERPBJu8YWidiSaSrUK0i'สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล' อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล้องวงจรปิด ยืนยัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับไทย 11 ส.ค.นี้ แน่นอน โต้กระแสข่าวลือ ไม่กลับไม่เป็นความจริง...



วันที่ 9 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหว ข่าวการเลื่อนกำหนดกลับประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า อาจจะขอเลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทยออกไปเป็นช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับเมืองไทยตามกำหนดแน่นอน ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่าจะเลื่อนกำหนดการนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้อยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย จึงคาดว่าน่าจะกลับประเทศไทยช่วงเช้าวันที่ 11สิงหาคม ตามกำหนดเดิม

ขณะที่ นายพิชิต ชื่นบาน ทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวดังกล่าว และถือเป็นเรื่องส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี.

ข่าว:sanook.com


Source: 'สุรพงษ์' ยันอดีตนายกฯ ปู ไม่เลื่อน กลับไทย 11 ส.ค.นี้แน่

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ถูกวางยาแต่มาแปลก

786924วันที่ 6 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) โดยระบุว่าโดนวางยาในน้ำมังคุด และฉันเข้าไปทำให้แสบท้องมากต้องกินน้ำตามเพื่อให้ขับถ่าย ใจความดังนี้ สิบนิ้วยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ฉันไม่สบายตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฉันว่าฉันก็พยายามระมัดระวังแล้วนะ ยังเสียท่าให้คนวางยาเอาจนได้ มาในรูปผสมกับน้ำมังคุด พอฉันเข้าไปเท่านั้นแหละคุณเอ๋ยยังกับโซดาไฟ มันร้อนตั้งแต่ลำคอจนถึงลำไส้ แต่ก็ยังทนนำปฏิบัติธรรมสวดมนต์จนเสร็จเพราะกลัวจะเสียฟอร์ม คืนนั้นทั้งคืนต้องหาวิธีขับถ่าย ดื่มน้ำหมดไป 2 โหล กล้องวงจรปิด พยายามทำให้ขี้ให้เยี่ยว ทั้งคืนแทบจะไม่ได้หลับ มันทรมานแสบร้อนกระเพาะลำไส้มากเท่ามาก ยังกับมีถ่านไฟแดง ๆลุกโชนอยู่ในท้อง ฉะนั้นต้องใช้วิชาทั้งหมดเท่าที่มีเอามาเป็นที่พึ่ง เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทรมาน เช้าขึ้นยังตะกายไปบิณฑบาต จัดรายการ แต่สิ่งที่ตามมาทีนี้ไข้จับ ฉันอะไรนิดอะไรหน่อยก็ท้องอืดแน่น ต้องอาศัยสมุนไพรเคลือบกระเพาะที่ตนทำ เพื่อบรรเทาความแสบร้อน ตามด้วยยาเคลือบกระเพาะน้ำขาว ต้องฉันทุก 2 ชั่วโมง

วันที่สอง ของการโดนวางยา แม้มีชีวิตรอด แต่แทบหมดแรงหมดสภาพ รักษาฟอร์มเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามสังขาร ไม่สามารถเดินบิณฑบาตได้ ทั้งไข้ ทั้งแสบกระเพาะลำไส้ ฉันอะไรนิดหน่อยก็อืด คงต้องใช้เวลาอีกหลายวัน กว่ากระเพาะลำไส้จะกลับคืนเข้าที่เข้าทาง ที่จริงมันก็น่าให้เขาวางยาหรอกนะ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมาใครๆก็อยากให้ฉันตาย โดยเฉพาะพวกทุรชนคนพาล เพราะฉันประกาศชัดเจนว่า จะต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม และเผอิญไอ้คนไม่ถูกต้องไม่เที่ยงธรรมมันดันมีเต็มบ้านเต็มเมือง คนชั่วคนพาลพวกนี้จึงได้เดือดเนื้อร้อนใจ ต้องการจะกำจัดผู้ขัดขวางผลประโยชน์ให้หมดไป ซึ่งก็ต้องโทษตัวฉันเอง ที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความชั่วร้ายใดๆ ชีวิตจึงตกอยู่ในการปองร้ายของคนพาลดังกล่าว ไม่ต้องห่วง ไม่มีครั้งที่สองแน่ ฉันจะไม่ยอมตายง่าย จนกว่าคนไทยทุกคนมีความสุข ประเทศชาติชนะ พระเจ้าอยู่หัวมีความสุข และมหาปณิธานของพระโพธิญาณจะบรรลุดังวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้

วันนี้ มีแขกมาเยี่ยมตอน 10 โมงเศษๆ นั่นคือคุณ สาทิต ปิตุเตชะ และคณะ คุยกันพอให้ระลึกถึง ก่อนจะกลับเลยฝากเตือนพรรคประชาธิปัตย์ไปว่า อย่าออกมาวิพากษ์ คสช.เขามากนัก ดูเขาไปก่อน แค่เขาเริ่มทำหรือพูดว่าจะทำก็พากันออกมาติติง ตำหนิ เช่นนี้ถือว่าไม่ควร สิ่งที่ควรคือต้องให้กำลังใจ ดูเขาทำ แต่ถ้าเห็นว่าอะไรไม่ถูกไม่ควร นั่นค่อยออกมาท้วงติง และก็ถือโอกาสพูดเตือนสติพรรคประชาธิปัตย์ไปว่า ความแตกต่างของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยของนายทักษิณ อยู่ที่เวลาใครช่วยพรรคเพื่อไทย นายทักษิณเขาจะไม่ทอดทิ้ง จะเทคแคร์ดูแลอย่างดี ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้นพอสมประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่ง และเลิกเล่นการเมืองแบบดีแต่พูด พูดเก่งพูดดีอย่างเดียว เวลาทำกลับล้มเหลว กล้องcctv ไม่เป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างแท้จริงอย่างที่อาสาเข้ามา อย่างนี้เลือกตั้งเมื่อไรก็แพ้อยู่วันยังค่ำ ให้แก้ไขเสีย เมื่อกล้าที่จะพูด ก็ต้องกล้าที่จะทำด้วย อย่าเอาแต่สร้างภาพ

ข่าว:dailynews.co.th

Source: ถูกวางยาแต่มาแปลก

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

แฮกเครื่องบินผ่าน Wi-Fi บนเครื่อง

thumb640x360_8313506902อะไรที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัวประมวลผลหรือควบคุมการทำงานก็มีโอกาสที่จะถูกแฮกได้

หนึ่ง กล้องวงจรปิด ในยานพาหนะที่คนไม่อยากให้โดนแฮกก็คือเครื่องบิน แต่ล่าสุดที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ชื่อว่า Ruben Santamarta สามารถค้นพบวิธีแฮกเครื่องบินผ่านบริการ Wi-Fi และระบบให้ความบันเทิงบนเครื่อง

วิธี การของ Santamarta จะช่วยให้แฮกเกอร์แทรกซึมเข้าสู่ระบบอิเลคทรอนิกส์สำหรับควบคุมอากาศยานและ การสื่อสาร (avionics systems) นั่นหมายความว่าพวกเหล่าร้ายมีโอกาสที่จะรบกวนระบบนำทาง, การสื่อสาร และระบบรักษาความปลอดภัย

Santamarta ได้ทำการทดสอบแนวคิดและวิธีการของเขาในสภาพแวดล้อมปิดในโรงงานแห่งนึงของ IOActive ที่เมืองมาดริด โดยใช้เครื่องบิน Aviation 700 ที่มีระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียมที่พัฒนาโดยบริษัท Cobham ซึ่งเค้าก็ประสบความสำเร็จในการแฮกเข้าสู่ระบบของเครื่องบิน แต่ทาง Cobham ก็ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าวิธีนี้จะใช้กับสถานการณ์จริงได้ผลรึเปล่าเพราะระบบ ของเครื่องที่ขายจริงจะอนุญาตให้เฉพาะคนที่ได้รับอนุญาต มีสิทธิ์เข้าถึงได้เท่านั้น

ถ้า ใครสนใจอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม Santamarta ก็จะนำข้อมูลมาเผยแพร่ในงาน BlackHat 2014 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ค่ะ การเผยแพร่นี้ก็เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันแก้ไขและวิธีป้องกัน ก่อนที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดค่ะ

ที่มา dailygizmo.tv



Source: แฮกเครื่องบินผ่าน Wi-Fi บนเครื่อง

'ปนัดดา'เผยตรวจข้าวแล้ว90%คาดเสร็จก.ย.

556626-01"ม.ล.ปนัดดา" เผย คณะทำงาน 100 ชุด ตรวจข้าวไปแล้ว 90% คาด แล้วเสร็จ ก.ย. ยัน ทำงานโปร่งใส


ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เช่าชุดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ เปิดเผยถึงกรณีการตรวจโกดังข้าวในพื้นที่ต่างๆ ว่า ขณะนี้ คณะทำงานที่ตั้งขึ้นทั้ง 100 ชุด ได้ลงพื้นที่ตรวจโกดังและไซโล ในจังหวัดต่างๆ ไปแล้วประมาณร้อยละ 90 จากการตรวจสอบทั่วประเทศกว่า 1,700 โกดัง และไซโลอีกกว่า 100 แห่ง ซึ่งในด้านปริมาณได้มีการตรวจนับและบันทึกข้อมูล แต่ในส่วนคุณภาพข้าวจะต้องส่งตัวอย่างข้าวในแต่ละโกดังไปตรวจในห้องปฏิบัติ การ จึงยังไม่สามารถสรุปผลได้ในขณะนี้ แต่คาดว่าผลการตรวจจะเสร็จในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้

ส่วนที่มีข้อ กังวลการตรวจสอบจะไม่ครอบคลุมนั้น ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ในการตรวจสอบโกดังแต่ละแห่ง ต้องใช้เวลา 1-2 วัน รวมทั้งมีการเก็บตัวอย่างข้าวในทุกโกดังเข้าตรวจ จึงยืนยันว่ากระบวนการตรวจสอบคณะทำงานได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส หากผลการตรวจสอบออกมาเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า มาตรฐานการจัดเก็บข้าวของโกดังต่างๆ ดีขึ้น

ข่าว:innnews.co.th


 

Source: 'ปนัดดา'เผยตรวจข้าวแล้ว90%คาดเสร็จก.ย.

'อุ้ม ลักขณา' ร้องกองปราบ ถูกกล่าวหาขายตัว

556609-01นักแสดงสาวทรงโต "อุ้ม ลักขณา" ร้องกองปราบ ถูกกล่าวหาขายตัวยัน กล้องวงจรปิด ไม่เป็นความเป็นจริง รู้ตัวคนติดต่อซื้อแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผย


น.ส.ลักขณา วัธนวงส์ศิริ หรือ อุ้ม ดารานักแสดง เดินทางเข้าร้องทุกต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราบ หลังถูกกล่าวหาว่าตนขายตัว รวมทั้งมีเอเย่นต์อ้างว่าสามารถติดต่อซื้อบริการจากดาราสาวได้ และเมื่อวานที่ผ่านมามีบุคคลติดต่อผ่านไลน์ส่วนตัว เพื่อขอซื้อบริการในราคา 150,000-200,000 บาท ซึ่งทางดารารสาวยื่นยันว่าไม่เคยทำงานในลักษณะดังกล่าว พร้อมยอมรับว่าขณะนี้สามารถทราบถึงตัวคนติดต่อขอซื้อแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล

ด้าน นายอภิชาติ จึงวิวัฒนวงศ์ อายุ 49 ปี บิดา กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ พร้อมท้าหากมีหลักฐานว่า ดาราสาวขายตัวและค้าประเวณีจริงให้เอาออกมาโชว์ ทางครอบครัวพร้อมจะออกวงการ

ขณะที่ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ ผกก.กองปราบปราม ได้รับเรื่องไว้พร้อมกล่าวว่า ตามหลักฐานนั้นไม่น่ายากในการติดตามจับกุมตัว แต่จะต้องดูรายละเอียดของหลักฐานอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ข่าว:innnews.co.th

Source: 'อุ้ม ลักขณา' ร้องกองปราบ ถูกกล่าวหาขายตัว

ประเภทของเลนส์กล้องวงจรปิด

ประเภทของเลนส์กล้องวงจรปิด


เลนส์ของกล้องวงจรปิดมีความสำคัญมากในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด เพราะเลนส์ของกล้องวงจรปิดนั้น มีหลายขนาดให้เลือก และภาพที่ออกมาในแต่ละเลนส์จะไม่เหมือนกัน ถ้าเลือกเลนส์ที่มีมิลลิเมตร(millimeter.)น้อยจะเน้นมุมภาพกว้างมากกว่าภาพลึก แต่ถ้าเลือกเลนส์ที่มีมิลลิเมตร(millimeter.)มากความกว้างของมุมภาพก็จะแคบแต่ความลึกของภาพจะชัดมากกว่า ซึ่งในปัจจุบันเลนส์ของกล้องวงจรปิดที่ใช้กันทั่วไป คือ 3.5 millimeter , 4 millimeter , 6 millimeter , 8 millimeter , 12 millimeter และ 16 millimeter ซึ่งกล้องวงจรปิดแต่ละรุ่นสามารถปรับเปลี่ยนเลนส์ตามความเหมาะสมได้ ดังนั้น เลนส์ของกล้องวงจรปิดสามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือ


1. เลนส์แบบ Chemical-Mount จะมีความยาวจากช่วงท้ายเลนส์ถึงหน้าตัวรับภาพอยู่ที่ 17.5 millimeter. ในเรื่องของข้อต่อเลนส์กับกล้องนั้น เลนส์แบบ Chemical-Mount ควรจะใช้ข้อต่อแบบ Chemical-Mount แบบเดียวกันจะเหมาะที่สุด


2. เลนส์แบบ CS-Mount จะมีความยาวจากช่วงท้ายเลนส์ถึงหน้าตัวรับภาพอยู่ที่ 12.5 millimeter. ถ้าเอาข้อต่อแบบ Chemical-Mount มาใช้ในการต่อแบบ CS-Mount อาจจะทำให้ภาพเกิดความเสียหายได้ เพราะความยาวของเลนส์กล้องแบบ Chemical-Mount จะมีความยาวมากกว่าแบบ CS-Mount ดังนั้น ควรจะใช้ข้อต่อแบบ CS-Mount แบบเดียวกันมากกว่า


นอกจากนั้นในเรื่องของการรับรู้แสง (Aperture) และเปิด-ปิดม่านรับแสง (Eye)  ของเลนส์ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้


1. เลนส์แบบเปิด-ปิด ด้วยมือ (Guidebook Eye) คือ การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของแสง เพื่อให้รูของการรับแสงเปลี่ยนไป ด้วยการใช้มือหมุนในส่วนของวงแหวนปรับม่านแสงที่ตัวเลนส์ ยิ่งปรับที่ตัวเลขน้อยรูม่านแสงก็จะเพื่มขึ้น ในทางกลับกันถ้าปรับไปที่ตัวเลขมากรูม่านแสงก็จะน้อยลง


2. เลนส์แบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ (Auto-Eye) คือ การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของแสงแบบอัตโนมัติร่วมกับการทำงานของกล้องวงจรปิด โดยในกล้องวงจรปิดจะมีตัวจ่ายไฟฟ้าให้เลนส์ทำงานแบบอัตโนมัติอยู่

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

โมบาย-แอพ-ดาต้า สูตรสำเร็จธุรกิจยุคใหม่

news_img_586375_1ผู้บริหารด้านไอทีและผู้บริหารขององค์กรต้องกำหนดว่าใครจะทำหน้าที่อะไรในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อพัฒนาไปสู่องค์กรดิจิทัล


อคเซนเชอร์ เผยความนิยมอุปกรณ์โมบาย กล้องวงจรปิดดันให้แอพพลิเคชั่นเกิด เพิ่ม ส่งผล "ข้อมูล" ด้านต่างๆ มีปริมาณมากขึ้น ท้าทายองค์กรธุรกิจดึงประโยชน์จากข้อมูล ประยุกต์ใช้เพิ่มขีดแข่งขันให้องค์กร พร้อมชี้เทรนด์สำคัญ ดันองค์กรขนาดใหญ่เปลี่ยนบทบาทสู่ผู้นำเทคโนโลยี เสริมศักยภาพธุรกิจยุคใหม่

นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า ความแพร่หลายของการใช้อุปกรณ์โมบาย ไม่เฉพาะแค่สมาร์ทโฟน หรือแทบเล็ต แต่ปัจจุบันอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสวมใส่ ทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องหันมาใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ครีเอทกลยุทธ์ใหม่ๆ

ทั้งนี้ เอคเซนเจอร์เผยเทรนด์เทคโนโลยีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความนิยมของโมบาย แอพพลิเคชั่น และข้อมูลที่มหาศาล ผ่านงานวิจัย "วิสัยทัศน์ด้านเทคโนโลยี 2557" ที่ส่งผลให้กิจการขนาดใหญ่ขยายพรมแดนความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมให้กว้างไกล กว่าเดิม และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสร้างความสามารถในการแข่งขัน

งานวิจัยนี้ พบว่า กิจการชั้นนำต่างนำกลยุทธ์ด้านดิจิทัล เช่น ระบบโมบิลิตี้ ระบบวิเคราะห์ข้อมูล และระบบคลาวด์ มาใช้พัฒนาระบบการทำงาน นำข้อมูลแบบเรียลไทม์มาใช้ประโยชน์ ขยายขีดความสามารถของบุคลากร รวมทั้งปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการและใช้ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ

พลิกโฉมสู่องค์กรดิจิทัล

ขณะที่ บริษัทขนาดใหญ่ซึ่งมีความพร้อมด้านทรัพยากร ด้านขนาด และต้องการเปลี่ยนโฉมองค์กรไปสู่องค์กรดิจิทัลได้หันมามีบทบาทนำในตลาดอีก ครั้ง โดยกิจการเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขับเคลื่อนกระบวนการทำงานให้มี ประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับวิธีการทำตลาด ทำงานร่วมกับพันธมิตร สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า และการจัดการธุรกรรมต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

"เทคโนโลยีดิจิทัลแทรกซึมเข้าไปอยู่ในส่วนต่างๆ ของดีเอ็นเอระบบการทำงานขององค์กรทุกส่วน ส่งผลให้องค์กรเหล่านี้พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่มีอิทธิพลในการเปลี่ยนแปลง ด้านดิจิทัลในอนาคต"

สำหรับเทรนด์เทคโนโลยี ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในบทบาทเทคโนโลยีดิจิทัลในมุมของเอคเซนเจอร์ เช่น เส้นแบ่งระหว่างโลกดิจิทัลและโลกจริงหายไป (Digital-Physical Blur) เพิ่มความอัจฉริยะให้ทุกสิ่ง มาจากอุปกรณ์พกพา ระบบอัจฉริยะ และเครื่องมือต่างๆ ที่ให้คนเข้าถึงข้อมูลเรียลไทม์ เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิต รวมถึงการดำเนินธุรกิจขององค์กร

สู่องค์กรธุรกิจไร้พรมแดน

การเชื่อมโยงในส่วนต่างๆ เหล่านี้ช่วยเพิ่มศักยภาพของบุคลากร ทำให้ระบบทำงานอย่างอัตโนมัติ องค์กรก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่เป็นประโยชน์ โดยพนักงานและอุปกรณ์ต่างๆ สามารถตอบสนองต่อเกือบทุกสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

เปลี่ยนจากการใช้บุคลากรภายในสู่การระดมสมองจากบุคคลภายนอก เข้าสู่ยุคองค์กรไร้พรมแดนกลุ่มคนที่ทำงานร่วมกัน ไม่ใช่เพียงพนักงานของบริษัท แต่ประกอบไปด้วยใครก็ได้ที่ใช้อินเทอร์เน็ต การเข้าถึงเครือข่ายของคนทำงานที่มีขนาดใหญ่และคล่องตัว ซึ่งไม่เพียงแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ยากๆ บางเรื่องได้ แต่หลายครั้ง กลุ่มคนทำงานเหล่านั้นก็พร้อมร่วมช่วยเหลือกันโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

อีกเทรนด์สำคัญ คือ การสร้างซัพพลายเชนสำหรับข้อมูล ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการข้อมูล เพื่อให้กระจายข้อมูลได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึงยิ่งขึ้น เทคโนโลยีข้อมูลพัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่ส่วนใหญ่นำมาใช้งานเพียงเล็กน้อย ส่งผลให้ข้อมูลขององค์กรนำมาใช้ประโยชน์น้อยเกินควร

ทั้งนี้ มีองค์กรเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่บูรณาการข้อมูลเข้าไว้ด้วยกันทั่วทั้งองค์กร ดังนั้น บริษัทต่างๆ จึงต้องเริ่มดูแลข้อมูลให้เหมือนกับเป็นระบบห่วงโซ่หรือซัพพลายเชน โดยให้ข้อมูลกระจายทั่วทั้งองค์กรและในระบบที่เกี่ยวข้องส่วนอื่นด้วย

จับตาแอพพลิเคชั่นองค์กรแรง

เทรนด์ที่สำคัญ และเป็นที่จับตามองมาก คือ การเข้าสู่ยุคของแอพพลิเคชั่น องค์กรปัจจุบันนำแอพพลิเคชั่นมาใช้เพื่อให้การดำเนินงานคล่องตัวขึ้น ในงานวิจัยของเอคเซนเชอร์ชี้ว่า 54% ของทีมไอทีที่มีผลงานโดดเด่นต่างนำแอพพลิเคชั่นองค์กรมาใช้ และเพื่อช่วยให้พนักงานเปลี่ยนมาใช้แอพพลิเคชั่นโมดูลที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน

"ผู้บริหารด้านไอทีและผู้บริหารขององค์กรต้องกำหนดว่าใครจะทำหน้าที่อะไรในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อพัฒนาไปสู่องค์กรดิจิทัล เพราะแรงกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดมาจากองค์กรเอง นอกจากนี้ องค์กรต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้วย ตัวเอง เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว สนับสนุนการทำงานของซอฟต์แวร์ และเร่งสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจในที่สุด"

เขากล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน องค์กรธุรกิจทั่วโลกมากกว่า 54% มีแอพพลิเคชั่นที่สำหรับใช้ภายในองค์กร เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการภายในองค์กร

 

Source: โมบาย-แอพ-ดาต้า สูตรสำเร็จธุรกิจยุคใหม่