วันจันทร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2557
มือฆ่าหั่นศพรับลงมือจริงทนายโต้ป่วยทางจิต
กรมสรรพสามิตพร้อมจัดเก็บภาษีสลากฯ
ทั้งนี้ แนวคิดการจัดเก็บภาษีดังกล่าวสศค.ยังไม่ได้เรียกให้กรมสรรพสามิตเข้าไปหารือ อย่างเป็นทางการกล้องไอพี เพราะคงต้องรอการพิจารณาของฝ่ายนโยบายว่าจะดำเนินการทันทีหรือไม่เนื่องจาก ภาษีดังกล่าวได้ยกเว้นภาษีมาเป็นเวลานานแล้ว หากจะให้กรมสรรพสามิตเข้าไปจัดเก็บภาษีก็พร้อมที่จะดำเนินการได้ทันทีเพราะ ที่ผ่านมาก็มีแนวทางในการจัดเก็บไว้อยู่แล้ว ซึ่งตามกฎหมายของกรมฯได้กำหนดเพดานการจัดเก็บภาษีสลากฯ ไว้ที่ไม่เกิน 20% แต่จะเริ่มเก็บในอัตราเท่าใดนั้นคงต้องพิจารณาจากปัจจัยหลาย ๆอย่าง ที่อาจเก็บเป็นขั้นบันไดอาจเริ่มที่ 5%, 10% และ 20% เป็นลำดับ
อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสลากฯจะทำให้รัฐบาลมีรายได้โดยตรงจากการขายสลาก ทันทีและลดการมอมเมาประชาชนในการซื้อสลากฯ ลง ถือเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการแก้ไขปัญหาสลากฯขายเกินราคา ที่ทำให้คนซื้อตัดสินใจซื้อยากขึ้น ส่งผลให้ราคาสลากฯในแต่ละงวดไม่ขายในราคาที่สูงเกินไปแต่ที่ที่ผ่านมาไม่ได้ จัดเก็บภาษีดังกล่าว เพียงแต่ค่าอากรแสตมป์ค่าภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย จากผู้ที่ถูกรางวัลเท่านั้น
นายสมหมายภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า การจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสลากฯ เป็นแนวคิดที่ประธานคณะกรรมการสลากฯเสนอให้ สศค.พิจารณาถึงการจัดเก็บภาษีและรายได้นำส่งเข้ารัฐซึ่งยังไม่ได้รับการ รายงานจาก สศค. อย่างเป็นทางการ ว่าจะดำเนินการได้อย่างไรและมีแนวทางไหนบ้างแต่ขณะนี้ยังมีหลายเรื่องที่ ต้องดำเนินการก่อน โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
แหล่งที่มา : เดลินิวส์
วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2557
คนไทยนับร้อย ตกนรกในอินโด
แม้ไทยจะมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่องมาหลายรัฐบาล แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จอย่างจริงจัง เนื่องจากกฎหมายที่อ่อนแอไม่มีความเด็ดขาด ทำให้ประเทศไทยถูกกลุ่มประเทศอียู และสหรัฐอเมริกา ประกาศให้เป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่มีสถานการณ์การค้ามนุษย์ในระดับเลวร้ายที่สุด ทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะต้องเร่งทำให้เสร็จก่อนประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนในปี 2558
ล่าสุด สถานการณ์ค้ามนุษย์ในประเทศไทยก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ “นรกบนดิน” ที่มีการเชื่อมโยงด้วยขบวนการของคนใจทมิฬ จนกลายเป็น “นรกกลางทะเล” ถูกเปิดเผยอีกครั้ง ภายหลังจากที่สื่อในเครือ “ไทยรัฐ” ประกอบด้วย ทีมข่าวไทยรัฐทีวี ไทยรัฐออนไลน์และหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้รับการประสานจากกลุ่มแรงงานไทยที่ถูกหลอกไปทำงานคนอวนในเรือประมงไทย ที่ได้รับอนุญาตให้เรือประมงเข้าไปทําการประมงในน่านน้ำบริเวณทะเลอาราฟูร่า (เขตอิเรียนจายา) เขตเศรษฐกิจจำเพาะของอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ว่ายังมีคนไทยจำนวนมาก ถูกหลอกมาใช้งานให้เป็น “แรงงานทาสผิดกฎหมาย” บนเรือประมงไทย ที่จับปลาในทะเลอาราฟูร่า บริเวณตั้งแต่เส้นแวง 130 องศาตะวันออก ไปจนสุดเขตเศรษฐกิจจําเพาะ 200 ไมล์ทะเล และในบริเวณทะเลจีนใต้ (บริเวณหมู่เกาะนาทูน่า) ตั้งแต่เส้นรุ้ง 3 องศาเหนือ ไปจนสุดเขตเศรษฐกิจจําเพาะ 200 ไมล์ทะเล โดยที่ไม่มีสิทธิกลับประเทศไทย ติดต่อญาติพี่น้องก็ไม่ได้ ถูกบังคับปิดกั้นทุกอย่าง ต้องอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านประมงในเขตท่าเรือของเมืองอัมบล ตวล เบนจิน่า และเมอร์รูเก้ แถบหมู่ เกาะโมลุกกะ ของประเทศอินโดนีเซีย ทำให้เหมือนกับเป็นคนหายสาบสูญเพราะไม่สามารถติดต่อใครได้
นายสมหมาย จิราภักดี ชาวจังหวัดนครราชสีมา หนึ่งในคนงานเรือประมงชาวไทยที่ถูกหลอกมาทำงาน อยู่ในเมืองอัมบล เกาะอัมบล อินโดนีเซีย มีชีวิตอยู่เหมือนตายทั้งเป็น เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐทีวีว่า ถูกคนไทยด้วยกันหลอกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต) เมื่อปี 2552 นำตัวไปกักขังไว้ในบ้านแห่งหนึ่งที่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน แล้วพาลงเรือโดยถูกหักค่าหัว 30,000 บาท เดินทางไปประเทศอินโดนีเซีย ถูกใช้งานให้เป็น “แรงงานทาสผิดกฎหมาย” อยู่บนเรือเป็นปีๆ ไม่ได้เหยียบพื้นดิน แม้ร่างกายจะเจ็บป่วยขนาดไหน จะเหนื่อยยังไงก็ต้องทำงาน เพราะถ้าหยุดนายจ้างก็ไม่ให้กินข้าว
“จากบ้านเกิดมา 5 ปี ยังไม่ได้กลับ ติดต่อใครก็ไม่ได้ ถูกบังคับปิดกั้นทุกอย่าง วันนี้พ่อแม่ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่ วันที่ถูกนำตัวขึ้นเรือนั้น พบว่ามีคนไทยถูกหลอกมาร่วมชะตากรรมเดียวกันอีก 40 คน แต่วันนี้ยังมีคนไทยตกเป็นแรงงานทาสอีกหลายร้อยคน ที่ไม่สามารถกลับออกจากขุมนรกกลางทะเลได้ ติดต่อหรือบอกใครก็ไม่ได้ จะมีใครรู้หรือไม่ว่ายังมีคนไทยถูกกดขี่เยี่ยงทาสอย่างผิดกฎหมายอยู่บนโลกใบนี้ และที่สำคัญ พวกเขาถูกหลอกจาก ‘คนไทย’ ด้วยกันเอง” นายสมหมายกล่าว
เหยื่อการค้ามนุษย์อีกรายที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ คือ นายเสาร์ ปัญญาวัน อดีตลูกเรือประมงไทยที่ถูกหลอกไปขายแรงงานในเรือประมงไทยในน่านน้ำอินโดนีเซีย เป็นเวลากว่า 3 ปี กล่าวว่า เป็นคนจังหวัดสกลนคร เดินทางออกจากบ้านมุ่งหน้ามาหางานทำที่กรุงเทพมหานคร เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2553 หวังมาสร้างฐานะให้มั่นคง หลังเลิกรากับภรรยา โดยทิ้งแม่และลูกสาวไว้ที่บ้าน ทันทีที่รถโดยสารเข้าจอดที่สถานีขนส่งหมอชิต ก็มีชายรูปร่างผอมเข้ามาพูดคุยเป็นภาษาอีสาน ชักชวนไปทำงานเป็นกุ๊กบนเรือ เมื่อตอบตกลงก็ถูกพาไปพักที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร เมื่อถึงบ้านหลังดังกล่าว ก็มีชายอีกคนนำเสื้อผ้าและอาหารแห้ง พร้อมเอกสารคล้ายพาสปอร์ตมามอบให้กล้องไอพี รายละเอียดภายในพาสปอร์ตนอกจากรูปที่เป็นของนายตน ส่วนชื่อและที่อยู่กลับเป็นของชายคนอื่นที่ไม่รู้จัก แค่เพียงชั่วอึดใจก็มีรถเข้ามารับตัว ตนและเพื่อนร่วมชะตากรรมทั้งชาวไทย ชาวพม่ากว่าอีก 10 ชีวิต ไปขึ้นเรือขนส่งปลาที่ท่ามหาชัย โดยตนและเพื่อนต้องหลบอยู่ในห้องใต้ท้องเรือประมงเป็นเวลานับเกือบ 10 วัน ก่อนจะถูกโอนถ่ายไปยังเรือประมงอีกลำหนึ่ง ซึ่งเป็นเรือของคนไทย
นายเสาร์กล่าวอีกว่า การทำงานบนเรือ ลูกเรือประมงแต่ละคนจะมีเวลาพักเพียงแค่ 3 ชั่วโมงต่อวัน แลกกับค่าตอบแทนเดือนละ 5 แสนรูเปียะ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500บาท โดย 6 เดือนแรกที่ทำงาน จะเป็นการทำงานใช้หนี้ให้กับไต้ก๋งเรือ หากคนไหนไม่ทำงาน หรือทำงานไม่ไหวก็จะถูกทำร้าย ส่วนคนที่บ่นอยากกลับบ้าน หรือเกิดป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ เช้าวันรุ่งขึ้นก็จะหายสาบสูญโดยไม่ทราบสาเหตุ ทนใช้ชีวิตเป็นลูกเรือประมงอย่างนี้นานกว่า 3 ปี ก่อนตัดสินใจหลบหนีออกมาใช้ชีวิตบนเกาะอัมบล อย่างหลบๆ ซ่อนๆ นานกว่า 3 เดือน พยายามติดต่อกับลูกเรือประมงลำอื่นๆ เพื่อให้ช่วยพากลับบ้านเกิด ด้วยวิธีใดก็ได้ โดยนายเสาร์ยอมนำเงินเก็บจำนวน 4 ล้านรูเปีย หรือคิดเป็นเงินไทย 12,000 บาท มอบให้เป็นค่าตอบแทน วันนี้แม้จะเดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่ยังคงเป็นห่วงเพื่อร่วมชะตากรรมอันโหดร้าย ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับการเป็นทาสเรือประมงโดยไม่มีวันรู้ว่าจะกลับมาบ้านเกิดได้เมื่อไร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พบว่า มีเรือประมงไทยเข้าไปทําการประมงอย่างถูกต้อง ในน่านนํ้าอินโดนีเซียประมาณ 309 ลํา โดยทําการประมงในบริเวณทะเลอาราฟูรา (เขตอิเรียนจายา) เรือที่ทําประมงเป็นเรือประมงขนาดกลางและใหญ่มีห้องเย็นบนเรือ จับปลาในบริเวณตั้งแต่เส้นแวง 130 องศาตะวันออก ไปจนสุดเขตเศรษฐกิจจําเพาะ 200 ไมล์ทะเล อัตราค่าใบอนุญาต 167 เหรียญสหรัฐฯ/ตันกรอส/ปี สัตว์นํ้าที่จับได้นำขึ้นท่าที่เมืองอัมบล ตวล เบนจินา เมอร์รูเกและเรือประมงอีกส่วนหนึ่งทําการประมงในบริเวณทะเลจีนใต้ (บริเวณหมู่เกาะนาทูนา) ตั้งแต่เส้นรุ้ง 3 องศาเหนือ ไปจนสุดเขตเศรษฐกิจจําเพาะ 200 ไมล์ทะเล เป็นเรือประมงขนาดเล็กและขนาดกลาง เป็นเรือน้ำแข็ง อัตราค่าใบอนุญาต 155 เหรียญสหรัฐฯ/ตันกรอส/ปี ระเบียบกำหนดว่าจะต้องนำสัตว์นํ้าที่จับได้มาขึ้นท่าที่เมืองทาเล็มปา ตันจูง และปีนัง เรือประมงที่เข้าไปทําการประมงในน่านน้ำอินโดนีเซียส่วนใหญ่เป็นเรืออวนลาก ประมาณ 90% ที่เหลือเป็นเรืออวนล้อมและเรืออวนลอย
เย็นวันเดียวกัน นางสุพจน์ สุขเอี่ยม อายุ 48 ปี ทำงานอยู่บริษัทแพลนเน็ตจำกัด อยู่บ้านเลขที่ 147/1 หมู่ 10 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี เข้าแจ้ง พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผกก.สภ.เกาะจันทร์ ว่า นายสมชาย สุขเอี่ยม อายุ 33 ปี ลูกชายได้หายออกจากบ้านไปเมื่อ พ.ศ. 2547 เมื่อสอบถามเพื่อนลูกชายคนหนึ่งบอกว่าไปทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์อยู่แถวหมอชิต กทม. ได้ออกติดตามหาก็ไม่พบ คิดว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่ได้แจ้งความไว้ จนมีทีมงานนักข่าวไทยรัฐมาแจ้งให้ตนทราบเบาะแสของลูกชายว่าถูกหลอกไปเป็นแรงงานประมง ติดอยู่ที่เกาะอำบล ประเทศอินโดนีเซีย จึงเข้าแจ้งตำรวจขอให้รัฐบาลช่วยลูกชายกลับบ้านด้วย
แหล่งที่มา : ไทยรัฐ
Source: คนไทยนับร้อย ตกนรกในอินโด
จ่อฟ้องเอาผิดพ่อแม่ นศ.อุเทน
นำ 6 นักศึกษาอุเทนถวาย ใจเหี้ยมแถลงข่าวคดีไล่ฆ่าอุกอาจ 3 ศพ สางแค้นให้เพื่อนสาว สารภาพระบายความอัดอั้น เป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอด ทว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม รับติดตั้งกล้องcctv โยนผิดตำรวจหากจับได้เร็วกว่านี้เหตุการณ์อาจไม่ได้เป็นอย่างนี้ ขณะที่พ่อเหยื่อสุดแค้นเสียลูกชายคนเดียว จ่อฟ้องเอาผิดผู้ปกครองเป็นกรณีตัวอย่างด้วย “บิ๊กตู่” คำรามลั่น ต่อไปนี้หากตีกันโรงเรียนไหน ปิดโรงเรียนนั้นทันที ส่วนเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาเรียกผู้บริหาร 2 สถาบันดังถกเครียด วางมาตรการลดความร้อนระอุที่ยืดเยื้อมายาวนานศึกสถาบันช่างกลกลางกรุงที่ยืดเยื้อกันมานานนับสิบปี สังเวยเหยื่อผู้บริสุทธิ์ที่ถูกไล่ฆ่าอย่างโหดเหี้ยมหลายศพ แต่อุณหภูมิร้อนระอุของความบาดหมางกลับไม่มีทีท่าลดลง ล่าสุดมือปืนประกบยิงนายพลวัต จันทร์วิเศษ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เสียชีวิตพร้อมนายชิษณุพงศ์ ศรีคชา อายุ 18 ปี เพื่อนร่วมสถาบัน ตายกลางถนนเทอดดำริ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ก่อนที่ตำรวจสืบสวนนครบาลจะแกะรอยรวบทีมสังหารเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย คู่แค้นต่างสถาบันถึง 6 คน ยอมรับสารภาพตระเวนเด็ดหัวเหยื่อเพื่อสางแค้นแทนเพื่อนสาวที่ถูกยิงตาย
ที่ บช.น. เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 ก.ย. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.สยศ.ตร. รรท.ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรถพร สุริยเลิศ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณรงฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก นำผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ไปแถลงข่าว ประกอบด้วย นายกบินทร์ หรือเอฟ หรือบินทร์ จิโรจน์มนตรี อายุ 20 ปี มือปืน นายปัญญา หรือโต้ง เขมวัชรเลิศ อายุ 20 ปี คนขี่รถ จยย. นายอรรถพล หรือต้น ยี่แม่นยิง อายุ 20 ปี คนชี้เป้า นายจิรายุทธ หรือไอซ์ สุวรรณโชติ อายุ 20 ปี คนชี้เป้า นายจิตรดิลก หรือเน็ต อุ้มชู อายุ 21 ปี หน้าที่ดูเหยื่อว่าเสียชีวิตหรือไม่ และนายณัฐกร หรือณัฐ กรรมแต่ง อายุ 23 ปี คนวางแผนและจัดหาอาวุธปืน ล้วนแล้วแต่เป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมก่อสร้างโยธา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
สอบสวนทั้งหมดรับว่ามูลเหตุจูงใจเป็นกระทำการเพื่อล้างแค้นให้ น.ส.กันต์กนิษฐ์ พรหมแก้ว อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนขี่รถ จยย. ใช้ปืนกราดยิงเสียชีวิตตรงป้ายรถโดยสารหน้าโอสถศาลา คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตรงข้ามห้างมาบุญครอง ถนนพญาไท เขตปทุมวัน กทม. เมื่อวันที่ 26 ส.ค.57 จึงตระเวนออกล่าอริต่างสถาบัน เริ่มต้นยิงนายพชร กัมพลาศิริ อายุ 20 ปี นักศึกษาปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ช่างกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพเสียชีวิตในซอยรามคำแหง 107 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเรียนอยู่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ต่อมาร่วมกันยิงนายพลวัต จันทร์วิเศษ อายุ 21 ปี และนายชิษณุพงศ์ ศรีคชา อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันเสียชีวิตทั้งคู่ บริเวณถนนเทอดดำริ ตรงข้ามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ ท้องที่ สน.เตาปูนนายกบินทร์ หรือเอฟ จิโรจน์มนตรี มือปืน ระบายความในใจว่า ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่พวกตนเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำมาโดยตลอด ข่าวบางข่าวก็ไม่ได้ถูกตีแผ่ออกมาอย่างชัดเจน เพื่อนตนเสียชีวิตก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร น.ส. กันต์กนิษฐ์ไม่ใช่คนเลวร้าย มิหนำซ้ำเป็นผู้หญิงด้วย ปัจจุบันคนร้ายยังลอยนวลอยู่ในสังคม นอกจากนี้ยังมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเพื่อนและพี่น้องไม่มีคดีไหนที่ จับคนร้ายได้สักราย อยากจะขอฝากตรงจุดนี้ ตนเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำเท่าที่จะทำได้ อยากให้ทุกคนรับรู้ความรู้สึกของพวกตนบ้าง ถ้าจับคนร้ายไวกว่านี้เหตุการณ์อาจจะไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้
ต่อมาเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.หัวหมาก คุมตัวนายกบินทร์ หรือเอฟ จิโรจน์มนตรี นายปัญญา หรือโต้ง เขมวัชรเลิศ และนายอรรถพล หรือต้น ยี่แม่นยิง ผู้ต้องหาที่ร่วมกันยิงนายพชร กัมพลาศิริ อายุ 21 ปี นักศึกษาปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ช่างกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทั้งหมด 10 จุด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ตั้งแต่ปากซอยรามคำแหง 103 ที่นัดหมายก่อนลงมือสังหารเหยื่อ ซอยรามคำแหง 107 หรือซอยวัดศรีบุญเรือง รวมถึงเส้นทางหลบหนีไปยังบ้านของนายกบินทร์ย่านรามอินทรา ท่ามกลางประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก รวมถึงญาติและเพื่อนร่วมสถาบันของผู้ตายจนตำรวจต้องดูแลรักษาความปลอดภัย อย่างเข้มงวดนายกำพล กัมพลาศิริ อายุ 50 ปี พ่อของเหยื่อนักศึกษาใจเหี้ยมเผยว่า รู้สึกเสียใจ และโกรธแค้นมาก ถ้าเป็นไปได้อยากทำร้ายผู้ต้องหาเสียตอนนี้เลยเพื่อชดใช้ให้ลูกชายเพียงคน เดียว ส่วนตัวแล้ว ไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นการยิงผิดตัว และขอให้การเสียชีวิตของลูกตนเป็นกรณีเริ่มต้นการแก้ปัญหานักเรียนตีกัน อย่างจริงจัง พร้อมทั้งวอนให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลานของตัวเองให้ดี สอดส่องดูแล ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย แค่เพียงส่งลูกหลานไปเรียน นอก จากนี้ ตนยังจะปรึกษาทนายความเพื่อเรียกร้องทางแพ่ง เอาผิดกับทางผู้ปกครองของผู้ต้องหาเป็นกรณีตัวอย่างให้ผู้ปกครองผู้ต้องหา รับรู้ว่า ถ้าดูแลบุตรหลานไม่ดี ก่อให้เกิดความสูญเสียกับครอบครัวคนอื่นจะเป็นอย่างไร
หลังจากนั้น พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผกก. สน.เตาปูน นำนายกบินทร์ จิโรจน์มนตรี และนายปัญญา เขมวัชรเลิศ ไปทำแผนต่อที่จุดประกบยิง 2 นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันบริเวณท้องที่ สน.เตาปูน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก่อนจะส่งตัว ผู้ต้องหาทั้งหมดให้ สน.หัวหมาก ไปควบคุมขณะที่ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.รรท.ผบก.น.6 พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน สนธิกำลัง บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.6 เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ. สันติบาล และเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด พล.ม.2 รอ. เข้าตรวจค้นอาวุธภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถนนพญาไท แขวงและเขตปทุมวัน กทม. พบสิ่งผิดกฎหมายจำนวนมาก อาทิ มีด อุปกรณ์การเล่นการพนันไฮโล ไพ่ อุปกรณ์เสพยาเสพติดที่ถูกซุกซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานห้องน้ำตามตัวอาคาร รวมถึงบ้านพักของภารโรง ควบคุมตัวนักศึกษา 4 ราย ไปยัง สน.ปทุมวัน เพื่อถ่ายรูปทำประวัติไว้ พร้อมทั้งเชิญผู้ปกครองและอาจารย์ฝ่ายปกครองเข้ารับทราบถึงพฤติกรรมก่อน ปล่อยตัวไป ขณะที่กำลังอีกชุดยังเข้าตรวจค้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม.พบมีดปลายแหลม 3 เล่ม คัตเตอร์ 3 อัน ขวาน 1 ด้าม ประทัดยักษ์ 6 ลูก และกระสุนปืน .22 จำนวน 1 นัด โดยมี รศ.ปัญญา มินยง อธิการบดีให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ส่วนที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวระหว่างเป็นประธานประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลแก่ผู้บริหารระดับสูงตอน หนึ่งว่า เรื่องปัญหาเด็กนักเรียนตีกัน ก็ไม่กลัวกฎอัยการศึกกันสักคนเลย ตนเป็นห่วงเหมือนกัน ประกาศไปเลยว่า ต่อไปนี้ตีกันโรงเรียนไหน ปิดโรงเรียนนั้น ปิดแผนกนั้น ปิดคณะนั้น ฝ่ายไหนตีก่อนสั่งปิดก่อนชั่วคราวจนกว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริง ฉะนั้นต้องไปหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้พวกแกนนำพวกรุ่นพี่รุ่นน้องคืนสู่เหย้า พอสักที เลิกกัน ให้อภัยกัน ไม่อย่างนั้น ต้องถูกดำเนินคดีหมด โรงเรียนต้องถูกปิด “วันนี้ถึงประกาศมาตรการไปก็ไม่เกิดผลหรอก ถ้าไม่เอาจริงเอาจัง นอกจากนี้ เรื่องเด็กวัยรุ่นไม่มีงานทำ พวกเด็กแว้น เด็กติดยา ขอทาน ค้าขายสิ่งผิดกฎหมาย เรื่องนี้ต้องแก้ไข” พล.อ.ประยุทธ์กล่าวที่ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สายวันเดียวกัน นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เชิญนายปัญญา มินยง อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และนายสืบพงษ์ ม่วงชู รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เพื่อหาทางยุติปัญหาการทะเลาะวิวาทระหว่างนักศึกษา 2 สถาบันดังใช้เวลาหารือ 1 ชั่วโมงเศษ นพ.กำจร เผยผลการหารือว่า ได้ให้ทั้ง 2 สถาบันทำบันทึกเหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งให้สำนักงานคณะกรรมการ การอุดมศึกษาอีกครั้ง ฝ่ายอุเทนถวายรายงานว่า เป็นเพราะศิษย์เก่าที่เป็นรุ่นพี่เข้ามายุยงรุ่นน้องให้ก่อเหตุ ขณะที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวันมีมาตรการที่ชัดเจนว่า ห้ามรุ่นพี่เข้ามาในบริเวณสถาบันโดยเด็ดขาด ทั้งการรับนักศึกษาก็จะไม่รับนักเรียนที่จบจากโรงเรียนที่มีปัญหาทะเลาะ วิวาทเน้นรับนักเรียนจากต่างจังหวัดมากขึ้นก็พบว่าได้ผล เพราะไม่ใช่นักศึกษาที่มาจากสถาบันที่เป็นคู่อริกัน จึงมอบนโยบายให้อุเทนถวายกำหนดมาตรการห้ามบุคคลภายนอกเข้าสถาบันอย่างเด็ด ขาดเช่นกัน
ข่าว:thairath.co.th
Source: จ่อฟ้องเอาผิดพ่อแม่ นศ.อุเทน
วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557
ภรรยาร่มเกล้า"โพสต์เฟซบุ๊คขอบคุณ"คสช.-ผบ.ตร."จับชายชุดดำ
แหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
กล้องไอพี cctv ติดตั้งกล้องวงจรปิด
Source: ภรรยาร่มเกล้า"โพสต์เฟซบุ๊คขอบคุณ"คสช.-ผบ.ตร."จับชายชุดดำ
วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ประเภทของเลนส์กล้องวงจรปิด
ประเภทของเลนส์กล้องวงจรปิด
เลนส์ของกล้องวงจรปิดมีความสำคัญมากในการเลือกซื้อกล้องวงจรปิด เพราะเลนส์ของกล้องวงจรปิดนั้น มีหลายขนาดให้เลือก และภาพที่ออกมาในแต่ละเลนส์จะไม่เหมือนกัน ถ้าเลือกเลนส์ที่มีมิลลิเมตร(millimeter.)น้อยจะเน้นมุมภาพกว้างมากกว่าภาพลึก แต่ถ้าเลือกเลนส์ที่มีมิลลิเมตร(millimeter.)มากความกว้างของมุมภาพก็จะแคบแต่ความลึกของภาพจะชัดมากกว่า ซึ่งในปัจจุบันเลนส์ของกล้องวงจรปิดที่ใช้กันทั่วไป คือ 3.5 millimeter , 4 millimeter , 6 millimeter , 8 millimeter , 12 millimeter และ 16 millimeter ซึ่งกล้องวงจรปิดแต่ละรุ่นสามารถปรับเปลี่ยนเลนส์ตามความเหมาะสมได้ ดังนั้น เลนส์ของกล้องวงจรปิดสามารถแบ่งได้ 2 แบบ คือ
1. เลนส์แบบ Chemical-Mount จะมีความยาวจากช่วงท้ายเลนส์ถึงหน้าตัวรับภาพอยู่ที่ 17.5 millimeter. ในเรื่องของข้อต่อเลนส์กับกล้องนั้น เลนส์แบบ Chemical-Mount ควรจะใช้ข้อต่อแบบ Chemical-Mount แบบเดียวกันจะเหมาะที่สุด
2. เลนส์แบบ CS-Mount จะมีความยาวจากช่วงท้ายเลนส์ถึงหน้าตัวรับภาพอยู่ที่ 12.5 millimeter. ถ้าเอาข้อต่อแบบ Chemical-Mount มาใช้ในการต่อแบบ CS-Mount อาจจะทำให้ภาพเกิดความเสียหายได้ เพราะความยาวของเลนส์กล้องแบบ Chemical-Mount จะมีความยาวมากกว่าแบบ CS-Mount ดังนั้น ควรจะใช้ข้อต่อแบบ CS-Mount แบบเดียวกันมากกว่า
นอกจากนั้นในเรื่องของการรับรู้แสง (Aperture) และเปิด-ปิดม่านรับแสง (Eye)  ของเลนส์ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่ากัน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
1. เลนส์แบบเปิด-ปิด ด้วยมือ (Guidebook Eye) คือ การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของแสง เพื่อให้รูของการรับแสงเปลี่ยนไป ด้วยการใช้มือหมุนในส่วนของวงแหวนปรับม่านแสงที่ตัวเลนส์ ยิ่งปรับที่ตัวเลขน้อยรูม่านแสงก็จะเพื่มขึ้น ในทางกลับกันถ้าปรับไปที่ตัวเลขมากรูม่านแสงก็จะน้อยลง
2. เลนส์แบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ (Auto-Eye) คือ การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของแสงแบบอัตโนมัติร่วมกับการทำงานของกล้องวงจรปิด โดยในกล้องวงจรปิดจะมีตัวจ่ายไฟฟ้าให้เลนส์ทำงานแบบอัตโนมัติอยู่
วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
พ่อบุกขึ้นโรงพัก! ร้องหลวงตาข่มขืนลูกสาว 9 ขวบ
จากการสอบถาม นายศร ให้การว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทกล้องวงจรปิด ตนสังเกตเห็นว่าลูกสาว ด.ญ.ขวัญ (นามสมมติ) มีการซึมเศร้าและไม่ร่าเริงอย่างผิดปกติ จึงได้เค้นสอบถามกับลูกว่าเกิดอะไรขึ้น จนยอมเล่าให้ฟังว่า หลวงตาที่เป็นพระลูกวัดในหมู่บ้าน อายุประมาณ 65 ปี ทำการข่มขืนกระทำชำเราหลายครั้ง แลกกับขนมและเงินจำนวหนึ่ง พร้อมกับขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร
นายศร ยังเล่าต่ออีกว่า เมื่อตนทราบเรื่องว่าลูกสาวถูกข่มขืน จึงได้เดินทางไปสอบถามถึงที่กุฏิวัด แต่ปรากฏว่าหลวงตารูปดังกล่าวได้ปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้ล่วงละเมิดลูกสาวแต่อย่างใด ทำให้ตนรู้สึกโมโหจัดจึงกำหมัดชกใส่หน้าหลวงตาไป ก่อนจะมีลูกศิษย์วัดเข้ามาห้าม
ต่อมาหลวงตารูปดังกล่าวจึงได้ส่งผู้ใหญ่บ้านมาเจรจากับตน ยืนยันว่าหลวงตาไม่ได้ข่มขืนลูกสาวตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับเสนอเงินให้จำนวนหนึ่ง เพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบลงแต่โดยดี ตนจึงไม่ยินยอมรับเงินและเดินทางมาแจ้งความเอาเพื่อขอความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเคยทราบว่าพระรูปนี้มีประวัติลวนลามสีกาบ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้นำตัว ด.ญ.ขวัญ ไปตรวจร่างกาย เพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืนกระทำชำเราและนำมาเป็นหลักฐานประกอบการดำเนินคดี พร้อมกับเตรียมสอบปากคำ ด.ญ.ขวัญ กับผู้ปกครองอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
อ้างอิงจาก:sanook.com
วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
บริการติดตั้งกล้องวงจรปิด|กล้องcctv
ประสิทธิภาพความคมชัดของกล้องวงจรปิด สิ่งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญก็คือ &ldquoเลนส์&rdquo ซึ่งหน้าที่ของเลนส์สำหรับกล้องวงจรปิดนั้น ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเลนส์สำหรับกล้องถ่ายภาพทั่วไปมากนัก
สำหรับหน้าที่ของเลนส์นั้น คือการเป็นตัวรวมแสง และค่อยปรับระยะภาพให้มีขนาดใหญ่ - เล็ก ใกล้ &ndash ไกลตามความเหมาะสม โดยจะขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดของเลนส์ ซึ่งชนิดของเลนส์ที่นิยมใช้กันอยู่จะมี 3 ชนิดหลักๆ คือ
1. Repair IRISเป็นเลนส์ที่ไม่สามารถปรับช่องรับแสงได้ เหมาะกับการใช้ในสถานที่ภายในอาคารที่มีแสงสว่างคงที่ตลอดเวลา
2. Guide book IRISเป็นเลนส์ที่สามารถปรับช่องรับแสงได้ เหมาะสำหรับงานในอาคารที่มีความสว่างในแต่ละห้องไม่เท่ากัน ซึ่งสามารถปรับแสงให้เหมาะสมในแต่ละห้องได้
3.Automatic IRISคือเลนส์ที่สามารถปรับช่องรับแสงได้เองโดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับความเข้มของแสงที่ตกกระทบเลนส์ ซึ่งเหมาะสำหรับการติดตั้งนอกอาคารที่ความสว่างเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อม
ส่วนเลนส์ของกล้องวงจรปิดยังสามารถแบ่งตามการปรับระยะโฟกัส ซึ่งมี 3 ชนิดหลัก ๆ คือ
b Mono center : ระยะโฟกัสจะถูกกำหนดไว้ตายตัว จะเปลี่ยนไม่ได้ เช่น 4 มม.
b Glide : สามารถปรับระยะโฟกัสได้ภายในช่วงที่กำหนดไว้ เช่น 2.8-12 มม.และเมื่อเปลี่ยนระยะโฟกัสแล้ว จุดรวมแสงของเลนส์ก็จะยังคงอยู่
b Vari-center Glide : เมื่อเปลี่ยนระยะโฟกัส เลนส์จะต้องถูกปรับจุดรวมแสงใหม่ ซึ่งชนิดที่ใช้กันทั่วไปคือขนาด 3.5-8 มม.
สำหรับความยาวของระยะโฟกัสนั้น มีผลต่อองศาการมองเห็น เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสั้นกว่าจะมีพื้นที่การมองเห็นภาพกว้างกว่า เช่น เลนส์ 4 มม.จะมีองศาการรับภาพมากกว่าเลนส์ 12 มม. นอกจากนี้เลนส์ที่มีความยาวโฟกัสสั้นกว่าจะให้สัดส่วนของวัตถุผิดเพี้ยนมากกว่า
วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
ลูกชายเสี่ยอลูมิเนียม ดับคาเก๋งหรู เข็มฉีดยาปักคาแขน
ความคืบหน้ากรณีพบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์บีเอ็มดับเบิ้ลยู ที่จอดเอาไว้บริเวณถนนดวงพิทักษ์ ย่านคลองเตย พบเข็มฉีดยาปักคาอยู่ที่แขน เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (18 ก.ค.) เบื้องต้นน่าจะเกิดจากอาการเสพยาเกินขนาด
สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมากล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุพบคนเสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์เอ็มดับเบิ้ลยู รุ่น325 ไอ สี บรอนส์เทา หมายเลขทะเบียน 1 กฆ 7838 กรุงเทพมหานคร ซึ่งจอดติดเครื่องเอาไว้ริมถนนดวงพิทักษ์ จากการตรวจสอบพบว่าประตูถูกล็อคจากด้านในทั้ง 4 ด้าน เจ้าหน้าที่จึงได้งัดเพื่อเปิดประตู
เมื่อตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว พบศพผู้ชายแต่งกายดี นอนคว่ำหน้าอยู่ที่นั่งฝั่งคนขับ พบเข็มฉีดยาปักคาเอาไว้ที่แขนซ้าย อีกทั้งยังมีร่องรอยของเข็มฉีดยาอีกหลายตามแขนและขาหนีบ นอกจากนี้ยังพบเข็มฉีดยาใช้แล้วอยู่ภายในรถด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อในภายหลังคือ นายพลภัทร มหรัตนวิโรจน์ อายุ 32 ปี
ต่อมา นายสรศักดิ์ มหรัตนวิโรจน์ อายุ 36 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ โดยให้การว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องชาย ช่วยธุรกิจผลิตและส่งออกอลูมิเนียมทุกชนิดของครอบครัว แต่ภายหลังพบว่าติดยาเสพติด ทางครอบครัวจึงพาไปเข้ารับการบำบัดยาเสพติด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายพลภัทร มีนัดกับแพทย์ที่สถานบำบัด หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะสียชีวิตจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เนื่องจากเสพยาเสพติดเกินขนาด ส่วนเป็นยาเสพติดหรือสารประเภทใดกำลังรอผลจากทางนิติเวช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ คาดว่าน่าเสียชีวิตมา 2 วัน เนื่องจากมีพยานพบเห็นรถคันดังกล่าวจอดติดเครื่องทิ้งไว้ตลอด 2 วัน ก่อนจะพบศพผู้เสียชีวิต ขณะที่ทางญาติผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจเหตุการเสียชีวิต จึงมารับศพเพื่อดำเนินการพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
Source: ลูกชายเสี่ยอลูมิเนียม ดับคาเก๋งหรู เข็มฉีดยาปักคาแขน
วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
หนุ่มคลั่งอาละวาด ทำลายห้องขัง สน.คลองตัน ด่าตำรวจ
วันที่ 14 กรกฎาคม ร.ต.ท.จุฑาพงศ์ ชาญดิลกโชติ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ได้รับแจ้งจากห้องวิทยุสน.คลองตัน ว่ามีชายเมาสุราอาละวาดคลุ้มคลั่ง ภายในรอยัลคอนโดมีเนี ยม ซอยพัฒนาการ 30 แขวงและเขตสวนหลวง จึงนำกำลังไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.ท.สุพิณส์ สุขตะโก รองสว.ป.สน.คลองตัน ร.ต.ท.สถาพร โสตถิยิ้ม รองสวป.สน.คลองตัน ร.ต.ต.จงกล สุวรรณจันทร์กล้องcctv รองสว.ป.สน.คลองตัน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 23 ชั้น ประกอบกิจการเป็นห้องพักและสำนักงานให้เช่าบริเวณด้านหน้าพบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่นเอสแอลเค สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ย5381 กทม. โดยมี นายฮาซัน บีลัน อายุ 24 ปี ชาว จ.ยะลา สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำตาล สภาพมึนเมาพูดจาวกวน อยู่ภายในรถพร้อมกับ น.ส.ดีฟูซา ซานดาโรว่า (Dilfuza Shandjalilova) อายุ 24 ปี ชาวอุซเบกิสสถาน พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง
น.ส.ดีฟูซา อยู่ในสภาพหวาดกลัวทันทีที่พบเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้เล่าว่าถูก นายฮาซัน ทำร้ายร่างกายและข่มขู่ เจ้าหน้าที่จึงนำตัว นายฮาซัน ไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ทันทีที่เจ้าหน้าที่นำตัวมาถึงที่ สน.คลองตัน ก็มีอาการคลุ้มคลั่งอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยคำพูดหยาบคาย อาทิ "มึงรู้ไหมกูลูกใคร?" เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องคุมขัง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถพบขวดเหล้า 1 ขวด วางอยู่บริเวณใต้ที่นั่งด้านซ้ายและบริเวณที่นั่งฝั่งคนขับพบบุหรี่ 1 ซอง รวมทั้งกระโปรงหลังรถ เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนยาวบีบีกันซุกซ้อนอยู่ท้ายรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวน น.ส.ดีฟูซา เล่าว่า ได้รู้จัก นายฮาซันและเคยคบหาดูใจกันมา ระหว่างที่คบกันนั้น นายฮาซันได้ทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด จึงได้บอกเลิกรากันไป แต่นายฮาซันไม่ยอมตามงอนง้อเรื่อยมา จนกระทั่งช่วงเช้าที่ผ่านมาขณะที่ตนเดินทางมาที่คอนโดดังกล่าวเป็นที่ทำงาน นายฮาซันได้มาดักรอตนพร้อมกับฉุดกระฉากตน พร้อมขอเจรจาให้กลับมาคบกัน แต่ตนไม่ยอมจึงได้ขู่ทำร้ายตน ซึ่งขณะนั้นมีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นจำนวนมากจึงได้แจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไป
ต่อมาได้มี นายวิสุทธิ์ ลิ้มวัฒนา อายุ 54 ปี เจ้าของบริษัทดิจิตอล นิวเวิล์ด จำกัด ได้เดินทางมาที่ สน.คลองตัน พร้อมกับแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ว่าถูกรถของ นายฮาซัน ชนท้ายรถของตน เป็นรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นแฮคคอร์ด สีฟ้า หมายเลขทะเบียน พห 8604 กทม. ได้รับความเสียหายที่บริเวณท้ายรถ
นายวิสุทธิ์ เล่าว่า เมื่อช่วง 09.00 น. วันที่ 14 กรกฎาคม ขณะที่ตนขับรถออกมาเพื่อจะไปธุระ จนกระทั่งรถของตนมาถึงช่วงระหว่างซอยพัฒนาการ 32 รถคันดังกล่าวก็ได้พุ่งชนตนอย่างจัง หลังเกิดเหตุนายฮาซันก็ได้ลงมาเจรจาขอยอมความโดยเสนอเงินให้จำนวน 5,000 บาท แต่ตนไม่เอาเพราะจะเรียกประกัน นายฮาซันจึงได้รีบขึ้นรถและขับรถหลบหนีไปจึงได้เดินทางมาแจ้งความที่ สน.คลองตัน
ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าขณะที่ น.ส.ดีฟูซา กำลังลงบันทึกประจำวันอยู่นั้น นายฮาซันได้อาละวาดส่งเสียงดัง ทุบตีทำร้ายร่างกายตนเอง โดยการเอาหัวโขกกับรั้วเหล็กและกำแพง พร้อมกับทำลายข้าวของที่อยู่ในห้องขัง อาทิ ทุบโถส้วม ปีนป่ายลูกกรงเพื่อดึงกล้องวงจรปิดและทำลายทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงได้เจรจาเพื่อขอให้สงบสติอารมณ์ แต่นายฮาซันไม่ยอมได้ขว้างปาสิ่งก้อนอิฐใส่และด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ถ้อยคำหยาบคาย
พร้อมกล่าวว่าหากใครสามารถเดินเรื่องให้ออกจากห้องขังได้จะให้เงิน 100,000 บาท ผู้สื่อข่าวได้บอกให้นายฮาซันสงบสติอารมณ์กับถูกนายฮาซันต่อว่าอย่างรุนแรง พร้อมกับขว้างปาสิ่งของ จนเวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเข้าไปในห้องควบคุมขังพร้อมกับใส่กุญแจมือและแยก ขังไว้
จากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายฮาซัน เป็นบุคคลไม่มีสถานภาพทางทะเบียน ซึ่งหลังจากนี้จะประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รวมทั้งจะตรวจหาสารเสพติดเพิ่มเติม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเมาสุราอาละวาดก่อความเดือดร้อนรำคาญ , ชนแล้วหนี, ดูหมิ่นเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่, ทำให้เสียทรัพย์, พกพาสิ่งเทียงอาวุธปืน ก่อนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
แหล่งข่าว:sanook.com
วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557
บริการหลังการขายกล้องวงจรปิด
บริการหลังการขายของบริษัทกล้องวงจรปิด
ในปัจจุบันกล้องวงจรปิด กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นตามบ้านครัวเรือนต่างๆ หรือแม้แต่ทั้งบริษัท องค์กรขนาดเล็ก และองค์การขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีผู้ผลิตและจัดจำหน่ายจากทางบริษัทกล้องวงจรปิดได้นำสินค้าเข้ามาวางตลาด โดยเฉพาะการขายผ่านทางเว็บไซต์ ซึ่งมีทั้งที่เป็นในรูปแบบบริษัทและเป็นบุคคลที่นำสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาจำหน่าย ถ้าเป็นในรูปแบบของบริษัทกล้องวงจรปิดแล้ว เชื่อว่าสินค้าและการบริการของทางบริษัทนั้นได้มาตรฐานอยู่แล้ว โดยไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลว่าสินค้าที่ผู้ติดตั้งซื้อมาจะใช้งานไม่ได้ หรือถ้าใช้งานไม่ได้จริง ก็สามารถเรียกใช้บริการหลังการขายของบริษัทกล้องวงจรปิดได้
แต่ถ้าเป็นในรูปแบบบุคคลทั่วไปที่หิ้วสินค้าจากต่างประเทศมาจำหน่ายนั้น ผู้ติดตั้งกล้องวงจรปิดอาจจะต้องพิจารณาในการเลือกกล้องวงจรปิด ว่าสินค้าตัวนั้นเป็นอย่างไร แข็งแรงทนทาน เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่เราต้องการจะติดตั้งด้วยหรือเปล่า ซึ่งรูปแบบการขายแบบนี้นั้นแน่นอนว่าสินค้าหรือกล้องวงจรปิดที่ขายอยู่นั้นมีราคาถูกมาก แต่เราจำเป็นจะต้องมาติดตั้งเอง ซึ่งถ้าเลือกใช้สินค้ากล้องวงจรปิดแบบรายบุคคลแล้วอาจจะเป็นร้านค้าทั่วไป ที่ไม่ได้มีสิทรัพย์มีค่าอยู่ภายในร้านมากนัก และเมื่อเกิดการเสียหรือชำรุดก็ไม่สามารถโทรไปเปลี่ยนหรือเรียกให้ช่างเข้ามาซ่อมหรือเคลมต่อไปได้ ว่าง่ายๆคือซื้อทิ้งนั้นเอง เพราะเนื่องจากการขายแบบรายบุคคลนี้ จะไม่มีทีมงานมาซัพพอร์ตหรือแก้ปัญหาให้
ในกรณีเดียวกันกับการเลือกซื้อผ่านทางบริษัทกล้องวงจรปิด การดูแล การรับประกันสินค้าหรือการบริการหลังการขายนั้น ทางบริษัทกล้องวงจรปิดนั้น จะมีทีมงานและผู้เชียวชาญในการแก้ไขปัญหาหรือตอบข้อสักถามของเราได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนว่าราคาของกล้องวงจรปิดที่ขายผ่านทางบริษัทนั้น จะสูงกว่าเป็นเท่าตัว และคุณภาพของตัวสินค้าก็ดีกว่าอีกด้วย
ผู้ติดตั้งกล้องวงจรปิดที่กำลังมองหากล้องมาใช้งานนั้น นอกจากข้อมูลบริษัทที่ผู้ติดตั้งจะต้องคำนึงถึงแล้ว ผู้ติดตั้งอาจจะต้องรู้เกี่ยวกับ อุปกรณ์ของกล้องวงจรปิดด้วย ว่ามันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง เมื่อเวลาใช้งานและเกิดการชำรุด จะได้บอกเจ้าหน้าที่ได้ถูกว่าส่วนไหนไม่สามารถใช่การได้ เพื่อที่จะได้รับบริการหลังการขายจากทางบริษัทอย่างรวดเร็ว ชิ้นส่วนอุปกรณ์หลักๆของกล้องวงจรปิดนั้นมีอยู่ 5 ชิ้นส่วนหลักได้แก่
ตัวกล้อง เป็นตัวที่คอยจับภาพต่างๆที่ผู้ติดตั้งนำไปติดตั้งตามจุดต่างๆ เมื่อกล้องได้รับภาพนั้นแล้วจะแปลงออกมาเป็นสัญญาณไฟฟ้าเพื่อส่งต่อไปยังเครื่องบันทึกสัญญาณ
ส่วนที่สองคือเลนส์ เลนส์ทำหน้าที่เปรียบเสมือนดวงตาของเรา ที่คอยจับภาพตามความเหมาะสม เมื่อทางผู้ติดตั้งได้มีการปรับเปลี่ยนหรือตั้งค่าเลนส์ใหม่นั้น ความคมชัดของภาพที่จะได้ ก็จะออกมาตามเลนส์ที่ผู้ติดตั้งได้เลือกเอาไว้
ส่วนที่สามเครื่องบันทึก เป็นเครื่องที่คอยบันทึกข้อมูลหรือสัญญาณจากตัวกล้องวงจรปิด ถ้าเปรียบมันเหมือนร่างกายของมนุษย์แล้วเครื่องบันทึกเครื่องนี้ก็จะทำหน้าที่คล้ายสมองที่คอยบันทึกเรื่องราวต่างๆที่ได้รับมาจากดวงตา อีกทั้งมันยังสามารที่จะกลับมาเปิดดูย้อนหลังได้อีกด้วย
ส่วนที่ 4 จอภาพ เป็นเครื่องที่ค่อยแสดงภาพจากตัวกล้องวงจรปิด ได้แก่จอคอมพิวเตอร์ หรืออาจะเป็นจอ TV
ในส่วนที่ห้า เป็นส่วนของอุปกรณ์เสริมต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์เสริมจะช่วยรีดความสามารถให้กล้องวงจรปิดนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ขาตั้งกล้อง Housing ฯลฯ
เมื่อผู้ติดตั้งได้รู้จักส่วนต่างๆของกล้องวงจรปิดไปแล้ว อย่าลืมตรวจสอบอุปกรณ์สินค้าก่อนทุกครั้ง เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้า และตรวจสอบด้วยว่าสินค้าที่ซื้อนั้นมีใบรับประกันสินค้าหรือไม่ เป็นระยะเวลานานเท่าไร บริการหลังการขายเป็นอย่างไร ถ้าผู้ติดตั้งไม่รู้จะตรวจสอบอย่างไรนั้น ลองนำข้อมูลจากด้านล่างไปตรวจสอบก็ได้ครับ
- ลองตรวจสอบสภาพสินค้าว่ามีสภาพผิดปกติหรือชำรุดก่อนนำไปติดตั้งหรือไม่ อย่างเช่น มีรอย แตก ,หัก, บิ่น, งอ, ยุบ, เบี้ยว, ร้าว, ทะลุ, หรือบางส่วนที่หายไปไหม
- สินค้าที่ออกจากทางร้านที่ผู้ติดตั้งไปซื้อนั้นควรจะเป็นสินค้าได้รับการเก็บรักษาเป็นอย่างดีไม่มีรอยบุบ รอยไหม้ รอยสนิม เป็นต้น
- สินค้าที่ผู้ติดตั้งซื้อจะต้องสติ๊กเกอร์ รับประกันของบริษัทกล้องวงจรปิด หรือบริษัทผู้ผลิตกล้องวงจรปิดยี่ห้อนั้นๆซึ่งสติ๊กเกอร์จะต้องไม่มีรอยฉีก, ขาด, หลุด, หาย, ลบ, แก้ไข หรือถูกปิดทับจนไม่สามารถมองเห็นข้อมูลสำคัญบนสติ๊กเกอร์ได้
- กล้องวงจรปิดจากทางบริษัทจะต้องมีหมายเลขประจำตัวสินค้า หรือที่เรียกว่า Serial No ติดอยู่ที่อุปกรณ์กล้อง
และนี้คือข้อมูลคร่าวๆสำหรับผู้ที่กำลังเลือกหาบริษัทกล้องวงจรปิด เพื่อที่จะนำกล้องวงจรปิดมาใช้งาน อย่างไรก็ตามในการเลือกใช้งานบริษัทกล้องวงจรปิด จะต้องเป็นบริษัทเชื่อถือได้ในระดับมาตรฐาน เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วคุณแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่บอกว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นเท่านั้นเอง
ไม่ว่าผู้ติดตั้งจะเลือกซื้อกล้องวงจรปิดแบบใด ไม่ว่าจะเป็นซื้อจากทางบริษัทกล้องวงจรปิดเอง หรือซื้อตามร้านที่ขายทั่วไป สิ่งที่สำคัญที่ย้ำอยู่บ่อยๆนั้นคือ วัตถุประสงค์ของานใช้งานในแต่ละที่ และความเหมาะสมกับงานที่จะนำไปติดตั้ง